Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อยากเขียน
•
ติดตาม
1 มิ.ย. 2020 เวลา 07:06 • บันเทิง
[Face off ไขคดีฆาตกรรมปริศนาศพไร้หน้า]
- บทที่ 1 ความทรงจำ -
“เฮือก!!”
ผมสะดุ้งสุดตัว หายใจหอบ หัวใจเต้นรัวแทบทะลุออกมานอกอก ผมค่อยๆลืมตารู้สึกสายตาพร่าเลือน พอพยายามเพ่งมองเบื้องหน้าปรากฏเห็นเป็นเพดานสีขาวเรียบๆ….
ภาพแรกที่ผมเห็น
คล้ายกับเป็นเพดานของห้องที่ไหนสักแห่ง ผมพยายามเพ่งสายตาจนค่อยๆมองเห็นชัดเจนขึ้น ผมเคลื่อนสายตามองไปรอบๆตัวอย่างช้าๆ มีโซฟาอยู่ตรงมุมซ้ายสุดของห้อง พร้อมโต๊ะดีไซน์เรียบๆ ทางขวามือเป็นประตูกระจก ซึ่งคาดว่าเป็นประตูระเบียง…สังเกตจากแสงแดดที่ส่องผ่านเข้ามาในห้อง นี่คงเป็นเวลาไม่ต่ำกว่าเที่ยง ผมก้มลงมองดูตัวเองพบว่าตัวเองกำลังสวมชุดคนป่วยของโรงพยาบาล พอขยับแขนก็รู้สึกตึงๆแปล๊บๆที่หลังมือข้างซ้าย ผมค่อยๆยกมือขึ้นมาดู พบว่าตัวเองกำลังโดนให้น้ำเกลืออยู่… นี่มันเกิดอะไรขึ้น พอผมพยายามนึกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาอย่างรุนแรง
“โอ๊ยยยยยยยยย” ผมร้องลั่นยกมือขึ้นกดศีรษะตัวเองไว้แน่น นี่มันปวดอะไรอย่างนี้
แกร๊ก!!
“อ้าว เฮ้ย เป็นอะไรวะ นุ!!” ชายคนหนึ่งเปิดประตูห้องเข้ามา มีท่าทีตกใจเมื่อเห็นผมร้องลั่น นอนดิ้นอยู่บนเตียง แล้วรีบปราดเข้ามาหา
“แกเป็นอะไรวะ ปวดหัวเหรอ ใจเย็นๆนะเดี๋ยวเรียกหมอให้” ชายคนดังกล่าวดูอาการผม พลางหันไปกดปุ่มฉุกเฉินข้างๆ
“หมอครับ เพื่อนผมปวดหัวมากเลย รีบเข้ามาดูหน่อยครับ เร็วๆนะครับ”
“โอ๊ยยยยยยยยยยยย” ผมร้องด้วยความเจ็บปวด
สักพักหมอกับพยาบาลรีบเข้ามาดูอาการ หมอหันไปสั่งอะไรบางอย่างกับพยาบาล พยาบาลก็หยิบเข็มฉีดยาขึ้นมาแล้วฉีดเข้าที่แขนของผม ผ่านไปครู่เดียว ผมเริ่มรู้สึกว่าอาการปวดเมื่อครู่ค่อยๆทุเลาลง แล้วเปลี่ยนเป็นอาการชา
“หมอฉีดยาระงับปวดชั่วคราวให้ก่อนนะครับ เท่าที่ดูคนไข้เพิ่งฟื้น อาการปวดศีรษะรุนแรง อาจเป็นผลข้างเคียงจากการที่คนไข้ได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง ซึ่งตอนนี้ ผลจากการสแกนสมอง ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงคาดว่าอาการปวดจะค่อยๆทุเลาลงภายในสองสามวัน อย่างไรหมอจะตรวจเช็คร่างกายให้ละเอียดอีกครั้งนะครับ”
“หมอครับ….ผมอยู่ที่ไหน?” ผมถามด้วยความมึนงง
“ที่นี่โรงพยาบาล xxxxx แกได้รับบาดเจ็บเลยถูกหามตัวมาที่นี่ นี่ดีนะยังดวงแข็งรอดมาได้ โดนตั้งขนาดนั้น” ชายคนนั้นตอบคำถามแทนหมอ
“แล้ว… คุณเป็นใคร?” ผมถามด้วยความงุนงง
ชายคนดังกล่าวหน้านิ่งอึ้ง หน้าถอดสีทันที
“แก… ว่าไงนะ??” เขาถามด้วยสีหน้าแทบไม่อยากจะเชื่อ
“ผมถามว่าคุณเป็นใคร เรารู้จักกันด้วยเหรอ ไม่คุ้นหน้าเลย..”
“แกพูดอะไรของแก ข้า ‘เอก’ เพื่อนแกไงวะ พูดงี้ไม่ตลกนะเว้ย ไอ้นุ” น้ำเสียงของเขาจริงจัง
“แต่ผมไม่รู้จักคุณ แล้ว..แล้ว..นุ?? นั่นชื่อผมเหรอ?...”
ชายคนนั้นทำหน้าอึ้ง พร้อมหันไปพูดกับหมอ
“นี่มันอะไรกันครับหมอ ”
“..ดูท่าว่า ตอนเกิดเหตุที่ศีรษะของคนไข้คงได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ทำให้ส่งผลกระทบกับความทรงจำโดยตรง เป็นเหตุให้ความจำเสื่อม…” หมออธิบายมีสีหน้ากังวล
“ความจำเสื่อม! แล้วแบบนี้จะทำยังไงครับหมอ เพื่อนผมจะมีโอกาสหายมั้ย?”
“กรณีนี้ คนไข้อาจมีโอกาสหายหรือไม่หาย ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และจิตใจของคนไข้ ถ้าได้รับการดูแลและกำลังใจที่ดี จะสร้างโอกาสหายให้คนไข้ได้มากกว่า ”
“…..”
“ถึงอย่างไรโดยรวมคนไข้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี คาดว่าน่าจะฟื้นฟูได้ และใช้เวลาไม่นานนัก ตอนนี้ให้คนไข้พักผ่อนรอตรวจเช็คร่างกายโดยละเอียดอีกครั้งนะครับ หมอขอตัว” พูดจบ หมอก็เดินออกจากห้องไปพร้อมพยาบาล ทิ้งให้ชายที่ชื่อ เอก ยืนอึ้ง
ผมพยายามนึกเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ผมรู้สึกมึนแล้วก็เพลียไปหมดจนกระทั่งผล็อยหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
………………………………………………………………………………………
กลางดึกอันเงียบสงัด ผมอยู่ในสถานที่รกร้างดูเหมือนจะเป็นโรงเลื่อยไม้เก่าๆ ได้กลิ่นไม้และดินชื้นชัดเจน ผมมองไปรอบๆ บรรยากาศช่างวังเวง ไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิต เวลาแบบนี้ ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้นะ…ผมกวาดสายตามองไปยังเบื้องหน้าที่มีแต่ความมืดมิด ความรู้สึกอึดอัดนี้มันคืออะไร คล้ายกับสัมผัสถึงมวลพลังงานบางอย่าง อยู่ในความมืดนั้น สัญชาตญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างในนั้น แต่ร่างกายกลับเหมือนถูกดึงดูดให้เดินเข้าไป ผมค่อยๆก้าวขาอย่างลังเล ผมพบว่ากางเกงผมเลอะดินโคลนเต็มไปหมด เสียงซ่าดังอื้ออึงมาจากข้างนอกกระทบกับหลังคาสังกะสี ทำให้รู้ว่าตอนนี้คงจะมีฝนตกหนัก ผมค่อยๆเดินอย่างช้าๆไปยังทิศทางที่มืดมิดนั้น โดยที่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเลือกที่จะเดินเข้าไป เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ พบว่าความมืดค่อยๆห่อร่างกายผมจนแทบมองอะไรไม่เห็น ผมค่อยๆยกมือวาดไปในอากาศที่อยู่เบื้องหน้า หวังว่ามันจะช่วยป้องกันไม่ให้ผมไปชนกับอะไรเข้า ผมพยายามก้าวขาอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้สะดุดกับอะไร ถ้าลื่นล้มในสถานที่แบบนี้คงไม่ค่อยเข้าท่า เพราะดูจากสถานที่ ที่นี่อาจจะเป็นโรงเลื่อยไม้ ถ้าพลาดอาจจะเหยียบตะปู หรืออะไรที่ทำให้บาดเจ็บได้
มืดเหลือเกิน...
ผมนึกขึ้นได้ว่า แล้วเรามีพกมือถือ หรืออะไรที่ทำให้มีแสงสว่างบ้างไหม ผมเริ่มคลำตามกระเป๋าเพื่อสำรวจตัวเองว่ามีของอะไรบ้าง พบว่ามีไฟแช็ค ผมล้วงมันออกมาหวังว่าจะจุดเพื่อให้มองเห็นทาง ผมกดจุดอยู่สองสามทีไม่ติด พอจุดครั้งที่สี่ ไฟก็ติด สะท้อนกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าชัดเจน
นั่นมัน...
………………………………………………………………………………………………………
“อ้าว นุ ฟื้นแล้วเหรอ” ชายที่ชื่อเอก วางหนังสือพิมพ์ลง แล้วเดินเข้ามาเมื่อเห็นว่าผมลืมตาแล้วค่อยๆขยับตัว
“ที่นี่…โรงพยาบาลเหรอ”
“ใช่สิ ก็เมื่อวานแกฟื้นแล้วจู่ๆแกก็ปวดหัวมาก พอหมอฉีดยาระงับปวดให้สักพัก แกก็หลับไปอีก นี่จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?”
“อือ ถ้าอันนั้นพอจำได้” ผมตอบพลางรู้สึกมึนหัวอย่างมาก สงสัยผมคงจะนอนมากไปหน่อย
“แล้ว…ตกลงนี่แกความจำเสื่อม จริงๆเหรอวะ แกจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?”
“ไม่รู้สิ…”
“เอาเถอะ เดี๋ยวค่อยคุยกันอีกที ข้าว่า แกกินข้าวก่อนเถอะว่ะ หลับไปตั้งสามวัน หยอดแต่น้ำเกลือ ซูบหมดแล้ว” เอกพูดพลางเข็นถาดอาหารของโรงพยาบาลมาให้
พอได้กลิ่นหอมโชยออกมาจากถาดอาหาร น้ำย่อยในกระเพาะก็หลั่งออกมา ท้องร้องโครกครากทันที ผมรีบเปิดฝา หยิบช้อนขึ้นมาจ้วงกินด้วยความหิวโหย พอกินเสร็จ ผมดื่มน้ำ อั้กๆๆ พร้อมถอนใจออกมาด้วยความรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเล็กน้อย
“ดุท่าแกน่าจะหิวมาก” เอกมองผมพลางรู้สึกขำเล็กน้อย คงเห็นผมกินมูมมาม
“ว่าแต่…ตกลงคุณเป็นเพื่อนผมเหรอ แล้วทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
เอกมองผมนิ่ง แล้วถอนหายใจออกมา
“หมอบอกว่า เดี๋ยวแกคงค่อยๆดีขึ้น สงสัยคงต้องใช้เวลาสักระยะ แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแกจะจำอะไรไม่ได้เลย แม้กระทั่งข้า”
“….”
“ข้าเป็นเพื่อนกับแกตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แล้วเราก็เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน จากนั้นเราก็ออกมาทำงาน แกได้ทำงานบริษัท ส่วนข้าก็ทำธุรกิจกับที่บ้าน…”
“งั้นเหรอ” ผมพยายามนึก แต่ก็นึกไม่ออก
“ส่วนที่แกเข้าโรงพยาบาล เพราะโดนรถชน แต่ดันชนแล้วหนี โชคดีที่มีพลเมืองดีผ่านมา ไม่งั้นแกคงแย่ นี่ดีนะแค่ขาหัก”
ผมเลิกผ้าห่มขึ้น เพิ่งเห็นว่าที่ขาขวาเข้าเฝือกอยู่จริงๆ
“ว่าแต่ แกไปทำอะไรแถวนั้นวะ ปกติคนเค้าไม่ค่อยไปแถวนั้นนะ”
“…แถวไหนนะ”
“อ้าว ก็เขต yyyy ไง”
ผมพยายามนึกภาพ เหมือนจะมีเหตุการณ์ผุดขึ้นมาในสมองเป็นช่วงๆ พลันผมรู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรง
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย” ผมใช้นิ้วจิกศีรษะแน่น ร้องด้วยความเจ็บปวด
“เฮ้ย ไอ้นุปวดหัวอีกแล้วเหรอ! หมอครับ!มาดูเพื่อนผมหน่อย เพื่อนผมแย่แล้วครับ!” เอกพูดพลางกดปุ่มฉุกเฉิน
……………………………………………………………………………………………………….
“หมอว่าช่วงนี้ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องอะไรที่ทำให้คนไข้ต้องนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้นะครับ เพราะอาจจะทำ
ให้สมองคนไข้ได้รับการบีบคั้นมากเกินไป บ่อยเข้า คนไข้อาจจะรับไม่ไหว”
“ครับ”
“หมอขอตัวนะครับ” พูดจบหมอก็เดินออกจากห้องไป สวนกับผู้หญิงคนหนึ่งที่รีบเดินเข้ามา
“คุณนุ….คุณนุ! เป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวปราดเข้ามาเกาะขอบเตียง น้ำตารื้นเมื่อเห็นร่างของชายคนรักสลบไสลไม่ได้สติ
“หมอบอกว่าไม่เป็นไรแล้ว แค่สมองกระทบกระเทือนนิดหน่อย ตอนนี้แค่หลับไปน่ะ” เอกตอบแทนเพื่อน
“โธ่ คุณนุ ทำไมคุณโชคร้ายแบบนี้” หญิงสาวกุมมือของชายคนรักไว้แน่น มองด้วยสายตาสงสารจับใจ
“นุไม่เปนไรแล้ว อย่าห่วงเลย เพียงแต่…” เอกพูดด้วยความลังเล
“เพียงแต่อะไรคะ??”
“นุมันความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้เลยน่ะ แม้แต่ผม มันก็จำไม่ได้”
“ว่าไงนะคะ!?” หญิงสาวถึงกับช็อค
“ใจเย็นๆนะปริม หมอบอกว่านุมีโอกาสหายเพียงแต่ต้องใช้เวลาสักหน่อย แล้วเราต้องคอยเป็นกำลังใจให้มัน”
“โธ่….คุณนุ!” หญิงสาวสะอื้นไห้
เอกบีบไหล่หญิงสาวเบาๆเป็นการปลอบใจ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย….
บันทึก
1
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
[Face off ไขคดีฆาตกรรมปริศนาศพไร้หน้า]
1
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย