30 พ.ค. 2020 เวลา 10:54 • ความคิดเห็น
คนเลี้ยงสัตว์
เรื่องของสัตว์เลี้ยง หนูคิดว่าทุกคนอยากหาความสุขเข้ามาสู่ตนเองทั้งนั้น โดยเฉพาะการนำพาสัตว์เลี้ยงต่างๆ มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว..
แม้กระทั่งตัวหนูเอง ก็เป็นคนรักสัตว์เช่นกัน...
จะว่าไป การที่เรามีสัตว์ชนิดใดก็แล้วแต่ เวลาเราเข้าถึงจิตวิญญาณของสัตว์นั้นๆ เราสามารถรู้ได้แม้กระทั่งจิตใจและอารมณ์ของเขา...
สัตว์ต่างๆ ไม่สามารถพูดได้เช่นคน เขาไม่สามารถบอกเราได้เลยว่า เขาป่วย เขาไม่สบาย เขาเจ็บปวดตรงไหน เขาไม่สามารถบอกเราได้ด้วยคำพูด แต่เขาจะแสดงออกมาโดยท่าทางและสีหน้า ซึ่งเมื่อไหร่ ที่อารมณ์เราเข้าถึงจิตวิญญาณของสัตว์นั้นๆแล้ว เราจะสามารถรับรู้ได้โดยตรงจากที่เขาแสดงนั่นเอง..
ทุกวันนี้ หนูก็มีสัตว์เลี้ยงเหมือนกัน เป็นสุนัขพันธุ์บ้านๆนี่แหละ และมีน้องแมวอีกด้วย ...
หนูก็เลี้ยงเขาด้วยความรัก และเข้าถึงเขาให้ได้มากที่สุด
เพราะเราจะได้รับรู้ถึงอารมณ์และอาการของการแสดงออกมาทางร่างกาย ...
เวลาสัตว์เจ็บป่วย เราจะได้สังเกตและรักษาได้ทันท่วงที...
หนูเป็นคนรักสัตว์มากๆ เวลาสัตว์บาดเจ็บไข้ได้ป่วย หนูจะมีอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับทันที มันเป็นอารมณ์ของคนรักสัตว์จริงๆ คิดว่าทุกคนที่รักสัตว์คงจะเป็นแบบนี้..
ขอยกตัวอย่างเคสของหนูเอง
หนูก็มีสุนัขชื่อเจ้าสิงห์ เป็นสุนัขที่หนูรักมากแต่ไม่เคยได้สนใจมันมากเท่าไหร่ อาชีพหนูคืออาชีพเกษตรกรอินทรีย์ วันๆก็มัวทำแต่งาน เพื่อหาเลี้ยงชีพตนเอง จนลืมไปว่าเราก็มีสุนัขที่เราเลี้ยงไว้มานาน คือเจ้าสิงห์ ...
ด้วยความที่ว่าหนูเป็นครอบครัวคนจนซึ่งเงินทองก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ความคิดหลักคือการใช้เงินโดยเลี้ยงชีพอันดับแรก โดยการเลี้ยงสุนัข ก็เลี้ยงด้วยตามมีตามเกิดนั่นเอง ...
แต่วันนึงเรื่องร้ายๆก็เกิดขึ้น เมื่อเจ้าสิงห์โดนเห็บหมัดกิน โดยที่เราก็ปล่อยไว้เป็นแรมเดือน โดยไม่รู้จักวิธีรักษาอันแท้จริง . . .
เงินทองเราก็ไม่ค่อยมีเนอะ ได้แต่ซื้อยาฆ่าเห็บหมัด เม็ดละ 10 บาท 20 บาท มาให้เขากิน ... กินเท่าไหร่เห็บหมัดมันก็ไม่ตายมันก็ยังอยู่เหมือนเดิม ...
จนกระทั่งน้องสิงห์ มีเลือดออกจมูก จำนวนมาก ...
เราก็นึกว่าเขาใช้เล็บเท้า เกาจนเป็นแผลที่โพรงจมูก ... พอผ่านพ้นไปหลายวัน น้องก็เริ่มผอมลงและไม่มีแรง...
ซึ่งระยะนี้คือระยะสุดท้ายที่น้องจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ... เพราะน้องเกล็ดเลือดต่ำมากเหมือนไม่มีเลือดอยู่ในตัวแล้ว เพราะสาเหตุเกิดจากเห็บหมัดกัดกิน แล้วเชื้อเข้าไปอยู่ในกระแสเลือดนั้นเอง...
จึงตัดสินใจโทรหาสัตวแพทย์ เพื่อให้มาดูอาการของน้อง ... เมื่อหมอมาเขาสงสารเจ้าสิงห์มาก เลยขอนำตัวไปรักษาที่คลินิก...หนูก็รู้สึกเป็นห่วงมันมากกินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้ทั้งคืน ซึ่งเงินทองเราก็ไม่มีเนาะ ก็เกิดการคิดมากเป็นธรรมดา ... หนูก็สู้กับการที่จะให้มันมีชีวิตรอดกับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง หาเงินทุกวิถีทาง เพื่อจะนำไปรักษาน้อง ...
แต่สุดท้าย เราก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเขาไว้ได้ ... เพราะเรารักษาเขาช้าเกินไป..
ตอนที่ไปรับศพน้อง ตัวเราเองก็เหมือนคนกำลังจะตายเช่นกัน รู้สึกใจหาย ร้อนวูบวาบวูบวาบไปหมด แต่เราก็ต้องทำใจในสิ่งที่เกิดขึ้น...
หนูเลยตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่า หนูจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่ให้ดีที่สุด
เพราะหนูรู้แล้วว่าความทรมานด้านจิตใจมันเป็นยังไง
สุดท้ายนี้ หนูก็อยากฝากบอกทุกๆคนที่มีสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้านของตัวเอง
เราเลี้ยงเขาเราก็รักเขาเนาะ เหมือนคนในครอบครัวเราคนนึง จงอย่าทิ้งเขา เราต้องดูแลเขาให้ดี สัตว์ทุกชนิดไม่สามารถพูดกับเราได้ในยามที่เขาเจ็บไข้ได้ป่วย แต่ทุกคนจะต้องสังเกตและเข้าถึงอารมณ์เขาให้ได้มากที่สุด..
ไม่มีใครหรอก ที่อยากมองเห็นสัตว์ตัวเองตายต่อหน้าต่อตา ...
รู้ไหม เวลาที่เราเห็นสัตว์ตายต่อหน้าต่อตาเรา มันโคตรทรมานจริงๆ ในส่วนนี้หนูเคยเจอมาแล้วจริง..
การเลี้ยงสัตว์ก็เหมือนการทำบุญ คือ การต่อชีวิต ให้เขาเติบโตไปในวันข้างหน้า
เวลาเราเลี้ยงเราเห็นเขามีการเจริญเติบโตที่ดี เขามีความสุขเราก็มีความสุขกับเขาไปด้วย ...
เรานำเขามาเลี้ยงแล้ว จงรักษา จงอย่าทิ้งเขาเวลาเขาเจ็บไข้ได้ป่วย ... ดูแลเขาให้ดีที่สุดจนถึงวาระสุดท้ายนะครับ...
โฆษณา