Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฮักเด้อประวัติศาสตร์
•
ติดตาม
3 มิ.ย. 2020 เวลา 04:25 • ประวัติศาสตร์
พราหมณ์ประจำราชสำนัก
ในโลกนี้ ถือว่ายังมีเพียงสองประเทศ คือ ไทยเเละกัมพูชา เท่านั้น ที่มีพราหมณ์ไว้ประกอบพระราชพิธี ในราชสำนัก ตามความเชื่อในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ซึ่งก็ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียนั่นเอง ซึ่งในนิราศนครวัด ได้กล่าวถึงการสืบสายที่มาที่ไปของพรหมณ์ไว้ว่า
"...มีกิจเรื่องหนึ่ง ซึ่งตั้งใจจะมาสืบหาความรู้จากพวกพราหมณ์ที่กรุงกัมพูชา ด้วยพราหมณ์ในกรุงเทพ ฯ มี ๓ พวก พวกพราหมณ์พิธีมาจากเมืองนคร พวกพราหมณ์โหรดาจารย์มาจากเมืองพัทลุง พวกพราหมณ์พฤฒิบาศไปจากกรุงกัมพูชา เคยสืบได้ความจากพราหมณ์ที่เมืองนครศรีธรรมราชและเมืองพัทลุง ว่าต้นสกุลพราหมณ์พิธีมาจากเมืองรามนคร ส่วนพวกพราหมณ์โหรดาจารย์นั้นได้ความว่าต้นสกุลมาจากเมืองพาราณสี แต่พวกพราหมณ์พฤฒิบาศสืบในกรุงเทพฯ ไม่ได้ความว่าต้นสกุลมาจากไหน จึงหมายจะถามพวกพราหมณ์ที่กรุงกัมพูชา ได้ถามพระครู บอกได้แต่ว่า “มาแต่พนมไกลาส” หมายความว่า มาจากเขาไกรลาส พวกฝรั่งนักเรียนโบราณคดีที่ไปด้วยกัน เป็นอันสิ้นกระแสสืบไม่ได้ความว่าพวกพราหมณ์พฤฒิบาศเดิมอยู่เมืองใดในมัชฌิมประเทศ..."
#ไทย
ในประเทศไทยนั้น สันนิษฐานว่ามีมาเเต่ครั้งสุโขทัย (เพราะประวัติศาสตร์ไทย ถือเอาสุโขทัยเป็นเริ่มเเรก) มีหน้าที่สอนศิลปวิชาต่างๆ (โบราณ) เเละประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งพระมหากษัตริย์ที่จะขึ้นครองราชย์ ก็ต้องผ่านพิธีพราหมณ์
ปัจจุบันการแต่งตั้งพราหมณ์ราชสำนัก มีระเบียบปฏิบัติคือ ต้องมีเชื้อสายของพราหมณ์ และต้องเป็นบุตรของพราหมณ์ราชสำนัก ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ ๗ สายตระกูล ได้เเก่ รังสิพราหมณกุล รัตนพราหมณ์ ภวังคนันท์ สยมภพ วุฒิพราหมณ์ นาคะเวทิน โกมลเวทิน นอกจากนี้ ยังต้องได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้าคณะพราหมณ์ราชสำนัก แล้วจึงได้บวชเรียกว่า "บวชสามสาย" ต่อมา เมื่อพระครูพราหมณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นพราหมณ์ราชสำนัก ก็จะเสนอชื่อไปยังกองพระราชพิธี แล้วจึงบรรจุเป็นพราหมณ์ประจำราชสำนัก แต่ยังไม่สามารถประกอบพระราชพิธีได้จนกว่าพระครูพราหมณ์จะเห็นชอบ จึงได้บวชเรียกว่า "บวชหกสาย" จากนั้นเสนอต่อกองพระราชพิธี และเสนอต่อไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อนำความกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่อไป
สำหรับตำแหน่งพระราชครูพราหมณ์ในปัจจุบันคือ ตำแหน่ง "พระมหาราชครู" หรือที่เรียกกันว่า คุณพระใหญ่ หมายถึง พระราชครูที่ได้ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแด่พระมหากษัตริย์ แล้วจึงได้เลื่อนตำแหน่ง ดังนั้น ในแต่ละรัชกาล จึงมีพระมหาราชครูเพียง ๑ ท่าน ตำแหน่งรองลงมาคือ พระราชครู ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะพราหมณ์ ที่ไม่ได้ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตำแหน่งต่อมาคือ พระครู และพราหมณ์ ตามลำดับ
#กัมพูชา
ในกัมพูชานั้นมีพราหมณ์มาตั้งเเต่ยุคเเรก คือตั้งเเต่เริ่มสร้างเมือง เพราะได้รับอิทธิพลจากความเชื่อในทางศาสนาพรหามณ์ฮินดูมาเเต่ต้น พระมหากษัตริย์เกือบทุกพระองค์นับถือศาสนาพรหามณ์-ฮินดู ดังจะเห็นได้จากศาสนสถาน ศาสนวัตถุเก่าเเก่ ซึ่งมีอายุย้อนหลังไปได้พันกว่าปี ที่สร้างอุทิศพระเป็นเจ้าในศาสนาพราหมณ์
ในจารึกสด็อกก๊กธม ๒ จ.สระเเก้ว ซึ่งเป็นจารึกหินทรายแดง อักษรขอม ภาษาเขมรและสันสฤต พ.ศ. ๑๕๙๕ จารึกมีข้อความทั้ง ๔ ด้าน เริ่มต้นด้วยการกล่าวสรรเสริญพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ ๒ การพระราชทานคนและที่ดินเพื่อสร้างเทวสถาน ณ เมืองภัทรนิเกตนะ และกล่าวถึงสายสกุลพราหมณ์ควบคู่ไปกับลำดับกษัตริย์ย้อนหลังไปถึง ๒๐๐ ปี ไว้อย่างชัดเจน (ผู้สนใจสามารถอ่านเพิ่มได้จากบทความของคุณวรณัย เดี๋ยวใส่ลิงก์ไว้ให้ท้ายนี้ครับ)
ตัดมาในสมัยราชอาณาจักรกัมพูชา พราหมณ์ก็ยังมีบทบาทสำคัญในราชสำนัก โดยเรียกว่า "บารคู" มีพระอิสิภัทธ์ (ราชทินนาม) เป็นประธานพราหมณ์ จนมาในสมัยเขมรเเดง ผู้คนถูกสังหารมากมาย เเม้เเต่พระสงฆ์ ก็ยังโดน พราหมณ์ก็คงไม่เหลือ เเต่เมื่อจัดการบ้านเมืองให้สงบได้เเล้ว พราหมณ์ก็กลับมามีบทบาทในราชสำนักอีก โดยผู้ที่เป็นลูกเป็นหลานนั่นเอง โดยมีพระชยาธิบดี เป็นประธาน ในปัจจุบัน.
ภาพ: ประธานพรหมณ์ทั้งสองประเทศ
-พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ วิบุลย์เวทย์บรมหงส์ พรหมพงศ์ พฤฒาจาริย์ (ชวิน รังสิพราหมณกุล) ประธานพระครูพราหมณ์ สำนักพระราชวัง หัวหน้าคณะพราหมณ์ประจำเทวสถานโบสถ์พราหมณ์
-พระชยาธิบดี (กง เกน) จางวางกรมพราหมณ์บารคูปุโรหิต (พระราชครูพราหมณ์ประจำสำนักพระราชวัง)
เนื้อหาบางตอน:
-นิราศนครวัด พระนิพนธ์ในสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
-พจนานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เล่มที่ ๓๔
-บทความของคุณวรณัย
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=736270683504303&id=100013641335044
facebook.com
Voranai Pongsachalakorn
จารึกสด๊กก๊อกธม 2 เปิดปริศนาหน้าประวัติศาสตร์เขมรโบราณ . . . ในราวปี 1901 - 1911 ทั้งเอเตียน เอมอนิเยร์ (Etienne Aymonier) และพันตรี ลูเนต เดอ ลาจองกิแยร์ (Étienne Lunet de Lajonquière)...
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย