การอุทธรณ์และร้องทุกข์
การอุทธรณ์ หมายถึง การที่ผู้ถูกลงโทษทางวินัย (5 สถาน ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดเงินเดือน ปลดออก ไล่ออก) ร้องขอให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย กำหนดไว้ได้ยกเรื่องขึ้นมาพิจารณาใหม่ ให้เป็นไปในทางให้คุณแก่ผู้ถูกลงโทษ
การนับเวลาเริ่มต้นการอุทธรณ์ ให้เริ่มนับถัดไปจากวันที่ได้รับแจ้งคำสั่งลงโทษไป 30 วัน หากวันสุดท้ายตรงกับวันหยุดราชการให้นับวันเปิดทำการใหม่เป็นวันสุดท้ายแห่งการนับเวลานั้น
โทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดเงินเดือน กรณีผิดวินัยไม่ร้ายแรง ที่สั่งโดยผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ภายใน 30 วันนับตั้งแต่ได้รับแจ้ง
โทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดเงินเดือน กรณีผิดวินัยไม่ร้ายแรง ที่สั่งโดย นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัด เลขาธิการ กพฐ. ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ ต่อ คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ภายใน 30 วันนับตั้งแต่ได้รับแจ้ง
โทษปลดออก ไล่ออก กรณีผิดวินัยร้ายแรง ให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ ต่อ คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับแจ้งคำสั่ง ให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน
กรณีผู้มีวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ จะมีความผิดร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง ต้องอุทธรณ์ต่อ คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เท่านั้น
การร้องทุกข์ หมายถึง การที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำสั่งของผู้บังคับบัญชา หรือมีความคับข้องใจเนื่องจากการกระทำของผู้บังคับบัญชา หรือกรณีถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย
ใช้สิทธิ์ร้องทุกข์ตามบทกฎหมายองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายกำหนดไว้ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนคำสั่งหรือเพิกถอนคำสั่ง
ให้ร้องทุกข์ ต่อ คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันทราบเรื่องอันเป็นเหตุเกิดเหตุแห่งการร้องทุกข์ มติ ของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด เป็นที่สิ้นสุด
ถ้าเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้ฟ้องร้องต่อศาลปกครองภายใน 90 วัน
กรณีถูกสั่งให้ออกจากราชการ หรือพักราชการ ให้ร้องทุกข์ต่อ คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง และให้เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้ฟ้องร้องต่อศาลปกครอง
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
