2 มิ.ย. 2020 เวลา 02:30 • ความคิดเห็น
การประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้จอร์จ ฟลอยด์ในมุมมองที่คนไม่ค่อยพูดถึง
การประท้วงในสหรัฐอเมริกา🇺🇸สะท้อนอะไรบ้าง?
WHEN THEY SEE US
อย่างแรกคือความเหลื่อมล้ำในทุก ๆ ด้านของระบบทุนนิยม และคงหนีไม่พ้นเรื่องการกดขี่ การเหยียดสีผิวที่ฝังรากในสังคมที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ซึ่งมันถูกระเบิดออกได้ประจวบเหมาะกับสถานการณ์โรคระบาดและเห็นความเหลื่อมของชนชั้นสังคมอย่างชัดเจน
ถ้าถามว่าการเหยียดเชื้อชาติ การเหยียดสีผิวจะหายไปเลยมั้ย ก็คงไม่หายไป 100% หรอก แต่อาจจะลดน้อยลงกว่าเดิม ไม่ว่าคุณจะเป็นเชื้อชาติไหนต่างก็เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีทั้งคนดำ คนขาวในอเมริกาออกมาเรียกร้องความยุคิธรรมให้กับจอร์จ ฟลอยด์ คนอังกฤษก็ออกมาประท้วงที่สถานทูตสหรัฐฯ ประชาชนประเทศอื่น ๆ ต่างร่วมเดินประท้วงด้วยเช่นกัน รวมถึงเหล่าดาราคนดังต่างก็ออกมาสนับสนุนหยุดการเหยียดสีผิวด้วย
Amsterdam Protests
ถ้าดูจากที่สื่อนำเสนอข่าว บางคนอาจจะมองว่าการเหยียดอาจจะรุนแรงขึ้น แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง ดาราคนดังหลายคนได้ออกมาเป็นกระบอกเสียงเพื่อหยุด Racism แบรนด์กีฬา Nike ที่ทำแคมเปญอยู่แล้วก็ประกาศร่วมเป็นส่วนในหนึ่งในการเปลี่ยนนั้น การที่กลุ่มคนดังเหล่านี้ได้ออกมาเป็นกระบอกเสียง มันมีน้ำหนักและมีพลังมากกว่าคนทั่วไปมากพอสมควรและเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นจุดพีคของสหรัฐอเมริกาที่เคยเกิดขึ้นครั้งอดีต และมันจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่าง แต่เหนือสิ่งอื่นใดการรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่การเขียนความผิดพลาดในประวัติศาสตร์ให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง นั่นเป็นความน่าละอายใจที่สุด
ทำไมถึงไม่ควรเอาการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่จอร์จ ฟลอยด์มาเทียบกับการประท้วงเพื่อเสรีภาพฮ่องกง?
การประท้วงในสหรัฐอเมริกาไม่สามารถเอามาเทียบกับรัฐที่มีความเป็นเผด็จการได้ เนื่องจากบริบทต่างกัน เพราะคุณจะไม่มีวันได้เห็นเผด็จการออกแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำ แม้แต่การที่ประชาชนจะรำลึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ยังเป็นสิ่งต้องห้าม
ทว่า การประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้จอร์จ ฟลอยด์ คนผิวดำไม่ได้ยืนอยู่คนเดียวแล้ว มีคนผิวขาวได้ออกมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการหยุดความรุนแรงของการเหยียดชาติพันธุ์ด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาคุกเข่าแสดงการขอโทษ ถามว่ารัฐเผด็จการกล้าออกมาทำแบบนี้บ้างมั้ย คำตอบคงไม่
บทสรุปของการประท้วงครั้งนี้จะเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมอเมริกาและสังคมโลกในเรื่องความเท่าเทียมกันของเชื้อชาติ ซึ่งต่างจากการประท้วงเพื่อเสรีภาพทางประชาธิปไตย ซี่งบทสรุปผู้แพ้จะกลายเป็นกบฎทันที และอาจสร้างความร้าวฉานในสังคม หากการประท้วงชนะ ประชาธิปไตยก็จะเกิดขึ้น
คนผิวดำยืนสู้ด้วยตัวเองมานานมากพอแล้ว แต่ครั้งนี้คนผิวขาวได้ยืนเคียงข้างคนผิวดำเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่พวกเขา
ผมเชื่อว่าหลังเหตุการณ์ครั้งนี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก การเหยียดสีผิวจะหายไปจากสังคมพอสมควร
การประท้วงครั้งนี้เหมือนการเกิดใหม่ของนกฟีนิกส์ ช่องว่างระหว่างคนชนชาติพันธุ์จะลดลงไม่น้อย
โฆษณา