1 มิ.ย. 2020 เวลา 04:30 • ประวัติศาสตร์
สาระน่ารู้ 'ทิมบัคตู' ศูนย์กลางความเจริญด้านการศึกษาและศาสนาช่วงศตวรรษที่ 13 - 14 ของแอฟริกา
WIKIPEDIA PD
ทิมบัคตู (Timbuktu) คือเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในประเทศมาลี ที่เคยรุ่งเรืองในช่วงศตวรรษที่ 13 – 14 จากการค้าเกลือ ทองคำ และงาช้าง ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นเมืองในตำนานที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดอีกแห่งของโลก นอกเหนือจากความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ทิมบัคตู ยังรุ่งเรืองด้านศาสนา การศึกษา ศิลปะ และวิทยาศาสตร์ และนี่คือเกร็ดสาระน่ารู้ของเมืองทิมบัคตู ศูนย์กลางความเจริญบนทะเลทรายซาฮารา ณ ทวีปแอฟริกาที่ยิ่งใหญ่
1. จากการสืบค้นทางโบราณคดีระหว่างปี 2008 – 2010 ทำให้พบหลักฐานว่าเมืองทิมบัคตูนั้นเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ 500 ปี ก่อนคริสตกาล ในฐานะเส้นทางการค้าในทวีปแอฟริกา และเริ่มมีการตั้งถิ่นฐานของผู้คนในอีกไม่กี่ร้อยปีต่อมา
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
2. ในช่วงที่จักรวรรดิซองไฮ ที่เคยรุ่งเรืองทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา ทิมบัคตูเป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านการศึกษาและด้านศาสนาอิสลาม โดยมีมหาวิทยาลัยอัลกุรอ่านกว่า 180 แห่ง ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิแมนซา มูซา
3. Sankore Madrasah ในเมืองทิมบัคตู คือหนึ่งในมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลกที่ก่อตั้งในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับมหาวิทยาลัยออกฟอร์ดของอังกฤษในศตวรรษที่ 14 โดย Sakore Madrasah นั้นเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดของชาวมุสลิมที่สามารถรองรับนักศึกษาได้กว่า 25,000 คน
WIKIPEDIA PD
4. นอกจากหอสมุดอเล็กซานเดรียในอียิปต์ ยังมีหอสมุดในเมืองทิมบัคตู
ที่ได้ชื่อว่าเป็นหอสมุดขนาดใหญ่ของโลก โดยหอสมุดในเมืองทิมบัคตูนั้นรวบรวมหนังสือกว่า 700,000 เล่ม ทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม และบันทึกทางประวัติศาสตร์ของแอฟริกันชนเผ่า
5. ทิมบัคตู ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ ‘เมืองแห่งนักบุญ 333 องค์’ ที่มาจากเหล่าบรรดานักวิชาการและครูบาอาจารย์ชาวมุสลิมที่ได้รับการยกย่องด้านภูมิปัญญาที่ล้ำลึกและความมีน้ำใจงดงาม ผู้แสวงบุญชาวมุสลิมหลายคนจึงเดินทางไปที่เมืองแห่งนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่เหล่าบรรดานักบุญเหล่านี้
6. ทิมบัคตู ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรต่าง ๆ มากมายกว่า 900 ปี ที่ผ่านมา ในตอนแรกมันถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรมาลีในช่วงต้นศตวรรษที่ 14 และถูกพวกชนเผ่าตัวร์เรคปกครองช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 15 ก่อนถูกจักรวรรดิซองไฮยึดครองในปี 1468 หลังจากนั้นก็เกิดสงครามระหว่างโมร็อกโกและจักรวรรดิซองไฮเพื่อแย่งชิงเมืองนี้ จนกระทั่งฝรั่งเศสเข้ามาในปี 1893 ก่อนกลายเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐมาลีในภายหลัง
7. ชาวยุโรปให้ความสนใจเกี่ยวกับตำนานแห่งความมั่งคั่งของเมืองทิมบัคตู จุดเริ่มต้นเกิดจากคำบอกเล่าของพ่อค้าชาวแอฟริกันที่ชื่อชาเบนี ได้บอกเล่าความเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งของเมืองทิมบัคตูให้พ่อค้าชาวสเปนนามว่า ลีโอ แอฟริกานัส แต่เมื่อชาวยุโรปไปถึง ก็พบว่าเมืองแห่งนี้มีแต่ความว่างเปล่า เพราะในตอนนั้นทิมบัคตูได้เสื่อมโทรมลงไปมากแล้ว
WIKIPEDIA PD
8. คณะสำรวจชาวยุโรปที่ต้องเดินทางมาไกลข้ามน้ำข้ามทะเลทรายมาเจอกับความแห้งแล้งและว่างเปล่า ข้ามทะเลทรายมาเจอกับความแห้งแล้งและ
ว่างเปล่า จึงใช้คำว่า 'ทิมบัคตู' เป็นคำอุปมาสำหรับสถานที่ห่างไกลและ
ทุรกันดาร
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
9. ในปี 1988 สุสานและโบราณสถานในทิมบัคตูหลายแห่งถูกเสนอชื่อให้เป็นมรดกโลก ในอีกหลายปีต่อมาก็มีโบราณสถานอีกหลายแห่งที่ถูกเสนอชื่อ และได้รับการบูรณะและเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย
MNLA ที่มีสมาชิกจากชนเผ่าตัวร์เรค ได้ทำลายโบราณสถานและสุสานโบราณบางส่วนที่ล้ำค่าภายในเมืองทิมบัคตู
10. ภายหลังได้มีการเคลื่อนย้ายหนังสือที่มีค่ากว่า 300,000 เล่ม ไปยังสถานที่ปลอดภัยเพื่อเก็บรักษา และเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงเข้า
มาทำลายสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ได้
โฆษณา