ฟ้าหลังฝน ณ สแตมฟอร์ด บริดจ์ (Part 1)
ขวบฤดูกาลที่ผ่านมา คงจะเป็นฤดูกาลที่เรียกได้ว่า"กระอักกระอ่วน"พอสมควร สำหรับแฟนสิงห์บลู เชลซี จะเรียกว่าแย่ก็ไม่ใช่หรือจะเรียกว่าดีก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก แต่ในเรื่องราวชวนปวดหัวทั้งหลายก็ยังพอมีเรื่องที่ดีอยู่บ้าง
ช่วงต้นฤดูกาล เชลซี ได้ยอดตำนานตลอดกาลของสโมสรฯอย่าง "ซุปเปอร์แฟรงค์" แฟรงค์ แลมพาร์ด คัมแบ็คกลับมาถ้ำสิงห์อีกครั้ง หลังจากอำลาสโมสรฯไปเมื่อปี 2014 แต่สถานะของแฟรงค์ในตอนนี้ไม่ใช่นักเตะผู้บัญชาการเกมในสนามอีกแล้ว แต่เป็นผู้บัญชาการข้างสนาม ใช่แล้วครับตำแหน่งนั้นคือ "กุนซือ" หรือ ผู้จัดการทีม
แต่ก็ประจวบเหมาะกับที่ทีมต้องเสียผู้เล่นซุปเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของทีมอย่าง เอเด็น ฮาซาร์ ออกไป แต่นั่นยังไม่ใช่ปัญหาหลักครับ เพราะปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ ทีมไม่สามารถเสริมตัวนักเตะเข้าสู่ทีมได้เลย ตั้งแต่ในช่วงตลาดซัมเมอร์ 2019 ลากยาวมาถึงตลาดหน้าหนาว 2020 (แต่ยังสามารถเซ็นล่วงหน้าได้)
แถมด้วยผู้มีอิทธิพลสูงสุดของสโมสรฯอย่าง เสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช ก็ถูกแบนห้ามเข้าประเทศอังกฤษ เนื่องจากปัญหาทางการเมือง ทำให้เชลซีต้องพบกับปัญหามากมายอยู่พอสมควรในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา
ส่วนผลงานในสนาม กุนซืออย่าง แลมพาร์ด ก็สามารถประคับประคองลูกทีมที่เต็มไปด้วย ดาวรุ่ง เดินทางผ่านมาถึงแมตช์ที่ 29 ของฤดูกาล ด้วยผลงาน ชนะ 14 เสมอ 6 แพ้ 9 มี 48 คะแนน รั้งอันดับ 4 ในตารางคะแนน ส่วนผลงานในถ้วยอื่นก็ยังมีเส้นทางให้ลุยครบทั้ง 3 ถ้วย ทั้ง เอฟเอคัพ(เข้ารอบ8ทีมสุดท้าย) และ แชมป์เปี้ยนส์ลีค(อยู่รอบ16ทีมสุดท้าย แมตช์ที่ 2) ก่อนที่จะโดนไวรัส โควิด19 เล่นงานจนต้องหยุดชะงักไปทั้งหมด
"แน่นอนว่าหลังจากหมดพายุ ท้องฟ้าที่แจ่มใสกำลังรอคอยอยู่"
• 14 กุมภาพันธ์ 2563 เชลซีแถลงอย่างเป็นทางการคว้าตัว "ฮาคิม ซีเย็ค" เพลย์เมคเกอร์ทักษะสูง มาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (เซ็นล่วงหน้า จะย้ายมาเข้าร่วมกับทีมหลังจบ"ดูกาลนี้)เรียกได้ว่าเป็นดีลสุดเซอร์ไพรส์ และมีเคมีเข้ากันอย่างไม่ต้องสงสัย
• 5 มิถุนายน 2563 สื่อหลักหลายสำนักรายงานตรงกันว่า เชลซี ปาดหน้าลิเวอร์พูลคู่แข่งร่วมลีก คว้าตัวกองหน้าสัญชาติเยอรมัน จาก อาร์เบ ไลป์ซิก อย่าง "ติโม แวร์เนอร์" เป็นที่เรียบร้อย ด้วยการฉีกสัญญามูลค่า 60 ล้านยูโร
เรียกได้ว่าทรัพยากรนักเตะของเชลซี ในฤดูกาลหน้าจะมีจำนวนและคุณภาพเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน (หากได้ ติโม แวร์เนอร์ มาสมทบจริงๆอย่างที่สื่อคาดการณ์) และในตอนนี้เองระบบโครงสร้างของนักเตะเชลซีเอง ก็เน้นไปที่ "ดาวรุ่ง" เสียส่วนใหญ่อยู่แล้ว การได้นักเตะคนใหม่ 2 คนนี้มา ย่อมส่งผลดีต่อทีมมากๆ
เพราะ เชลซี จะได้นักเตะอายุน้อยแถมมีคุณภาพ ที่สามารถใช้งานได้ใน "ระยะยาว" แทบจะมากกว่าครึ่งทีม
• บิลลี่ กิลมอร์ 18 ปี
• ฮัดสัน โอดอย 19 ปี
• รีดส์ เจมส์ 20 ปี
• เมสัน เมาท์ 21 ปี
• คริสเตียน พูลิซิซ 21 ปี
• แทมมี่ อับราฮัม 22 ปี
• คริสเตียนเซ่น 24 ปี
• ลอฟตัส ชีก 24 ปี
• ติโม แวร์เนอร์ 24 ปี (รอการยืนยัน)
• เกป้า 25 ปี
• เคริก์ ซูม่า 25 ปี
• ฮาคิม ซีเย็ค 27 ปี (ได้รับการยืนยันแล้ว)
และซีเนียร์คนอื่นๆที่พร้อมประคองรุ่นน้องภายในทีม บวกกับศักยภาพในการปั้นดาวรุ่งของ แลมพาร์ด ที่ใช้ความเข้าใจและความรู้ความสามารถในการเคี่ยวนักเตะ ทำให้โฉมใหม่ของ เชลซี ฤดูกาลหน้า มีความ"น่ากลัว" อยู่พอสมควรเลยทีเดียว รอติดตามกันต่อไปครับ
*เรื่องของการวิเคราะห์ระบบโครงสร้างและวิธีการเล่นของเชลซีในฤดูกาลนี้ ผมขออนุญาตยกไป Part 2 นะครับ รอติดตามกันได้เลยครับ🙏🏻
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ🙏🏻
5 มิถุนายน 2563
ภูพาน.
#Chelsea #เชลซี #ทรรศนะของข้าพเจ้า
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
