3 มิ.ย. 2020 เวลา 09:05 • ไลฟ์สไตล์
คนแต่ละคนก็เติบโต
มาสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
อุปนิสัย การดำเนินชีวิต
ความอดทน ความกดดัน ต่างกัน
คำว่ารักของคนๆนึง
อาจไม่เท่ากับ .. คำว่ารักของอีกคนนึง
หรือพูดอีกอย่างนึงก็คือ
คำจำกัดความของคำว่ารักของคนเราล้วนต่างกัน
คนบางคน .. การได้เจอกันทุกวัน
ได้คุยกันทุกวัน นั่นคือรัก
แต่คนบางคน การได้จับมือ
เดินไปไหนมาไหนด้วยกันทุกๆที่ นั่นคือรัก
ในขณะที่คนบางคน .. มีแค่ความคิดถึง
และความเชื่อใจกัน โดยที่ไม่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา นั่นคือรัก
เมื่อเราคาดหวัง .. แล้วมันไม่เป็นดังหวัง
ก็จะคิดไปเองว่า .. เขาไม่รัก
ซึ่งแท้จริงแล้ว .. อาจไม่ใช่
เขาอาจจะรัก แต่แสดงออกในแบบของเขาก็ได้
แต่ไม่ว่าจะรักแบบไหน
ล้วนเกิดจากพื้นฐานของความเข้าใจ เชื่อใจ
และห่วงใยไม่อย่างนั้นคงเรียกว่ารักไม่ได้
เมื่อไหร่ที่ความเข้าใจกันหายไป
ก็จะพาลให้ความเชื่อใจ และห่วงใยหายไปด้วย
สิ่งหนึ่งที่ทำได้ .. คือการหันหน้าคุยกัน
ด้วยคำพูดดีๆ ปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง
สิ่งสำคัญก็คือ
อย่าพูดว่ารัก แต่ใจไม่รัก
เพราะการกระทำ
สุดท้ายแล้วก็จะบ่งบอกว่าเราไม่รัก
และอย่าคิดว่าแค่การแสดงออกก็เพียงพอในการรักใครซักคน ไม่ต้องพูดอะไรก็จะเข้าใจ
เพราะจิตใจคนเรานั้นอ่อนแอ ...
คำพูด จะทำให้รู้สึกเชื่อมั่น ..
การกระทำ ..จะทำให้รู้สึกเชื่อใจ
หากเมื่อไหร่ที่สิ่งต่างๆไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง
หากการคุยกันดีๆแล้วไม่เป็นผล
มองหน้าเขาให้ดีๆ
แล้วถามใจตัวเองว่า..
คนๆ นี้คือคนที่เรารักจริงๆ มั้ย
ถ้าหากว่าคำตอบคือใช่ .. คำถามต่อไปก็คือ
เราทำใจเข้าใจเขา และลดความคาดหวังลงได้มั้ย
แล้วคำตอบจะปรากฎขึ้นในใจของเราเอง
ที่เหลือก็คือ ..
เราจะยอมรับมันได้หรือเปล่า ก็เท่านั้น
นอกจากนี้..
คนเรา .. ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมข้อดีและข้อเสีย
เมื่อเรารักใคร .. หากว่ามองเห็นแต่ด้านที่ดีของเขาละก็ให้บอกกับตัวเองได้เลยว่า
เรายังไม่รู้จักเขาดีพอ ...หรือไม่ก็ ..
เรากำลังตาบอดเพราะความรัก
จงจำไว้เลยว่า ..
การที่คนเราจะอยู่ด้วยกันได้อย่างยืดยาวนั้น
ต้องชื่นชมในข้อดี
และเข้าใจในข้อเสียของกันและกัน
ในเส้นทางของชีวิต
ถ้าแค่เราคนเดียว .. จะเดิน จะวิ่ง เร็วเท่าไหร่
ช้าเท่าไหร่ จะล้มยังไง ก็คงไม่เป็นไร
เพราะมีแค่เราคนเดียวที่เจ็บ
แต่เมื่อวันใด ..
ที่เราตัดสินใจจะเดินร่วมทางกับใครซักคน
ก็เหมือนกับการเดินสามขา
จะก้าวยังไง เดินเร็วเท่าไหร่ ก็ต้องก้าวไปด้วยกัน
เมื่อล้ม .. ก็จะไม่ใช่เราคนเดียวที่เจ็บ
จึงเป็นเรื่องสำคัญ
ที่ต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
ปรับเปลี่ยนบางสิ่งเข้าหากัน
เพื่อหาจังหวะในการเดินที่พอดีของทั้งสองฝ่าย .. ไม่เร็วเกินไป ไม่ช้าเกินไป
เพื่อจะได้เดินไปด้วยกันได้
ไม่ว่าจะเจออุปสรรคแบบไหนก็ตาม ...
บางครั้ง .. การเดินไปคนเดียว ..
อาจมีความสุขกับอิสระของชีวิตที่เราเลือกเองได้
จะเดินไปไหนก็ได้ จะวิ่งไปไหนก็ได้
ถ้าเหนื่อยจะพักก็ได้
แต่คงจะดีกว่าไม่น้อย
ถ้ามีใครซักคนร่วมเดินคุยไปด้วย
กันตามทางเดินชีวิตที่ยังไม่รู้จุดจบนี้
ร่วมหัวเราะไปด้วยกัน
ช่วยเช็ดน้ำตาของกันและกัน
เสียงหัวเราะที่มีก็จะดังมากขึ้น...
น้ำตาที่ไหลมาก็จะเหือดแห้งเร็วขึ้น...
แล้วเราก็จะพบว่า
ชีวิตเรามีสุขมากขึ้น ..
เพราะตัวเราเอง
ไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนี้อีกต่อไป..
โฆษณา