เมื่อวานหายหน้าหายตาไปวันหนึ่ง เพราะสมองมึนตึ๊บคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ไม่รู้เป็นไร ทั้งๆที่พักผ่อนไม่ทำอะไรนอกจากนอนอ่านหนังสือมาสัปดาห์เต็มๆ แต่พอกลับมาทำงานกลับไม่อยากทำซะอย่างนั้น ตลกดีครับ
นอนวิเคราะห์สาเหตุอยู่ตลอดคืน เข้าใจ(เอง)น่าจะมาจากโรคขี้เกียจนั่นแหละ พักซักวันเดี๋ยวก็ดีขึ้น ก็จริงอย่างว่าพเช้าวันรุ่งขึ้นนั่งจิบกาแฟอ่านโน่นอ่านนี้ไปเรื่อย ความอยากเขียนมันก็พลุ้งพล่านขึ้นมาเฉยๆ เลยต้องรีบเปิดโน๊ตบุ้กทันทีทันใด ไม่ต้องหาข้อมูลหาอะไรให้มากเรื่องมากราว ขอเห็นประเด็นใหญ่ๆที่แฟนบอลอิตาลีสนใจเท่านั้นพอแล้ว เดี๋ยวก็ไหลไปเองได้
คนที่เขียนหรือทำหนังสือมาทั้งชีวิต ใครๆมักคิดว่าไม่น่าที่จะเจอประสบการณ์อย่างนี้ บอกได้เลยว่าคิดผิดครับ เรื่องทำนองนี้มันเกิดขึ้นได้เสมอ แม้กระทั่งในช่วงที่สมองกำลังแล่นไหลลื่น แต่พอบทจะสะดุดขึ้นมาก็ไปไม่เป็นเอาเหมือนกัน
คุยซะเยอะเกือบลืมไปว่าจะคุยเรื่องอะไร พอดีเมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์ของอิตาลีไปเจอข่าวของมาริโอ บาโลเตลลี่หัวหอกเจ้าปัญหาของเบรสชาเข้าพอดี จำได้ว่าสองสามวันก่อนมีเข้ามาถามผมในช่วงไลฟ์กัลโช่ซึ่งทำกันทุกวันตอนสองทุ่ม เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเจ้าซูเปอร์มาริโอนี่แหละว่ามีโอกาสที่จะอยู่กับทีมรอนดิเนลเล่ต่อไปมากน้อยแค่ไหน หลังจากมีข่าวไม่ค่อยลงรอยกับดิเอโก้ โลเปซกุนซือดาวรุ่งชาวอุรุกวัยเท่าไหร่ ตอนนั้นผมก็ตอบไปแค่ความเป็นจริงจากข่าวว่าก็ดูทีท่าว่าจะค่อยดี เพราะเจ้าตัวเปรยๆว่าอาจจะอยู่แค่สิ้นฤดูกาลนี้เท่านั้น ทั้งๆที่สัญญาของเขาที่ถิ่นมาริโอ ริกามอนติยังอยู่กันอีกยาวถึงสองปีเลยทีเดียว
หลังจากนั้นเช้าวันอังคารก็มีข่าวตามาว่าบาโลเตลลี่ไม่ลงยอมซ้อมกับทีม ขณะที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆต่างลงซ้อมกันหมดทุกคน แต่เจ้าตัวไม่ปรากฏกายที่สนามซ้อมของสโมสร แต่อย่างเรื่องนี้ไปถึงหูผู้สื่อข่าวของกัซเซ็ตต้าฯ(แต่ละสโมสรจะมีผู้สื่อข่าวที่สำนักข่าวหรือหนังสือพิมพ์ส่งไปประจำเพื่อตามข่าวของทีมนั้นโดยเฉพาะ)เท่านั้น ผู้สื่อข่าวก็ต่อสายตรงโทรฯไปถามบาโลเตลลี่ทันทีว่าทำไมถึงไม่มาซ้อม
คำตอบที่ได้รับก็คือ “ไม่รู้และไม่อยากพูดอะไรไปตอนนี้”
คำตอบนี้ที่ทำให้กัซเซ็ตต้าฯเอาไปเล่นเป็นข่าวใหญ่เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมาว่า “ความสัมพันธ์ของบาโลเตลลี่กับเบรสชาถึงขั้นแตกหักไปแล้ว” จริงๆพาดหัวอย่างนี้ถือว่าเสี่ยงมาก เพราะหากไม่เป็นจริงขึ้นมาล่ะก็ หน้าแหกแน่นอนครับ ให้สื่อใหญ่ขนาดไหนก็ตามโดนคนอ่านวิจารณ์เละเทะแน่นอน แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพที่อ่านเกมค่อนข้างขาด ทำให้ยักษ์กีฬารายวันต้องพยายามหาทางลงให้ได้เช่นกัน (เพราะพลาดไปเดี๋ยวจะเหมือนกรณีที่โดนประธานเคลาดิโอ โลติโต้ของลาซิโอฟ้องร้องฐานเสนอข่าวเท็จ)ด้วยการ ต่อท้ายข่าวเอาไว้นิดหนึ่งว่าทั้งสองฝ่ายยังมีสัญญาผูกพันกันถึงปี 2022
อย่างไรก็ตามแม้มีข่าวไม่ลงรอยกับทีม แต่ผมมองว่าบาโลเตลลี่เองคงไม่คิดที่จะอยู่กับทีมรอนดิเนลเล่ยาวจนจบสัญญาอย่างแน่นอน เต็มที่ก็น่าจะจบแค่ฤดูกาลนี้เท่านั้น เหตุผลก็คือโอกาสอยู่รอดของเบรสชาในลีกสูงสุดแทบไม่มีเอาเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้มีแค่ 16 แต้มรั้งอันดับบ๊วยของตาราง ในทางทฤษฎียังมีโอกาสรอดได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วยากมากๆ ก็ไม่แปลกหรอกที่บาโลเตลลี่ออกอาการตีรวนเอากับทีมบ่อยๆ เพราะรู้ตัวว่าเล่นไปก็เท่านั้นยังไงก็ไม่รอด
แต่นั่นแหละเพราะว่าเขารู้สึกนึกคิดไปเอง และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือไม่มีความเป็นมืออาชีพอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ทั้งหมดผสมปนเปจนทำให้เขาเองไม่มีความรู้สึกอยากเล่นให้กับเบรสชาอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าข่าวล่าสุดซูเปอร์มาริโอกลับมาซ้อมกับทีมแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา