4 มิ.ย. 2020 เวลา 07:18
เข้าใจศัพท์กฎหมายอังกฤษ(อเมริกัน) กรณี จอร์จ ฟลอยด์
เรื่องราวการประท้วงใหญ่โตในอเมริกาขณะนี้ เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปแล้วว่า สาเหตุเกิดจากความไม่พอใจตำรวจที่ทำเกินกว่าเหตุจน จอร์จ ฟลอยด์ ซึ่งเป็นคนผิวดำเสียชีวิต
Derek Chauvin
คำถามน่าสนใจ ที่ไม่ได้ถูกพูดถึงในวงกว้าง ก็คือ ตำรวจที่ทำเกินกว่าเหตุนั้น โดนดำเนินคดีและตั้งข้อหาอย่างไร
วันนี้ทนายสายดาร์กจะเล่าให้ฟัง
นอกจากที่เรารู้ว่าตำรวจทั้ง 4 คน ได้ถูกไล่ออกจากงาน ก็มีข่าวว่า พนักงานอัยการ มลรัฐ Minneapolis ได้ตั้งข้อหา Derek Chauvin ตำรวจที่ใช้เข่ากดฟลอยด์จนตาย 2 ข้อหา คือ
1
1. Third degree murder
2. Second degree manslaughter
ข้อหาที่อัยการดำเนินคดี Derek Chauvin
ศัพท์คำแรกที่เราควรจะรู้จัก คือ Homicide ซึ่งแปลว่า "ถูกทำให้ตาย" โดยตรงข้ามกับ Suicide ที่แปลว่า "ฆ่าตนเองตาย"
แล้วคำว่า Murder กับ Slaughter ต่างกันอย่างไร?
Murder คือ การฆ่าผู้อื่น (homicide) โดยผู้กระทำที่มีเจตนาร้าย ตัวอย่างเช่น การฆ่าผู้อื่นโดยมีการตระเตรียมการไว้ก่อน เป็นต้น
ความผิด Murder นี้ สามารถแบ่งออกเป็นได้ 2 ประเภท คือ 1st degree murder กับ 2nd degree murder ซึ่งมีโทษแตกต่างกัน
1st degree murder คือ การฆ่าผู้อื่นที่มีการวางแผนมาล่วงหน้า หรือแม้ไม่ได้วางแผนมาล่วงหน้า แต่ถ้ามีเวลาพอที่จะตั้งสติได้ (premeditation) ก็ถือว่าผิดแบบ 1st degree โดยมีโทษประหารชีวิต
2nd degree murder คือ การฆ่าผู้อื่นที่ไม่ได้มีเวลาชั่งใจ หรือมีการวางแผนมาล่วงหน้า
สำหรับ Manslaughter คือ ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น (homicide) เช่นเดียวกับ murder แต่ผู้กระทำมีเจตนาร้ายน้อยกว่า ตัวอย่างเช่น การทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย หรือ การกระทำโดยประมาททำให้ผู็อื่นตาย เป็นต้น
ความผิดของ Manslaughter ก็แบ่งออกได้เป็น 2 ระดับ เช่นเดียวกัน คือ 1st degree Manslaughter กับ 2nd degree Manslaughter
1st degree Manslaughter คือ การฆ่าผู้อื่นตายเพราะความโกรธ เพราะถูกยั่วยุ (heat of passion) หรือ ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
ถ้าเทียบกับกฎหมายไทย เราเรียกความผิดนี้ว่า การกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะ หรือ เจตนาทำร้ายเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตตาย
2nd degree Manslaughter คือ การฆ่าผู้อื่น เนื่องจากขาดความระมัดระวัง เช่น เมาแล้วขับรถชนคนตาย
กฎหมายไทยเราเรียกความผิดนี้ว่า การกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
มลรัฐส่วนใหญ่ในอเมริกา ส่วนมากมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น 2 ประเภท คือ 1st degree และ 2nd degree เท่านั้น แต่กฎหมายของมลรัฐ Minneapolis ต่างจากรัฐอื่นๆ คือ เพิ่มความผิดฐานฆ่าผู้อื่นแบบ 3rd degree murder ไว้ด้วย ซึ่งหมายถึง การกระทำใดๆที่ ผู้กระทำไม่ได้มีเจตนาฆ่า แต่กระทำไปโดยไม่ให้ความสำคัญชีวิตของผู้อื่น เช่น ยิงปืนเข้าไปในรถ หรือ ยิงปืนไปในฝูงชน เป็นต้น
ดังนั้น ตอนแรกที่พนักงานอัยการตั้งข้อหา Derek Chauvin ไว้นั้น ถ้าแปลเป็นภาษาไทยง่ายๆ ก็คือว่า "ฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาเพราะไม่ระมัดระวังเพียงพอ" และ "ฆ่าผู้อื่นตายด้วยความประมาท"
ซึ่งผู้ประท้วงในอเมริกาเห็นว่าข้อหานี้ "เบาเกินไป" สำหรับภาพที่ปรากฏในคลิป
แต่ตอนนี้มีข่าวล่าสุดมาแล้วว่า พนักงานอัยการได้เปลี่ยนข้อหาใหม่เป็น "2nd degree murder"
ซึ่งหมายถึง "การฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไม่ได้ตระเตรียมการไว้ก่อน"
ข้อหาใหม่นี้คือ การสื่ออย่างชัดเจนว่า Derek Chauvin ตั้งใจที่จะฆ่า จอร์จ ฟลอยด์ ไม่ใช่กระทำโดยประมาทหรือไม่มีเจตนา ซึ่งข้อหานี้มีโทษหนักกว่าข้อหาที่ถูกตั้งตอนแรกค่อนข้างมาก
รอดูต่อไปว่าศาลจะมีคำพิพากษาอย่างไร น่าติดตามมากครับ
โฆษณา