EP 20 ฟันผุ อย่ารอให้ปวด!
“ฟันผุนิดเดียว ยังไม่มีอาการอะไร เดี๋ยวค่อยอุดก็ได้มั้ง”
วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังว่าทำไมเมื่อเราสังเกตเห็นรอยดำจากฟันผุแล้ว ถึงแม้มันจะน้อยนิด ก็ไม่ควรรอให้มีอาการแล้วค่อยมาอุด
ฟันผุเกิดจากแบคทีเรียชื่อ Streptococcus mutans เจ้าแบคทีเรียตัวแสบมันจะกินน้ำตาลและขับของเสียด้วยการสร้างกรดแลคติก (Lactic acid) บนผิวฟันไปละลายแคลเซียมบนผิวฟันจนทำให้เกิดผิวขรุขระที่ผิวฟันขึ้นมา เวลาเราแปรงฟันหากแปรงรีบๆ ขนแปรงเราจึงเข้าไปไม่ถึงตามร่องฟัน แบคทีเรียมันก็จะกินน้ำตาลและผลิตกรดออกมาเรื่อยๆ ทำลายผิวฟันเราไปเรื่อยๆ
โดยปกติแล้วฟันจะประกอบไปด้วย 1) ชั้นผิวเคลือบฟัน 2) ชั้นเนื้อฟัน และ 3) โพรงประสาทฟัน เมื่อแบคทีเรียดังกล่าวสร้างกรดแลคติกออกมา มันก็จะค่อยๆ ทำลายผิวฟันตั้งแต่ชั้นแรก เพื่อเจาะเป็นรูเล็กๆ และเข้าไปใน ”ชั้นเนื้อฟัน” ซึ่งมีความนิ่มมากกว่า ”เคลือบฟัน” คราวนี้มันจะขยายอาณาเขตจนเป็นพื้นที่ใหญ่ และลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ทุกคนอาจจะเริ่มมีอาการเสียวฟันบ้างแล้ว หากมันขยายอาณาเขตเข้าไปถึง “โพรงประสาทฟัน” เมื่อไหร่ ก็จะมีอาการปวดฟันตามมา
จะเห็นว่า หากเรายิ่งปล่อยนานขึ้นเรื่อยๆ มันก็จะยิ่งกินเนื้อฟันเราให้เหลือน้อยลงเรื่อยๆ หากฟันผุยังอยู่ในชั้นผิวเคลือบฟันละชั้นเนื้อฟันแบบนี้ยังพอที่จะอุดฟันได้ครับ แต่หากมันขยายอาณาเขตเข้าไปถึง “โพรงประสาทฟัน” เมื่อนั้นคือฟันของคุณได้ติดเชื้อแบคทีเรียไปแล้ว การอุดฟันจะไม่สามารถช่วยให้อาการปวดลดลงได้เลย โดยต้องรักษาด้วยวิธีถอนฟันซี่นั้นออกไปเลย (หลังจากอ่านบทความในเพจนี้ ตอนนี้ทุกคนคงจะอยากเก็บฟันเราเอาไว้มากๆ) และอีกวีธีคือการักษารากฟัน ซึ่งก็มีข้อจำกัดเช่นกัน หากแบคทีเรียเอาเนื้อฟันเราไปเยอะมากๆ ฟันก็จะสูญเสียความแข็งแรงและไม่สามารถบูรณะต่อไปได้ อย่างนี้คงต้องถอนอย่างเดียวเลยครับ
ดังนั้น หากพบว่ามีฟันผุ ไม่ต้องรอครับ ถ้าพบเร็ว ก็จะได้อุดฟันโดยไม่ต้องเสียเนื้อมาก โอกาสที่ฟันจะอยู่กับเรานานๆ ก็มีสูง หรือหากรอให้มีอาการปวดฟันหรือเสียวฟันซะก่อนแล้วค่อยมาพบหมอ ตอนนั้นฟันอาจจะติดเชื้อไปแล้วก็ได้ ดังนั้น ฟันผุให้รีบอุดครับ
อย่าลืมไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำนะครับ และกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามด้วยน้า
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
