5 มิ.ย. 2020 เวลา 10:15 • ธุรกิจ
เศรษฐกิจโลกกำลังจะฟื้นแล้ว! หรือมันยังไงกันแน่ล่ะเนี่ย?! 🤕
หนึ่งเดือนที่ผ่านมาดัชนี Dow Jones ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นถึง 10.4% ส่วนดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 8.50% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 9.16%
ในขณะที่ดัชนีหุ้นไทยหรือ SET ปรับตัวขึ้นจากประมาณ 1,280 จุดมาแตะ 1,400 จุดแล้วเมื่อวานนี้ (ประมาณ 9.4%)
ตลาดหุ้นที่ดูจะคึกคัก ช่างขัดกับสภาพเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันราวกับกับเป็นโลกคู่ขนานเสียเหลือเกิน
🎯โคโรนาไวรัส
🎯สงครามราคาน้ำมัน
🎯สงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน
🎯เหตุความขัดแย้งสหรัฐฯ และอิหร่าน
🎯เหตุการณ์การประท้วงค่านิยมเหยียดสีผิว
เหล่านี้คือปัญหาหลักซึ่งส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เท่านั้น ยังไม่นับรวมปัญหาอื่นในอดีตที่ส่งผลมาถึงปัจจุบันอีกมากมาย
แล้วการที่ตลาดหุ้นเกิดการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จนนักลงทุนหลายคนบ่นอุบกันว่า 'ตกรถแล้ว' มีเหตุมาจากปัจจัยใดกันแน่?
เมื่อลองวิเคราะห์ดู ในขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจโลกเลวร้าย การเคลื่อนไหวของรัฐฯ และธนาคารกลางน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญครับ
เศรษฐกิจโลกที่ค่อยๆ ซบเซาลงถูกพยุงไว้ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงนโยบายการอัดฉีดเงินในหลายประเทศก็ช่วยเรียกความมั่นใจให้นักลงทุนได้เป็นอย่างดี
ล่าสุด ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยไปอยู่ที่ 0.00%-0.25% ซึ่งประเทศอื่นก็มีการปรับลดตามกันมา นายเจโรม พาเวล ประธาน FED ออกมากล่าวว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อพยุงเศรษฐกิจหลายครั้ง
รวมถึงความคาดหวัง ในความคืบหน้าของการผลิตวัคซีนก็มีส่วนทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นเช่นกัน
แต่นโยบายเหล่านี้ที่จริงแล้ว มันอาจเป็นการซุกปัญหาไว้ใต้พรมครับ
เมื่อมองปัจจัยต่างๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล อันที่จริงเศรษฐกิจโลกตอนนี้ไม่ได้ต่างกับเมื่อ 3-4 เดือนก่อนที่ SET ลงไปแตะระดับ 1,000 จุดด้วยซ้ำ แต่ความหวังของนักลงทุนกลบเกลื่อนความกังวลเหล่านั้นจนหมด และทำให้ตลาดเขียวอย่างที่เห็น
ส่วนสเตปต่อไปเราคงหวังได้ 2 อย่างคือภาวนาให้ปัญหาใต้พรมนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่ก็ถึงเวลาที่ต้องรับผลกระทบของจริงกันแล้ว
บทความนี้ก็เป็นตัวแทนความกังวลของตัวผมเองครับ เวลาตลาดบวกโดยที่ปัจจัยแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยเป็นเรื่องที่เราควรระมัดระวัง
หวังว่าทุกคนจะวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ และผ่านวิกฤตไปได้ด้วยกันนะครับ
#พ่อบ้านลงทุน
References

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา