4 มิ.ย. 2020 เวลา 08:50 • ปรัชญา
ความรู้ไร้ขอบเขต ความจริงไร้พรมเเดน
บทความที่ดีไม่มีในโลก และบทความที่ไม่ดีก็ไม่มีในโลก ต่างคนต่างคิด ต่างจิตต่างใจ บทความนี้อาจดีสำหรับคนนี้ บทความนี้ก็ดีกับอีกคน ล้วนแล้วแต่จะถูกใจใคร มันไม่เกี่ยวที่ว่าจะมีคนชอบน้อยแล้วท้อ ไม่เกี่ยวที่ว่ามีคนชอบมากแล้วหลง การทำอะไรลงไปสักอย่างนั้นคือความภาคภูมิใจของเราแล้ว
หลายวันมานี้ยุ่งเรื่องวิจัย ชีวิตยังอีกยาวไกล ผมตั้งใจจะเขียนเรื่องราวที่ดีต่อจิตใจนั่งคิดอยู่หลายวันว่าจะลงมือเขียนบทความเรื่องอะไรกัน ซึ่งมันมีหลายเรื่องที่อยู่ในหัวเต็มไปหมด วันนี้อยากเขียนเรื่องนี้ พรุ่งนี้อยากเขียนเรื่องใหม่ จึงพยายามที่จะผนวกความคิดให้เป็นเรื่องเดียวกัน
การนำแนวคิดที่หลากหลายจากหลายเพจที่ผมได้อ่านทำให้เกิดความเข้าใจไว้ว่า หลายสิ่งหลายอย่างที่ได้เรียนรู้จากทุกคนทำให้เห็นมุมมองทางความคิด โลกทัศน์ของแต่ละบุคคล เมื่อได้อ่านบทความที่น่าสนใจ ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่ดีของแต่ละเพจ โดยยึดความจริงและความถูกต้องมากที่สุด
วันนี้มีหลายเพจที่ทำให้เรามีความรู้สึกว่าตัวเองโง่ รู้แต่เฉพาะตน การแกล้งโง่ หรือรู้น้อย จึงสำคัญมาก เพื่อให้ได้ความรู้จากคนหลายคน ทำตัวปิดหู ปิดตา ปิดปาก เพื่อรับฟังสิ่งต่างๆ มากมายที่มีทั้งดีและไม่ดี แต่สามารถสอนเราได้ ให้ความรู้กับเรา คงต้องขอบคุณอย่างมาก หลายเพจผู้เป็นกัลยาณมิตร
ผมไปเจอเพจหนึ่งได้เขียนถึงคนเก่งเขาจะเงียบ แต่คนที่รู้น้อยเขาจะพยายามทำตัวให้เหมือนเก่ง เพื่อให้เหมือนเก่ง แต่ความแตกต่างของคนทั้งสองจะอยู่ที่การปฏิบัติ ผมเห็นอีกหลายเพจพูดถึงเรื่องความรู้ไว้น่าสนใจมากครับ ผมจึงมีคำคมสั้นๆ เพื่อปรุงความคิด พัฒนาความคิด ที่ว่า "โง่ให้เป็น เห็นความสุข ทุกเรื่องเว้น เห็นฟังนิ่ง จริงเท็จตรอง มองความจริง"
เหตุที่กล่าวคำคมนี้เพราะในคำสอนของท่านพุธทาส ยังสอนให้ปิดหู ปิดตา ปิดปาก คือการไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง ปล่อยวางหลายๆ เรื่องยิ่งทำให้เรามีความสุข ส่วนความเก่งเราควรพยายามที่จะทำตัวให้เหมือนแก้วว่าง อย่าเป็นชาล้นแก้ว เพราะจะไม่สามารถรับความรู้จากทางอื่นได้มีแต่จะต่อต้านความรู้เหล่านั้น
โสคราติส บิดาแห่งการปกครองที่เที่ยวถามปัญหาให้คนอื่นแก้ เพื่อให้ตนเองมีความรู้จากการสนทนากับคนอื่นในที่ต่างๆ เพื่อให้เกิดความรู้ใหม่ๆ ผมเข้าเรียนครอสระยะสั้นเกี่ยวกับการคิด ผู้สอนบอกว่า ความรู้ใหม่ไม่ได้เกิดจากคนในกลุ่มของตน ต่อให้ได้ความรู้ก็จะได้ไอเดียเดิมๆ ที่คุยกัน แต่ถ้าลองออกไปคุยกับคนกลุ่มอื่นหรือสถานที่อื่นเราจะได้ไอเดียอีกมากมาย
ไอเดียเยอะยิ่งได้แนวคิดใหม่ที่นำมารวมไว้ แล้วนำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ แล้วเราจะได้องค์ความรู้ใหม่ ซึ่งสิ่งที่ผมเรียนก็คล้ายกับที่ฟังมาจากเพจ แปดบรรทัดครึ่ง มันจึงเป็นการยืนยันว่าความรู้ใหม่ควรเกิดจากการแสวงหา พบปะ พูดคุย สนทนา หรือสมมติตัวเองเป็นเขา เหมือนกับนักแสดงที่ต้องทำกิจวัตรต่างๆ ให้เหมือนเป็นตัวนักแสดงคนนั้น
ขงจื้อเองยังกล่าวกับศิษย์ของตนว่า คน 2 คนที่เดินมานี้ ต้องมี 1 คนที่เป็นครูของเรา มันไม่สำคัญว่าเขาจะมาจากไหนแต่สิ่งที่สำคัญคือ เขาคนนั้นให้อะไรเราหลังจากที่เราได้พูดคุยกัน แล้วจากลากันไป อยู่ที่ว่าเราจะเลือกเอาสิ่งใดจากคนเหล่านั้น ที่สำคัญคือช่วยให้เราเกิดความรู้ขึ้นมาได้
พระพุทธเจ้า ถือได้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นศาสดาแห่งพุทธะ ยังทรงสอนศิษย์ด้วยหลักธรรมเฉพาะที่สามารถนำมาใช้ในการสอนศิษย์ โดยได้ยกเอาใบไม้ในป่าที่มีจำนวนมาก แต่พระองค์จะทรงสั่งสอนเฉพาะแค่ใบไม้ในกำมือ เพราะหลักธรรมมีมากมายเหมือนใบไม้ในป่าใหญ่
ดังนั้น ความรู้ล้วนแต่เกิดจากการเรียนรู้ภายนอก จากผู้คน โดยเฉพาะไอเดียนั้นเกิดขึ้นทุกเมื่อทุกขณะ ไอเดียไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วฉับพลัน ถึงเกิดขึ้นคงต้องไตร่ตรองตามหลักโยนิโสมนสิการ ทำให้ความรู้มีระเบียบมากขึ้น การแสวงหาความรู้เกิดจากทุกคนทุกที่ และควรแกล้งโง่ให้เป็น
ฝากกด like
ฝากกด share
ด้วยนะครับ
โฆษณา