4. ทำไม่ได้ก็หนีซะสิ
ขยันวันนี้สบายวันหน้ามันเชยไปแล้วเพื่อน
ต้องขี้เกียจวันนี้สบายวันนี้สิดีกว่า
ปัญหาใหญ่คือตอนพูดให้ฟังมันง่ายกว่าทำจริงเยอะ
เวลาผมพูดถึงแนวทางการแก้ปัญหาให้ว่าเราจะต้องเรียนกันยังไงสอนกันยังไง ครึ่งนึงของเด็กทั้งหมดจะบอกว่า ขอกลับไปจัดตารางเวลาก่อน (ที่จริงคือ ฟังแล้วเหนื่อยไว้ก่อนพ่อสอนไว้) แล้วก็หายสาบสูญหายตัวไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลย
ที่เหลือแบ่งได้อีกสองแบบ คือ พวกใจกล้าขอเผชิญกับปัญหาดูหน่อย พวกนี้ดีแต่ยังดีไม่สุด เพราะความอดทนลู่เข้าใกล้ศูนย์ แต่ความฝันลู่เข้าอินฟินิตี้ ทำแบบย่องๆแย่งๆ ได้ไม่นานแล้วก็บ่นดังๆว่า พยายามจนเลือดตาแทบกระเด็น (ตรงไหนฟระ) แล้วทำไมไม่เห็นดีขึ้นเลย แต่ไม่เป็นไรเนาะขอ(หนี)ไปเก็บวิชาอื่นก่อนดีกว่า ใกล้สอบค่อยกลับมาเรียน ถึงตอนนั้นคงพร้อม (ฝันไปเหอะ)
เหลือเพียงส่วนน้อยที่ยอมสู้ตายถวายชีวิตแคะเอาปัญหางี่เง่าออกไปจากชีวิตจริง
แล้วในที่สุดคนที่ทำจริงก็ย่อมถึงเส้นชัยที่ตั้งไว้
แต่จริงๆแล้วมันก็ดีเหมือนกันนะคุณว่ามั้ย โลกเราต้องการคนทั้งสองแบบแหละ ทั้งพวกที่ถอดใจหนีปัญหาและพวกที่เอาจริงขอสู้ปัญหา ไม่งั้นเราจะมีระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไปทำไม ถ้าคุณขยันโลกนี้คงสยองน่าดู มันต้องมีพวกรักสบาย (เป็นคำพูดที่ดูดีของคำว่า “ขี้เกียจ”) กันบ้าง ไม่งั้นคนที่ตัดสินใจสู้เพื่อฝันตัวเองคงเหนื่อยแย่ลง อุตส่าห์กัดฟันทำจริงแล้วยังต้องมาแข่งกับทุกคนในโลกอีก
ฉะนั้น ที่โลกมันมีคนทั้งสองพวกอย่างนี้แหละดีแล้ว โลกต้องการคนอย่างคุณนะจำไว ทำไม่ได้ก็หนีไปซะ จะสู้ไปทำไม ความฝันก็แค่ควาามฝัน ไม่ต้องสู้ไม่ต้องดิ้นรน อย่างนั้นแหละดีแล้ว ถ้าเจออะไรที่ลำบากก็หนีมันซะนะ
ถ้าคุณคิดจะหนีแล้ว...คุณต้องหนีให้ได้ตลอดทั้งชีวิตนะ
คุณโลมา
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
