3 มิ.ย. 2020 เวลา 08:44 • ประวัติศาสตร์
แมรี สจ๊วต ราชินีดวงกินคน
Mary Stuart หรือสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่1 แห่งสก็อตแลนด์ ญาติผู้น้องของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ
เซอร์ช่า โรแนน รับเป็นแมรี สจ๊วต ในเรื่อง Mary, Queen of Scots
ตามประวัติศาสตร์ชีวิตของพระองค์ค่อนข้างอาภัพ และน่าสงสาร ถึงแม้จะเกิดเป็นเจ้าหญิง แต่บังลังก์ของสกอตแลนด์ไม่ได้มั่นคงเหมือนบังลังก์อังกฤษ
แล้วทำไมถึงบอกว่า แมรี่ สจ๊วตเป็นราชินีที่มีดวงกินคน? เพราะทั้งชีวิตของพระนางตั้งแต่เกิดมาจนสิ้นลมหายใจ คนรักของพระนางก็ตายจากกันไปหมด
1
พระราชวังลินลิทโกว์เวสต์โลเทียน Linlithgow Palace
พระเจ้าเจมส์ที่5 แห่งสกอตแลนด์ และ พระนางมารีแห่งกีส
เพียงแค่แมรี่ ถือกำเนิดขึ้นในพระราชวังลินลิทโกว์เวสต์โลเทียน ได้เพียง
6วันเท่านั้น พระเจ้าเจมส์ที่5 แห่งสกอตแลนด์ หรือพระบิดาของพระนางก็สิ้นพระชนม์ ทำให้เด็กน้อยแมรี่ ในวัย6วันต้องกลายเป็นประมุขของประเทศทันทีในปีค.ศ.1542
พระมารดาของพระนาง มารีแห่งกีส จึงรับหน้าที่สำเร็จราชการแผ่นดิน และ
แมรี่ สจ๊วตถูกส่งไปอยู่ที่ฝรั่งเศส เพราะแม่ของพระนางเป็นคนฝรั่งเศสเเห่งตระกูลกีส ขณะเดียวกันก็ได้หมั้นหมายกับเจ้าชายฟรานซิส มกุฎราชกุมารแห่งฝรั่งเศสด้วย
เจ้าชายฟรานซิส
เมื่ออายุได้15ปี พระนางก็ได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟรานซิสในวัย13-14 เรื่องน่าเศร้าก็คือ พระราชาอองรีที่2 บิดาของเจ้าชายสิ้นพระชนม์ในวันแต่งงาน ด้วยสาเหตุประลองทวนบนหลังม้า
งานแต่งงานของเจ้าชายฟรานซิสและเจ้าหญิงแมรี ในเรื่อง Reign
พระเจ้าอองรีที่2 แห่งฝรั่งเศส Henry II of France
โดยปกติแล้วพระราชาอองรีเป็นผู้ที่มีความสามารถในการประลองทวนอย่างมาก แต่เพราะพระองค์ดื่มไวน์จัดในงานเฉลิมฉลองจึงไม่สามารถคุมวรกายได้ตอนแข่ง ทำให้พลาดท่าถูกอีกฝ่ายแทงทะลุเกราะหมวกจนตกหลังม้า พระองค์ทนพิษบาดแผลได้10วันก็สวรรณคต ทำให้เจ้าชายฟรานซิสกลายเป็นพระราชาทันที
Death of King Henri II of France Cr. E.KLEIN
ว่ากันว่าพระราชาฟรานซิสเป็นผู้ที่มีร่างกายเล็ก ผิดกับพระนางแมรี่ที่สูงใหญ่กว่า จึงมีข่าวซุบซิบว่าฟรานซิสไม่ค่อยถนัดเรื่องบนเตียงเท่าไหร่ จึงไม่มี
รัชทายาทสักที
ตอนนี้แมรี่ สจ๊วตก็ได้กลายเป็นสมเด็จราชินีนาถแห่งสกอตแลนด์ และควบ
ตำแหน่งราชินีฝรั่งเศสจากการแต่งงานด้วย
แต่ชีวิตของพระนางก็ไม่ได้มีความสุขเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นมีโหราจารย์ชื่อดังของฝรั่งเศส นามว่า มีแชล เดอ นอสทร์ดาม หรือ นอสตราดามุส เขาเป็นทั้งเภสัชกร และนักทำนายผู้มีชื่อเสียงจากการทำนายดวงแบบราศี และการ
รักษากาฬโรค แถมยังเป็นคนโปรดของพระราชินีแคทเธอรีน มารดาของฟรานซิสด้วย เขาเคยได้ให้ทำนายว่า พระราชาอองรีจะสิ้นพระชนม์ด้วยคมอาวุธ
พระนางแมรี่ จึงขอให้นอสตราดามุสทำนายดวงชะตา เพียงแค่ดูเส้นลายมือ
สองข้าง เขาก็ทำนายว่า พระนางแมรี่ มีดวงต้องตายมาตั้งแต่กำเนิดแล้ว แต่ที่รอดมาได้ เพราะเอาชีวิตของพระเจ้าเจมส์ที่5 หรือพ่อของพระนางไป
เขายังทำนายต่ออีกด้วยว่า ตลอดชีวิตของพระองค์ จะเจอแต่เรื่องร้ายๆ
ทำให้แมรี่ไม่พอใจอย่างมาก พระนางคิดว่า ตัวเองเป็นถึงราชินีแห่งสกอต
แลนด์และฝรั่งเศส จะมีดวงแบบนั้นได้อย่างไร และคิดว่าคำทำนายนั้น เป็นเรื่องตลก และเชื่อถือไม่ได้
แคทเธอรีน เดอ เมดีชี พระมารดาของฟรานซิส และ นอสตราดามุส
แต่เพียงไม่กี่เดือนหลังการทำนาย พระราชาฟรานซิสในวัย17-18ปี ก็เกิด
อาการปวดหูอย่างหนัก พระนางแมรี่เริ่มวิตก เพราะกลัวว่าหากฟรานซิสเป็น
อะไรไป บังลังก์สกอตแลนด์ต้องมีปัญหาแน่ เพราะยังไม่มีทายาท อีกทั้งงานแต่งยังมีเงื่อนไขด้วยว่า หากพระนางยังไม่มีทายาท แผ่นดินของสกอตต้อง
ตกไปอยู่กับฝรั่งเศส
ฟรานซิสที่2แห่งฝรั่งเศสสิ้นพระชนม์
นอสตราดามุสได้ทำนายว่า มีหนอนเข้าไปชอนไชอยู่ในหู ลึกไปถึงสมองแล้ว อีกไม่นานก็จะสิ้นพระชนม์ และมันก็เป็นจริงดังคำทำนาย ฟรานซิส ครอง
บังลังก์ไม่ถึงสองปีก็สิ้นพระชนม์ พระนางแมรี่กลายเป็นหม้ายเพียง18ปีเท่า
นั้น
เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากกับพระราชินีแคทเธอรีน พระองค์คิดวางยาพระนางแมรี แต่เจ้าชายชาร์ลส์ น้องชายของฟรานซิสในวัย9ขวบ ได้นำ
ข่าวมาบอกแมรีก่อน พระนางจึงรีบหนีออกไปจากฝรั่งเศส และกลับไปหาแม่ที่สกอตแลนด์
พระเจ้าชาร์ลส์ที่9 แห่งฝรั่งเศส Charles IX of France
แต่ระหว่างทางก็ได้รับข่าวร้าย เพราะพระมารดาของแมรี่สิ้นพระชนม์แล้ว
เมื่อถึงสกอตแลนด์ ผู้คนที่นั่นก็เปลี่ยนการนับถือศาสนาจากคาทอลิคเป็น
โปเตสแตนต์ทั้งประเทศ
พระนางแมรี่ที่แต่เดิมนับถือ คาทอลิคก็ถูกต่อต้าน ณ ตอนนั้น พระราชินีแมรีแห่งสกอตแลน์ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตำแหน่งราชินีและการบริหารประเทศจึงไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นัก
แมรีที่1 แห่งสกอตแลนด์ และ เอลิซาเบธที่1 แห่งอังกฤษ
ขณะนั้นอังกฤษมีพรมแดนติดกันกับสกอตแลนด์ พระนางคิดว่าหากเกิดปัญ
หาขึ้นมาจริงๆ ก็สามารถอพยพไปได้ เพราะมีเอลิซาเบธ ญาติของพระนาง
ปกครองอยู่ พระนางแมรี่คิดว่า ยังไงเลือดก็ย่อมข้นกว่าน้ำ
แต่หารู้ไม่ว่า เอลิซาเบธไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก เพราะแมรี่มีสายเลือด
สจวร์จเช่นเดียวกัน และตามกฎมลเฑียลบาล บังลังก์อังกฤษจะตกเป็นของ
แมรีได้
ตอนที่กลับมาอยู่ที่สกอตแลนด์ แมรีได้ตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า เฮนรี สจวร์ต หรือ ลอร์ด ดาร์นลีย์ เขามีหน้าตาหล่อเหลา สามารถมัดใจแมรีได้
และได้แต่งงานกันในที่สุด ตามแบบโปรเตสแตนต์
Lord Darnley ลอร์ด ดาร์นลีย์
การแต่งงานของลอร์ด ดาร์นลีย์และพระนางแมรี ในเรื่อง Reign
แต่นี่คือฝันร้ายสำหรับแมรี เพราะหลังจากอภิเษก ดาร์นลีย์ ก็เผยธาตุแท้ของตัวเองออกมา ในคืนแรกที่สมรส เขาควงคู่กับชายชู้บนเตียง ทำให้แมรีตกใจ และถึงกับซึมไปเลย
ต่อมาเกิดกบฏขึ้น เพื่อแก้เผ็ดสามีตัวเอง จึงส่งลอร์ด ดาร์นลีย์เข้าไปร่วมรบ แต่เขาเป็นคนที่ขี่ม้าไม่เป็น จับดาบคงไม่ต้องพูดถึง แมรี่ทำให้ลอร์ด ดาร์นลีย์เสียหน้าอย่างมาก เขาจึงเก็บความคับแค้นไว้ในใจ
ลอร์ด ดาร์นลีย์และพระนางแมรี Cr. Fortunino Matania
การปราบกบฏครั้งนี้ แมรีลงสนามรบด้วยตัวเอง ทำให้พระนางได้รับคำชม
อย่างมาก แต่ดาร์นลีย์ก็ไม่วาย แค้นแมรี่อย่างถึงที่สุด เขาร่วมมือกับชู้ของตัวเอง ข่มขื่น แมรีจนตั้งท้อง จนคลอดลูกชายออกมาด้วยความเคียดแค้น เด็กทารกผู้นี้คือ เจมส์ที่6 แห่งสกอตแลนด์ และ เจมส์ที่1 แห่งอังกฤษ นี่เอง
พระเจ้าเจมส์ที่6 แห่งสกอตแลน์และที่1 แห่งอังกฤษ James VI and I
หลังจากนั้น พระนางก็เตรียมตัวเองเสียใหม่ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับ
สกอตแลนด์ แมรีได้ร่วมมือกับ ลอร์ด บอทเวล หรือ เจมมี รักครั้งใหม่ของ
พระนางตอนที่ตั้งครรภ์ แต่ได้รับการต่อต้านจากขุนนางโปรเตสแตนต์อย่าง
เนืองๆ
การแต่งงานของลอร์ด บอทเวล และพระนางแมรี Cr. James Drummond
ไม่นานก็เกิดระเบิดขึ้นที่คฤหาสน์ของลอร์ด ดาร์นลีย์ ทำให้เขาถึงแก่ความ
ตาย บ้างก็อ้างว่าเป็นฝีมือของแมรี และคนรักใหม่ของพระนาง
แต่ไม่กีเดือนหลังจากสามีเก่าตาย แมรีก็แต่งงานกับเจมมี่ทันที เป็นเรื่อง
โจษจันไปทั่วอาณาจักรสกอตแลนด์ จนเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติเพราะประชาชนไม่ยอมรับพระราชาองค์ใหม่
เป็นการคัดสินใจที่ผิดพลาดอีกครั้งของแมรี สงครามครั้งนี้ตั้งป้อมห่าง
ใจกลางเมืองหลวงเอดินบะระไม่มาก แต่ก็มีคนเข้าร่วมกบฏมากมาย ทำให้มีการเจรจาหย่าศึกขึ้น เจมมีรอดไปได้ แต่แมรีถูกคุมตัว พระโอรสของพระนางจึงอยู่ภายใต้การดูแลของพวกโปเตสแตนต์
1
พระนางแมรี เซ็นสัญญาสละราชบังลังก์
พระนางแมรี่ถูกนำตัวไปขังในปราสาทเก่าอยู่นานหลายปี ก่อนหลบหนีไปอยู่อังกฤษ ซึ่งมีญาติผู้พี่อย่างเอลิซาเบธปกครองอยู่แต่พระนางก็ต้องหลบจากอังกฤษ ไปอิตาลีอีกครั้งเพื่อขอให้องค์พระสันตะปาปาช่วยเหลือ
หลายปีที่นางอพยพไปอยู่โรมมีตำนานเล่าว่า พระนางได้แต่งงานใหม่กับ
ดอนจอห์น(จอร์นแห่งออสเตรีย) น้องชายของเจ้าชายฟิลิปแห่งสเปน ก่อนจะเตรียมตัวรบกับอังกฤษ ดอนจอห์น ตายจากสงครามที่เขาไปรบกับแขกเติร์กในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ส่วนลอร์ด บอทเวล หรือเจมมี่ ก็หายสาบสูญ บ้างก็ว่ากลายเป็นคนเสียสติและตายไปในที่สุด
หลายปีผ่านไป พระนางแมรี่เตรียมกำลังพลเพื่อรบกับอังกฤษ โดยได้รับคำ
มั่นจากประเทศยุโรปที่นับถือคาทอลิกเพื่อทำสงครามศาสนา ที่มีชื่อว่า
โฮลี ลีก(Holy League)
1
แมรี่ลอบเข้าอังกฤษเพื่อเตรียมแผนโค่นบังลังก์ แต่กลับพลาด โดนจับตัวได้ จากนั้นถูกนำไปขังในปราสาทฟาเธอริงเกย์ ในอังกฤษ และถูกประหารชีวิต
ด้วยขวานใหญ่ในปีค.ศ.1587ในที่สุด
พระนางแมรีถูกประหารชีวิตด้วยขวานเล่มใหญ่
เป็นการจบตำนานสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่1 แห่งสก็อตแลนด์ที่มีดวงกิน
ใกล้ตัว พระสวามีของแมรี่ ทั้ง4คนต่างหายตายจากไปหมดทั้งสิ้น ไม่รวมบิดาของพระนางที่ตายตั้งแต่นางเกิด และพ่อของสามีเก่าพระราชาอองรีที่ 2
ท่ามกลางกระแสวิจารณ์อย่างหนักของผู้คนในศตวรรษที่16 ทำให้พระนาง
ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ราชินีแมรี่ผู้อาภัพ ราชินีแมรีไร้บังลังก์ หรือราชินีแมรีดวงกินคน
**อ้างอิงจาก หนังสือ ราชินีจอมโหด
โฆษณา