Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บินหนักก็พักก่อน
•
ติดตาม
1 มิ.ย. 2020 เวลา 12:43 • ไลฟ์สไตล์
“ผู้หญิงเค้าต้องเมาแบบน่ารักๆ เซหน่อยๆอ่อยผู้ อีนี่เขมือบจนอ้วกแตก” พีคคคคค สมิง สมายด์ สมายด์ เพื่อนสนิทในกลุ่มมอปลายได้กล่าวไว้ 😂
มาจ้าแม่! “อกเกือบหักแอบรักน้องชายเพื่อนสนิท” ภาค 2 😆💕
หลังจากที่ได้เกริ่น (อย่าเรียกว่าเกริ่น!) ต้องใช้คำว่า “สาธยาย” อี่นายเหย 🤣 555555 ความเป็นมาของการตกหลุมรักน้องชายออนนี่ไว้ในโพสต์ที่แล้ว เหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อ รอไปติดตามพร้อมกันเล้ย!
หลังจากได้รู้จักน้องออนนี่เมื่อเดือนพฤษภาปีที่แล้ว อันก็ได้แต่อยู่ห่างๆ ทั้งที่ยังห่วงๆ แต่ไม่มีสิทธิ์หวง เย้ย! 😳! เพราะไม่ใช่เจ้าของเธอ เอ้อออ! มาทั้งท่อนฮุคเลยจ้า! Wahahahaha 😝 อันก็ได้แต่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่หนอที่พวกเราจะได้เจอกันอีกครั้ง จนกระทั่ง ... เดือนกุมภาที่ผ่านมา ออนนี่ชวนอันขอวันหยุดแล้วไปเล่นที่บ้านนาง จึ่งเป็นที่มาของทริปอกเกือบหักภาค 2 ณ เมืองปูซาน ระหว่างวันที่ 11-15 กุมภาที่ผ่านมานี้จ่ะแม่!! 😍
เริ่ม! ตั้งแต่วันแรกที่ไปถึงปูซาน น้องชายออนนี่ก็ขับรถมารับพวกเราที่สนามบิน จังหวะที่เห็นรถน้องใกล้เข้ามานั้นนน มือไม้อันก็พลันอ่อนเปลี้ยเพลียแรง และในขณะที่อันกำลังจ้องมองน้องหมุนพวงมาลัยสไตล์พระเอกซีรี่ย์เกาหลี ตัดภาพมาอีกทีก็คือ น้องกวักมือเรียกพวกตรูเหมือนดั่งพยายามจะสื่อว่า “พวกเมิงไวๆ กรุจอดไม่ได้ รถข้างหลังเค้าบีบแตร” คุณพระ! 😱 กุลีกุจอขึ้นรถกันแทบไม่ทัน 555555 🤣 ก่อนหน้านั้นคือน้องรีบลงมาช่วยพวกเรายกกระเป๋าขึ้นรถกันเรียบร้อยละ! ฮั้ยยะ! พระเอกเกาหลีก็คือพระเอกเกาหลี! Wahahahaha
พอขึ้นรถมาปุ๊บ น้องก็เปิดบทสนทนามาปั๊บว่า “อันนา รอบนี้มาเที่ยวกี่วัน?” ตอนนั้นอันก็คิดในใจว่า เหย เค้าถามแบบนี้เพราะเค้าไม่สะดวกอะไรรึเปล่านะ รอบนี้ตรูไปนอนบ้านออนนี่ครั้งแรกด้วย อันเลยตอบแบบกล้าๆกลัวๆไปว่า “ฮะ ฮะ ห้าวัน” นางก็ตอบกลับมาว่า “5 วันเองเหรอ? ทำไมไม่ขอวันหยุดให้นานกว่านี้” จะบ้าเหร๊อออ ตรูเขินนะะะ (เขินไรฟระ 🤣 555)
ต่อ! แล้วนางก็หันไปคุยอะไรซักอย่างกับออนนี่ที่นั่งข้างๆ แล้วออนนี่ก็เหลียวหลังมาแปลให้อันว่า เดี๋ยวน้องออนนี่จะโทรไปลางานที่บริษัท พรุ่งนี้จะได้พาพวกเราเที่ยวได้ทั้งวัน O_o!?! ณ จุดๆนั้น คือแบบ Wow! จิ่นจ๊ะ!?! จินจะ จินจ๊ะ!? (แปลว่าจริงเหรอ!? 😆) แล้วน้องก็ต่อสายตรงหาบริษัทพร้อมขอลางานตอนนั้นเลย เหยยย 😳! มาว่ะ!!! คนจริงงงงง ประทับใจ +1! ตกหลุมรักทั้งๆที่ยังไม่ทันจะเริ่มทริปเลยแม่! เอาเส้! (อ๋อเปล่า จริงๆเค้าอยากพาพี่สาวเค้าไปเที่ยว อินี่เข้าข้างตัวเองไปก่อนละว่าเค้าอยากพากรุไปเที่ยววว 555555 😝)
พอเอาของไปเก็บที่บ้านออนนี่เสร็จ ครอบครัวออนนี่ก็พาพวกเราไปกินข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง จำชื่อไม่ได้ เดี๋ยวต้องไปถามออนนี่มาใหม่ แต่อร่อยเหลือหลาย ใจเต้นตึกตักเพราะอันได้นั่งข้างน้องออนนี่เลยจ่ะแม่!! ขบวนรถแห่ต้องมา! โอ้ย! มาละเหวย เอ๊ย มาละหว่า! ยกโซจูซดแก้เขินแทบไม่ทัน เอะอะ กรึ้บ! เอะอะ กรึ้บ! ยกซดจนพ่อแม่ออนนี่แซวว่า ไหนบอกไม่ค่อยได้ดื่มไง!?! 😳 ช็อกกุเดสสึง่ะ! 😭 ได้แต่ส่งยิ้มแห้งกลับไป แล้วตอบพ่อกับแม่ได้แค่ในใจว่า ไม่ค่อยได้ดื่มจริงๆค่ะพ่อ ที่ยกกรึ้บรัวๆนี่ไม่ใช่อะไร หนูกำลังเขินลูกชายพ่ออยู่ค่ะแม่! คุณพะระ 5555555 🤣
ระหว่างที่พ่อแม่ถามนั่นนี่ ออนนี่ก็จะคอยเป็นล่ามกิตติมศักดิ์ให้ตรูตลอด คือปกติอันฟังภาษาเกาหลีไม่ออกหรอกนะพี่ จะฟังออกแค่บางคำหรือบางประโยคที่ได้ยินบ่อยๆจากในซีรี่ย์เกาหลี เวลาพ่อ แม่ น้า แล้วก็น้องออนนี่พูดอะไร ออนนี่ก็เลยต้องคอยหันมาแปลให้ตรูฟังตลอด ประเด็นคือมันมีอยู่ช็อตนึงตอนที่พ่อกับแม่พูดอะไรซักอย่างแล้วชี้มาที่อันกับน้องออนนี่ แล้วช็อตนี้ออนนี่ก็ไม่ได้หันมาแปลให้ตรูฟังด๊วย! ตอนนั้นเริ่มตะหงิดๆในใจแล้วว่าเอ๊ะยังไง!? มันสิต้องมีอะไรในกอไผ่แน่ๆ!
ปรากฏ! หลังจากที่อันได้ฟังประโยคที่น้องออนนี่ตอบกลับไปหาพ่อแม่นั้นนน มันยิ่งชัด ชัดเลยจ้าแม่ ! ที่อันเดาในใจว่าพ่อแม่ต้องพูดอย่างงี้แน่ๆก็คือใช่! ตอนนั้นน้องออนนี่ตอบพ่อแม่ไปว่า “อันนา ก้า เน สึไทอิล อานียา” แปลเป็นไทย “เอ่อคือว่า อันนา ไม่ใช่สเปคผมครับ” เออะ! ... O_o!?!! ช็อกกก ช็อกกุชิเต๊ะอิมัสสึง่ะ! กรุช็อกเล๋ยยย ก็คือปกติตรูฟังภาษาเกาหลีไม่อ๊อกกก แต่ทำไมกรุต้องฟังประโยคนี้อ๊อกด้วยแฟะะะ 😫
ณ จุดๆนั้น ท่อนฮุคเพลงประกอบละคร ระเริงไฟก็มา! ว่า! “ทำไม๊ยยย ทำไมมม!!! #ชั้นต้องเข้าใจประโยคนี้! ชั้นตอบตัวเอง หมั่ยดาย ซักที #ที่ฟังประโยคนี้อ๊อกกก” เอ้อออ น้ำตาจะไหลก็ไหลไม่ได้ด้วยไง เดี๋ยวเค้ารู้ว่ากรุฟังออก! รันทดชีวิต ณ จุดๆนั้นตรูก็เลยต้อง หายใจเข้า คีพพพ หายใจออก คูลลล #คีพคูล หายใจเข้า นก หายใจออก นกอีก โอ่ยยย เจ็บปวดใจยิ่งนัก 🤣🤣🤣
อะ! มาถึงตรงนี้ ทุกคนคงจะสงสัยใช่มั้ยว่าน้องออนนี่พูดมาขนาดนี้แล้ว ทำไมอันยังตกหลุมรักนางไม่เลิกอีกล่ะ?! แถมระหว่างที่อยู่บ้านออนนี่ 5 วันนั้น ตรูก็ดันตกหลุมรักนางหนักกว่าเก่าเข้าไปอี๊กกก เพราะอะไร? ยังไง!? ไปติดตามชมกันต่อเลยจ้า!
เข้าวันที่ 2 ของการมาเยือนปูซาน คุณพระคุณเจ้า เช้านี้ฟิลลิ่งช่างแตกต่างจากเมื่อวานซะเหลือเกิน 😂 ณ จุดๆนั้น สะกดจิตตัวเองอยู่ว่า เอาวะ! ทำใจจจ วันนึงน้องอาจจะเปลี่ยนใจมาชอบของแปลกก็ได้ใครจะไปรู้ (มโนอยู่จ่ะ!!! ยัง! กรุก็ยังจะไม่ล้มเลิก 555555 🤣)
เริ่มจากเช้าวันนั้น ออนนี่ตื่นแต่เช้าแล้วพาอันไปแลกเงินที่ธนาคาร หลังจากนั้นน้องออนนี่ก็ขับรถมารับพวกเรา จังหวะที่พวกเรากำลังจะเดินไปขึ้นรถนั้น จู่ๆออนนี่ก็พูดขึ้นมาว่า “อันนา เมิงไปนั่งข้างหน้านะ” ... ห้ะ? สตั๊นไป 3 วิ รู้ตัวอีกทีตรูเดิน 4x100 ไปที่รถแล้ว ไม่รอถามด้วยว่าเพราะอะไร ณ จุดๆนั้น ขอจ้ำอ้าวไปที่รถก่อนแล้วกันเผื่อออนนี่เปลี่ยนใจทีหลัง เอริบส์ อะไรคือคำว่าคีพคูล 55555555 🙄
ระหว่างนั่งในรถก็คิดวิเคราะห์ไปต่างๆนาๆว่าทำไมออนนี่ให้มานั่งหน้าฟะ หรือว่าเค้าอยากให้เราทำความรู้จักน้องชายเค้าให้มากขึ้นนะ?! ห้ะะะ ใช่ป๊าววะ!? ปรากฏว่า อ๋อไม่ใช่ เค้าจะให้กรุดูวิว ปัดโธ่ เลิกมโนแพ็พพพ 🤣 แต่ยังไงอันก็ต้องขอบคุณออนนี่ที่ทำให้ทริปนี้ตรูได้นั่งข้างน้องออนนี่ตลอดทริป 5 วันนี้เลย ถ่ายสตอรี่รัวจนน้องบอกว่า #เจบัลลล แปลว่า ขอร้องเถอะนะ หยุดถ่ายได้มั้ยยย 55555555 กั๋วๆๆๆๆ 😝
พอไปถึงคาเฟ่ น้องก็แสดงอภินิหารความเท่ห์ออกมาอีกหนึ่งดอก! มีใครเคยได้ยินบ้างว่า “ผู้หญิงสามารถตกหลุมรักได้ภายในเสี้ยววินาทีตอนที่ผู้ชายถอยรถ” โวะะะ! ไม่เชื่ออย่าลบหลู๊ววว! (หรือจริงๆแล้วตรูก็ตกหลุมรักมั่วไปหมดนะ 🤣) แต่คือ จังหวะที่น้องหมุนพวงมาลัยซ้ายขวานั้นนน มัน ช่ายยย เลยยยย โดนใจชั้นเลยยย ไม่มีมากไป ไม่มีน้อยใจ ถูกใจชั้นเลย ใช่เลย! พีคกว่าคือตรูถ่ายสตอรี่เก็บไว้ทันด้วยจ้า ดีใจ!!! กดถ่ายแบบไม่เกรงใจพี่สาวเค้าที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยเลย ซอรี่ออนนี่ ซอรี่นอทซอรี่ 5555555 🙏🏻😂
คาเฟ่ที่ออนนี่พาไปคือน่ารักมว๊ากกก อยู่ริมชายหาดชิคๆ ของกินอร่อยได้มาตรฐาน ถ้ามาเที่ยวปูซาน อาจจะต้องขับรถจากในเมืองออกมาไกลหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าเวลาที่หายไปแน่นอน พอเลือกของกินกันเสร็จ น้องก็มาสไตล์เดิม เพิ่มเติมคือรอบนี้จะเออ ออ ห่อ หมก ให้เค้าจ่ายให้ไม่ได้แล้ว คิดได้เยี่ยงนั้น กรุรีบชิ่งไปเคาน์เตอร์ก่อนเลยจ้าแม่! ช็อกกุเดสสึง่ะ! กุว่ากุไวแล้วนะ น้องไวกว๊าาา พนักงานบอกว่า จ่ายเรียบร้อยแล้ว! เออะ! แอบไปจ่ายมาตอนไหนฟะะะ!?! ไวอย่างวอก! 😤 โอเคไม่เป็นไร จ่ายแล้วอันก็เอาเงินให้ออนนี่แทนได้
ปรากฏน้องออนนี่บอก(หลอกนั่นแหละ)ว่า “ไม่ได้ นี่มันเป็น Culture ที่ซีเรียสมาก เวลาแขกมา ห้ามให้แขกจ่าย” อันก็ตอบไปว่า ตรูไม่ใช่แขก ตรูเป็นคนไทย เออะ! ไม่ใช่! 🤣 ถ้าเล่นมุกนี้ไปคาดว่าโคตรแป้ก น้องคงไม่เก็ท 55555 ยื้อยุดฉุดกระชากต่างคนต่างไม่เอาเงินกันอยู่นาน จนออนนี่ทนไม่ไหวต้องมาช่วยห้ามทัพด้วยการดักคอว่า “ตอนกรุไปนอนบ้านเมิงที่เชียงใหม่ เมิงก็ไม่ให้กุจ่ายอะไรเลยอันนา!” เห้ย! ไม่ได้ไง ยังไงก็ไม่ได้! ปีที่แล้วน้องก็เลี้ยงพวกตรูไปตั้งเยอะละไง!!! สุดท้ายออนนี่กับน้องเลยบอกว่า อะ งั้นขอเลี้ยงแค่มื้อนี้ มื้อหน้าหารกันก็ได้ แต่สุดท้าย เชื่อมั้ยว่าทริปปูซานตลอด 5 วันนั้น อันไม่มีโอกาสได้จกกระเป๋าเอาเงินเกาหลีออกมาใช้เลยซักครั้ง! เค้าจ่ายให้หมด!!! สองพี่น้องไม่เปิดโอกาสให้อันได้จกเงินอันเลย! โคตรเครียดดด เครียดมาก จะฟ้องแม่ 😩😩😩
ผ่านไปซักพักใหญ่ๆหลังจากพวกเรานั่งกินลมชมวิวเม้าท์มอยกันอยู่ที่คาเฟ่ และแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางกลับเข้าไปในเมืองเพื่อไปแด๊ก(คิวล่า)ข้าวเย็นกันต่อ ซึ่งร้านที่เค้าพาไปวันนั้น นั่นคือ นิพ-พาน คือมันดีมากกก!!! ตั้งแต่ไปตะลุยกินที่เกาหลีมา ร้านนั้นคือพีคสุดละ อร่อยจนต้องร้องขอชีวิต! กินกับโซจูไปด้วยก็คือโคตรฟิน ฟินกว่าคือคุณป้าเจ้าของร้านจ้าแม่! คือร้านที่เราไปกินเป็นที่ที่แบบ Local แล้วก็เก่าแก่มากๆ ในนั้นจะมีร้านปิ้งย่างเล็กๆหลายร้าน แล้วแต่ละร้านก็จะเรียงติดๆกัน โต๊ะที่เราไปนั่ง ก็จะมีคุณป้าเจ้าของร้านคอยย่างเนื้อให้ทุกสเต็ป
ประเด็นคือตอนนั้นคือพวกเราเริ่มกรึ่มๆกันละ โซจูเพิ่งจะหมดไปแค่ 2 ขวด (หรือแค่ตรูคนเดียวที่กรึ่ม 😭) แต่ว่าอั้ยหยาคุยกันมันส์! ป้าก็ชวนพวกเราคุยไป กรุก็ขำไปทั้งๆที่ฟังไม่ออกนั่นแหละ 🤣 แล้วจู่ๆ คุณป้าก็พูดอะไรซักอย่างกับออนนี่ แล้วก็ชี้ ชี้อีกแล้ว! ชี้มาที่อันกับน้องออนนี่ อีกแล้ว!!! ปัดโธ่พี่ นี่มันเดจาวูชัดๆ! 😩 ณ จุดๆนั้น กรุแบบ ซวยละ ป้าอย่านะะะ อย่านะป้า ตอนนี้แอลกอฮอล์อยู่ในร่างเยอะกว่าเมื่อวานอีก ถ้าน้องออนนี่ปฏิเสธเหมือนเดิมกลับมา กรุจะไม่สามารถคีพคูลได้แล้วนะะะ 😫
ปรากฏ รอบนี้ออนนี่หันมาแปลให้ฟัง เหย! แสดงว่าอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ออนนี่หันมาบอกว่า “อันนา ป้าเค้าฝากกุมาบอกเมิงว่า น้องชายกุน่ารักนะ” ... อ่าฮะ o_O!?!! ห้ะ! สตั๊นนน สตั๊นไปเกือบ 10 วิ นอกจากจะต้องสู้กับความกรึ่มแล้ว ยังต้องประมวลคำตอบอีกว่า ละกรุต้องตอบเค้าไปว่ายังไงล่ะเนี่ยะ ป้าาา ป้าเล่นกุแล้วไง หันไปขอความช่วยเหลือจากน้องอย่างไว O_o?!
ปรากฏพอหันไป ช็อตนั้นกรุตายจ้า! ตายอย่างสงบ น้องหันมาสบตาแล้วยิ้มให้จ่ะแม่! ขยี้ตาก่อนแป้บ เห้ย! น้องยิ้มให้!!! ยิ้มให้ของจริง! อ่าวไม่ได้ช่วยกรุเล๋ยยย โอเค คีพคูลไว้ คีพคูล จะให้เค้ารู้ว่าเราชอบไม่ได้ คือทุกคนเข้าใจใช่มั้ย? เวลาคนที่เราแอบชอบรู้ว่าเราชอบเค้า ถ้าเค้าชอบเรา ทุกอย่างก็จบปึ้ง! แฮปปี้เอนดิ้ง! แต่ถ้าเค้าไม่ได้ชอบเรา นั่นก็คือพังนะ!! หลังจากนั้นมันจะคุยกันได้ไม่เหมือนเดิม 100 เปอร์เซ็นต์
ละของอันคืออย่างหลังไง เค้าไม่ได้ชอบกรุววว อันเลยต้องคีพคูล!! จะให้เค้ารู้ว่าตรูชอบไม่ด๊ายยย! ตรูไม่อยากให้มันไม่เหมือนเดิม เอาวะ! งั้นตอบแบบเป็นธรรมชาติที่สุดไปแล้วกันว่า “ใช่ๆๆ น้องน่ารักมากจริงๆ” (ประเด็นคือรัว 3 ใช่ทำไม ให้มันธรรมชาติหน่อยดิเหยยย 🤣) แล้วออนนี่ก็ตอบกลับมาว่า “เพิ่งจะรู้เหรออันนา เมิงนี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย” (ในความคุ้นเคยกันอยู่ มันแฝงอะไรบางอย่าง ที่มากกว่านั้น ในวงเล็บนี่อันต่อเอง Wahahahaha 😝) ออนนี่ต้องการจะสื่อเพลงนี้ป๊าววะ เออะ!!! ใช่ก็แย่ละ! 😭
ภาพบรรยากาศย่านซอมยอนระหว่างทางไปร้องเกะค่ะ 😁
พอกินอิ่มจากร้านป้าเสร็จ พวกเราก็กะไปร้องเกะให้สร่างเมากันก่อน แล้วค่อยไปต่อร้านที่สอง ปรากฏเมากว่าเดิมอีกจ่ะ! เมาเสียงตรูนี่ล่ะ ไม่ไหวนะ เพี้ยนเหลือเกิ๋นนน 😝 ในขณะที่น้องร้องโคตรเพราะไม่ได้ล้อเล่นเลยนะแม่ เพราะจริงจัง 🤣 น้องจะสิบผ่านทุกอย่างแบบนี้ไม่ด๊ายยย ตกหลุมรักหนักเข้าไปอี๊กกก พอร้องเกะเสร็จ พวกเราก็พุ่งไปจัดร้าน 2 กันต่อ ระหว่างทางไปนั้นตรูหันไปเห็นตู้สติ๊กเกอร์พอดี ประเด็นคือน้องออนนี่! นางเป็นคนช่างสังเกต รายละเอียดเล็กๆน้อยๆนางใส่ใจหมด นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ตรูตกหลุมรักนางได้ง่ายๆ น้องหันไปบอกอะไรซักอย่างกับออนนี่
แล้วสองพี่น้องก็ลากอันเข้าไปถ่ายสติ๊กเกอร์ด้วยกันสามคน ฮือออ คือมันดีต่อใจ ประเด็นคือออนนี่เคยบอกอันว่าที่เกาหลีนางไม่ค่อยถ่ายอะไรแบบนี้กัน เพราะรูปติ๊กเกอร์นี้มันเจแปนนิสสไตล์ ลืมบอกไปว่าออนนี่เคยบอกอันว่าคนเกาหลีส่วนใหญ่จะชาตินิยมมาก โดยเฉพาะออนนี่ ยิ่งช่วงก่อนที่ญี่ปุ่นกับเกาหลีทะเลาะกันเรื่องขนส่งสินค้า ออนนี่ไม่เอาญี่ปุ่นเลย ถึงขนาดพอได้ตารางบินไฟล์ทญี่ปุ่น นางแลกออกเป็นไฟล์ทอื่นหมด 🤣 หรืออย่างเวลาตอนอยู่ดูไบ แล้วอันบอกว่าอยากร้องคาราโอเกะ นางก็จะสวนกลับมาทันทีเลยว่า ไม่ใช่คาราโอเกะ เค้าเรียกว่า “โนเลปัง” คาราโอเกะนั้นมันภาษาญี่ปุ่นนะอันนา! คุณพระ กัวแล้วจ้า อันก็ได้แต่ภาวนาให้เค้ากลับมาผูกมิตรต่อกันในเร็ววัน 😝
แต่สุดท้ายนางก็ยังอุตส่าห์พาไปถ่ายติ๊กเกอร์จนได้ พอถ่ายเสร็จน้องออนนี่ก็บอกว่ามันได้สองใบนะ ให้อันเก็บไว้ใบนึง แล้วอีกใบนึงนางจะเก็บไว้ เอาจริงๆ ตอนนั้นคือคิดในใจว่าแบบ ไม่ได้ กรุจะต้องเก็บไว้ทั้งสองใบ ถ้าให้น้องออนนี่ไป ยิ่งเป็นผู้ชาย นางต้องเอาไปหายหรือไม่ก็ลืมไว้ที่ไหนเหมือนน้องชายตรูแน่ๆ อันก็เลย เออ ออ ไปแต่แอบเก็บไว้เองทั้งสองใบนั่นแหละ 😝 ปรากฏตอนหลังนางทวงจ่ะแม่! แต่ที่อันคิดคือผิดถนัด! น้องเอาไปตั้งไว้ในกรอบรูปที่บ้านรวมกับรูปครอบครัวเค้าด้วยเว้ยยย เห้ยยย ตรูซึ้งนะะะ น้ำตาจะไหล ไม่ตกหลุมรักไม่ได้แล้ววว 😭
มาต่อร้านที่ 2 บอกเลยว่าเมาแล้วแท้ๆ แต่สปาเก็ตตี้อร่อยมาก กรึ้บกับโซจู อู้หู หรอยจิ่งจิ้ง! 😍 แล้วอันก็ได้เห็นช็อตความน่าประทับใจของสองพี่น้องคู่นี้ จู่ๆน้องออนนี่ก็เปิดประเด็นขึ้นมาว่า “อันนา จูรันบอกว่าเธอก็ไม่อยากแต่งงานเหมือนกันเหรอ” (จูรันคือชื่อที่น้องใช้เรียกออนนี่) อันเลยตอบไปว่า “ใช่” (แต่ถ้าได้แต่งกับเธอ ชั้นเปลี่ยนใจแต่งได้ทันทีเลยนะ #อิหยังวะ 555555) จากนั้นน้องก็ถามต่อว่า “ทำไมล่ะ?” อันเลยตอบประโยคคลาสสิคไปว่า “ทุกวันนี้รู้สึกว่าอยู่กับพ่อแม่ น้อง ญาติ เพื่อนก็แฮปปี้ละ” น้องออนนี่เลยบอกว่า “เพราะเธอยังไม่เจอคนที่ใช่มากกว่า” เหย เหย เหย เห้ยยยย! 😳!?!! น้องต้องการจะสื่ออะไรป๊าววะ!?! (อันก็พยายามจะโยงให้เค้าสื่อตลอดเว) ณ จุดๆนี้ กุคิดเข้าข้างตัวเองก่อนละ 🤣 ยังไง?! คือเกือบจะดีแล้วนะ ถ้าไม่มีประโยคหลังจากนี้ “ให้ชั้นแนะนำเพื่อนให้ดีมั้ย” เออะะะ! 😤 จบ! จบเลยค่ะ! ปฏิเสธไปแทบไม่ทันว่า “ไม่เอาาา ก็บอกแล้วไงว่าไม่อยากแต่งงาน ฮื้อออ” (ตอบไปน้ำตาก็จะไหล 😭)
คราวนี้! ช็อตประทับใจมันอยู่ตรงนี้! ตอนนั้นอันสังเกตเห็นสองพี่น้องคู่นี้เค้าน้ำตาคลอเบ้ากันด้วย ช็อตนั้นคือ น้องออนนี่พูดว่า นางเป็นห่วงออนนี่ เพราะออนนี่ก็ไม่อยากแต่งงานเหมือนกัน พอนางแต่งงานมีลูกไป นางก็จะต้องดูแลลูกกับเมีย แต่นางรู้ว่ายังไงนางก็จะคอยดูแลออนนี่นั่นแหละ นางแค่เป็นห่วงเพราะไม่อยากให้ออนนี่รู้สึกเหงาเวลานางไม่อยู่ด้วย แล้วสองคนนั้นก็น้ำตาคลอจ้าแม่ หนักกว่าคือกรุนี่จ้า! น้ำตาหยดลงโต๊ะดังแปะ ออนนี่กับน้องถึงขั้นงงว่ากุเป็นไรแว้? ไม่ใช่เรื่องของเมิงเลยนะ 555555555 🤣 ท่ดๆๆ อินมากไป ปิดท้ายที่ออนนี่พูดแก้เขินน้องชายตัวเองว่า “บอกว่าจะแต่งงานอีก 2 ปีข้างหน้าแต่คือตอนนี้ยังหาแฟนไม่ได้เลยนะ” อ้าววว #ก็ซึ้งอยู่ดีดีหายวับแบบนี้ได้ไง 😝
ไปร้าน 3 จ้า! #ไม่ไหวบอกไหวที่แท้ทรูมีอยู่จริง ณ จุดนั้นมันเลยคำว่ากรึ่มไปนานละ คาดว่าอีกไม่กี่กรึ้บน่าจะเข้าสเต็ปมึนต่อด้วยหมุน ถึงกระนั้นอันก็ยังไม่วาย #จะออกไปแตะวอดก้าาา แต่เหมือน ว่าเตกีล่า ก็น่ากินนน 🤣 ด้วยความที่ร้านนี้เป็นบาร์นั่งดริ๊งจริงจัง ข้างในก็เลยจะมืดหน่อยๆ น้องออนนี่ก็ยังมีความใส่ใจรายละเอียดเหมือนเดิมไม่น้อย หันมาบอกออนนี่กับตรูว่าระวังสะดุดขั้นบันไดนะ Whoa! พระเอกซีรี่ย์ 😳
แล้วพอไปถึงที่นั่ง น้องก็กวักมือเรียก ไม่ได้เรียกธรรมดา แต่น้องพูดว่า “อันนา มานั่งตรงนี้” แล้วก็ชี้ไปที่เก้าอี้ข้างๆเค้า อ้าว! ยังไงเนี่ย ยังไง!? 😳 ต่อม มโน เปิดสวิตช์ทำงานอัตโนมัติ แต่คือไม่ใช่! ความจริงก็คือเค้าตั้งใจให้อันไปนั่งตรงกลาง สองพี่น้องคงคุยกันแล้วว่าสภาพตรูหลังจบร้านนี้ไม่น่ารอด เผื่อถ้าเป็นลมล้มพับไปพวกนางจะได้หาทางหนีทีไล่ เห้ยไม่ใช่! พวกนางจะได้ช่วยกันแบกซ้ายขวาได้ทัน #มีความใส่ใจรายละเอียด! แต่ที่แตกละเอียดกว่าก็คือสติตรูนี่ล่ะจ้าอี่นายเหยยย ไม่ไหวบอก ไหว! ไม่วอดก้า ก็เตกีล่ามาเป็นช็อตๆ! #ซดเก่งงงงง เป็นไงล่ะ!?!
ยังจะไปต่อร้าน 4 จ้า!!! แต่ร้านนี้ไม่มีแอลกอฮอล์แล้วนะ มีก็แย่ละ! พรุ่งนี้ได้แฮงค์ทั้งวันแน่ๆ ความพีคคือก่อนหน้านี้อันเคยเกริ่นไปแล้วใช่มั้ยว่าคนเกาหลีเค้าค่อนข้างจะชาตินิยม แล้วอันก็ได้ไปสัมผัสมากับตัวจากเหตุการณ์ที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ เรื่องมีอยู่ว่า! ออนนี่กับน้องพาตรูไปกินของว่างหลังดริ๊งที่ร้านข้างทางเหมือนในซีรี่ย์ ประเด็นก็คือตอนนั้นอันเมาแล้วนะ แต่ยังพยายามคีพคูลบอกตัวเองว่า ไม่ไหว บอก!? หวายยย (เสียงยานจ้าแม่ 🤣)
แล้วไม่รู้เป็นอะไร ทุกครั้งเวลาอันเมา อันจะพ่นภาษาเกาหลีออกมาเสมือนว่าตัวเองอยู่ในซีรี่ย์! 🤣 ทั้งๆที่ปกติไม่ได้มีความปร๋อเลยซักนิด ประเด็นคือวันนั้นเค้าพาอันไปกินอะไรซักอย่างที่มีควันร้อนๆออกมาจากร้าน พอเข้าร้านไป อ๋อใช่เลย นั่นมันโอเด้ง! ณ จุดๆนั้น บอกตรงนี้ก่อนเลยว่า ตอนไปร้านนั้นคือเมามากแล้ว สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วนะ จำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าพูดอะไรออกไป เหตุการณ์หลังจากนี้คือตรูมารู้อีกทีเช้าวันรุ่งขึ้น เพราะตอนนั้นอัดสตอรี่ไว้ในมือถือ! พอมาเปิดวิดีโอดูอีกทีคือ ...
อัน: “อะ! อีกอ โอเด้ง งีเอโย“ (เห้ย! นี่มันโอเด้งนี่หว่า)
ป้า: “อานีโย โอมุก กีเอโย” (ไม่ใช่จ้ะ อันนี้เค้าเรียกว่า “โอมุก”)
อัน: “โอมุก กีอานีเอโย โอเด้ง งีเอโย” (ไม่ใช่โอมุกนะคะป้า โอเด้งตะหาก)
น้องออนนี่: พูดอะไรกับป้าซักอย่าง ตรูฟังไม่ออกจ้าแม่
อัน: (ก็ยังจะ!!) “โอมุก กีอานีเอโย โอเด้ง งีเอโย” (ไออันเมิงจะพูดซ้ำทำเพื่อออ 😭😭😭)
ป้า: “โอมุก! โอมุก!”
น้องออนนี่: “คึจโย! โอมุก กีเอโย โอมุก” (ใช่มั้ยครับ?! โอมุกครับโอมุก)
#กุสงน้องงงงง 5555555 ต้องมารับหน้าแทนกุอี๊กกก! 🙏🏻🙏🏻🤣🤣
วีรกรรมยังไม่จบแค่นั้น! ภาพสุดท้ายคืนนั้นที่จำได้คือ พอได้ขึ้นรถปุ๊บ อันก็พิงไหล่ออนนี่แล้วก็หลับปั๊บ ความพีคมันอยู่ตรงที่! ตื่นมาอีกทีคือ มันมาว่ะ!!! 🤭 รถมาจอดหน้าบ้านแล้วนะ แต่ว่ามันขึ้นมาจุกอยู่ที่คอแล้ว ออนนี่กับน้องช่วยกันแบกขึ้นห้องแทบไม่ทัน น้องบอก “อันนา ฮึบนะ! ฮึบไว้อีกนิดเดียว!” ออนนี่ก็ช่วยบิ๊วเต็มที่ว่า “อันนา! ไปพรวดในห้องน้ำกันนะ! อีกนิดเดียว!!!” แต่ตอนนั้นคือไม่ไหวละ มันจะออกมาแล้ว!!! 🤭🤢 เดชะบุญ! สุดท้ายถึงห้องน้ำทัน! เหตุการณ์หลังจากนั้นขอละไว้ในฐานที่ทุกคนเข้าใจ 😭
ไปหม๊ดดด จบกัน พังในพัง! นอกจากกรุจะไม่ใช่สเปคเค้า กรุก็ยังจะเข้าไปทำห้องน้ำบ้านเค้าพังอี๊ก!!! พีคกว่าคือตอนออกห้องน้ำมา ช็อกกุชิเต๊ะอิมัสสึง่ะ! พ่อออนนี่ยังไม่หลับด้วยจ้า! O_o!?!! พ่อเห็นทุกเหตุการณ์! เป็นพยานตั้งแต่ต้นจนจบบบ 😨 หมดกัน #หมดสภาพสูญสิ้นดับไป #ภาพพจน์หญิงไทยใจงาม เป็นที่มาของประโยคที่ว่า “เปิ้นต้องเมาแบบน่ารักๆ เซนิดหน่อย อ้อยผู้ ย่านิยอกจนฮากแตก” แปลเป็นไทย “ผู้หญิงเค้าต้องเมาแบบน่ารักๆ เซหน่อยๆอ่อยผู้ อีนี่เขมือบจนอ้วกแตก” ตอนนี้กรุเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ฮื้อออ 😫😫😫 เดี๋ยวมาต่อภาค 3!
2 บันทึก
29
16
1
2
29
16
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย