Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ถมกอล์ฟท็อปชิต
•
ติดตาม
6 มิ.ย. 2020 เวลา 10:11 • กีฬา
“ภาษานั้น เป็นได้ทั้งกำแพง หรืออาวุธสำคัญทางธุรกิจ” 🇨🇿🇩🇪
ดีลที่แฟนหงส์(หรือกระทั่งแม้แฟนผี แฟนเสือ และแฟนสิงห์เอง) อาจยังงงๆไม่หายสงสัย ว่าเหตุไฉนดาวยิงอันดับหนึ่งเยอรมันคนปัจจุบัน จึงเลือกที่จะ “แลนดิ้ง” ตัวเองลงบนสโมสรสีน้ำเงินแห่งมหานครของอังกฤษ แทนที่จะเป็นเต็งหนึ่งบนฝั่งสีแดงแห่งเมืองลุ่มน้ำเมอร์ซีย์ไปได้ไง
ทั้งๆที่ก่อนหน้า เจ้าตัวก็เคยเอ่ยสัมภาษณ์มากกว่าหนึ่งหน ด้วยท่าทีตีความได้ตรงกันว่า “แบะท่า” ถูกอกถูกใจในทีมของคนร่วมชาติอย่าง ‘เยอร์เก้น คล็อปป์’ อยู่มากขนาดไหน ว่ากันไปกระทั่งการพูดคุยถูกคอยามเจอทักทาย มีแชตออนไลน์ระหว่างกันประสาชาวด๊อยท์ชเองกับพี่ ’JK’ ด้วยนั้น ก็ซุบซิบว่ามีอยู่ด้วยกันอีกหลายหน
เรื่องนี้นอกจากปัจจัยที่คงน่าจะพอทราบกันมาแล้วบ้าง ว่านอกจากตำแหน่งการเล่นการันตีตัวจริงได้ยาก เมื่อทับซ้อนกันอย่างเลี่ยงไม่ได้กับสามหอกแห่งแอนฟิลด์ในปัจจุบัน ทั้ง S, M และ F ที่ก็เข้ากับแทคติกของ “บอส” ได้กลมกลืนไหลลื่นโป๊ะชึ่งๆอยู่แล้วแบบไม่ต้องสาธยายให้มากความ แถมอายุอานามสามหน่อยังช่วงร่วมรุ่นวัยพีค และก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีรายไหน ที่ ‘เจเค’ จะยอมเสียไปในฤดูกาลหน้าด้วย
ครั้นจะให้ แวร์เนอร์ มาค่อยๆปรับตัวศึกษาดูงานรอโอกาสสอดแทรก ก็น่ากลัวความเสี่ยงจะต้องเป็นแบบที่ ‘นาบี เกอิต้า’ อดีตเพื่อนร่วมทีมแอร์เบ ไลป์ซิก ที่ล่วงหน้ามาก่อนสองปีต้องเผชิญอยู่ หรือจะรอลุ้นให้ได้เล่นต่อเนื่องจากการเบียดคนใดคนหนึ่งหลุดตัวจริงได้นั้น มันอาจจะไม่คุ้มไม่เหมาะเลยสำหรับซีซั่นที่มี “ยูโร 2021” ยืนรออยู่ตอนกลางปีหน้าเสียด้วย
เพราะพื้นที่ในทัพพญาอินทรี ‘ดี มานชาฟท์’ นั้น มันพร้อมจะผันผวนเปลี่ยนแปลงได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่เก้าอี้บุนเดสเทรนเนอร์ ‘โยกี้ เลิฟ’ เริ่มอุณหภูมิสูงเกินปกติ ใครที่เคยเป็นเบอร์หนึ่งในตำแหน่งใด ก็ใช่ว่าจะการันตีสิทธิ์คุ้มครองปลอดภัย ในขวบเวลาก่อนถึงศึกชิงแชมป์ยุโรปได้
(เพราะเจ้านายเองก็กำลังอยู่ไม่ง่าย ต้องถูกจับจ้องหมายหัว หลังผลงานอัปยศในบอลโลกแดนหมีขาว จนเจ้าตัวต้องออกโรงมาประกาศยกเครื่องปฏิวัตินักเตะในทีมขึ้นใหม่ ไม่รู้จะรอดทันถึงปีแก้ตัวในเวิลด์คัพ 2022 ไหม)
แม้ว่าตัวเจ้าหนุ่ม ‘ติโม’ เองจะเป็นถึงว่าที่ดาวซัลโวเฉพาะคนเยอรมัน ในบุนเดสลีกา ของฤดูกาลที่กำลังรีสตาร์ทอยู่นี้แบบแน่เหมือนแช่แป้งแล้วก็ตามที
ติโม แวร์เนอร์ กดไปแล้ว 82 ประตูในลีกสูงสุดเยอรมัน ในวัยยังไม่ครบเบญจเพส
ไอ้ครั้นจะมานั่งรอเวลาเจ้า “มา” กับเจ้า “โม” ไปโม่แข้งชิงแชมป์บอลแอฟริกาต้นปีหน้า(ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะมีจัดอยู่หรือเปล่า) มันก็กะไรใช่ที่คนมีศักดิ์ศรีตัวความหวังแห่งทีมแชมป์โลกสี่สมัยอยู่อีกนั่นแหละ
กอปรกับเงื่อนไขค่าฉีกสัญญาที่ใกล้จะหมดอายุกลางเดือนนี้ (15 มิ.ย.) ทำให้เจ้าหนุ่มวัย 24 ปี จำต้องรีบตัดสินอนาคต เพราะคงไม่อยากเจอเหตุการณ์เจ็บกระดองใจซ้ำรอยเดิม กับคราว “อกหัก” แต่งชุดวิวาห์เก้อ เพราะฝั่ง “เสือใต้แห่งบาวาเรีย” มาเปลี่ยนใจสลัดชุดเจ้าบ่าวทิ้งไปในช่วงตลาดซัมเมอร์งวดที่ผ่านมา
และในตัวเรื่องของเงินตราค่าเหนื่อย ที่ตามรายงานว่าทีมของเสี่ยนามโรมัน พร้อมจ่ายมากกว่าด้วยแล้วนั้น (ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลที่ ลิเวอร์พูล เอง ก็เจอเงื่อนไขกฎการเงิน ‘Financial Fair Play’ ค้ำคออยู่เดิมแล้วไม่น้อย จะให้มาดิ้นรนควักแข่งก็คงไม่จำเป็น สู้เอางบฯไปเร่งทุ่มต่อสัญญาพวก ซาดิโอ, เวอร์จิล หรือ อลิสซง ซะก่อนดีกว่า) มันก็ประจวบเหมาะพอดีกับขวบปีปัจจุบัน ที่ “สิงห์บลูส์” อัดอั้นไม่ได้ซื้อตัวมาทั้งฤดูกาล จนมีค้างเหลือเฟือให้รีบระบายไปกันแบบเศรษฐีกลัวเงินบูด
เมื่อทั้งเงินเดือน และตำแหน่งงานไม่พร้อมการันตี แม้ตัวติโมจะรู้ว่าคล็อปป์จริงใจต่อผู้เล่นขนาดไหน แต่ก็คงต้องยุติบทสนทนาการร่วมงานกันเอาไว้.. อย่างน้อยก็ในเวลานี้ก่อน
ซึ่งถ้าไม่นับเรื่องเงินๆทองๆ (รายงานว่าเชลซีเซ็นให้ที่สองแสนปอนด์ต่อสัปดาห์) ที่ต้องเกี่ยวข้องในอาชีพค้าฝีแข้งแล้ว เรื่องของ “แรงจูงใจ” นั้น เชื่อเหลือเกินว่า “หล่อเลือกได้” อย่าง แวร์เนอร์ ก็ได้รับการแข่งจูงแรงบันดาลจิต มาก่อนการคิดฟันธงก้าวต่อไปของชีวิตเช่นกัน
นอกจากโอกาสที่อยากมาลิ้มลองสังเวียนนอกบ้านเกิด ว่าเป้าหมายส่วนตัวต้องเป็น ‘พรีเมียร์ลีก’ อย่างที่หนุ่มผมสีทองอำพันรายนี้เคยประกาศไว้ผ่านสื่อมาแล้วนั้น การมีเจ้า “รูดี้” อันโตนิโอ รือดิเกอร์ พี่ชายนิสัยยิ้มง่ายที่เคยร่วมชายคาอะคาเดมี่สตุ๊ตการ์ท ก็ยิ่งสร้างความอุ่นใจให้น้องติโมได้ไม่น้อย
อย่างที่ข่าวออกไปว่าเซนเตอร์ฯทีมอินทรีเหล็ก ก็เป็นหนึ่งในพ่อสื่อสำคัญของการชักชวนแวร์เนอร์ ให้ตามมาตกล่องปล่องชิ้นกับ เชลซี ในหนนี้ด้วยนั่นเอง
แต่ไม่ใช่เพียงแค่อดีตศิษย์เก่าสโมสร "ม้าขาว" ด้วยกันเท่านั้น ที่มีอิทธิพลชักจูงให้เจ้าหนุ่มพื้นเพจากเมืองดังแห่งรถเบนซ์ พร้อมเก็บข้าวของมาปักหลักในลอนดอนเป็นสถานีต่อไป ทว่ายังมีชายร่างสูงกว่า 1.95 เมตร ที่เป็นที่รู้จักอย่างดีในโลกลูกหนัง นามว่า “ปีเตอร์ เช็ก” ผู้เคยหากินในเมืองหลวงของอังกฤษมานานกว่า 15 ปี ที่มีส่วนในการสู่ขอ แวร์เนอร์ ครั้งนี้ให้ “ทีมเสี่ยหมี” ด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันอายุ 38 ปี อดีตมือกาวชาวเช็ก ทำหน้าที่ด้านที่ปรึกษาเทคนิคและพัฒนานักเตะ ให้กับทีมที่เค้าเคยครองแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกันกับ ‘แฟรงค์ แลมพาร์ด’ มาสามสมัย และช่วยกันคว้าแชมป์ความทรงจำชปล. 2012 ด้วยกัน ได้กลับมารับงานที่ “เดอะ บริดจ์” มาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019 ที่ผ่านมา หลังแขวนถุงมือกับอาร์เซน่อลไม่กี่เดือน
ปีเตอร์ เช็ก หวนสู่แสตมฟอร์ด บริดจ์ ในฐานะ ‘Technical and Performance Advisor’ เมื่อเดือนมิ.ย. 2019
หน้าที่หลักของอดีตนายด่านผู้เคยสวมเฮดเกียร์ลงเซฟจุดโทษนำโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" กลับลอนดอนมาแบบกระชากน้ำตาแฟนเสือใต้คาเมืองมิวนิคนั้น จริงๆแล้วคือการกลับมาช่วยงานดูแลทิศทางศักยภาพบรรดานักเตะดาวรุ่งของสโมสร
แต่ด้วยประสบการณ์ บารมีดีกรีลูกหนัง และความสามารถพิเศษบางอย่าง ที่ทำให้ โรมัน อบราโมวิช ไม่ลังเลที่จะจ้างลูกน้องเก่าที่คุ้นเคยคนนี้ ให้เข้ามาทำหน้าที่ใหม่ๆ เหมือนกับที่ท่านประธานเคยไว้ใจแต่งตั้งกุนซือแลมพาร์ด
หนึ่งในนั้น คือการช่วยเป็น "ฑูต" ที่เป็นมากกว่าล่ามทั่วไป ในการช่วยพี่แลมพ์ส เจรจาพาทีเกี้ยวพาราสีนักเตะเป้าหมายใหม่
ว่ากันว่าทั้ง “ปีเตอร์ และ แฟรงค์” ได้มีการบินไปหาทั้งครอบครัวของ แวร์เนอร์ ถึงเยอรมัน มาตั้งแต่ตอนกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วง “มินิเบรก” ปีแรกของลีกสูงสุดอังกฤษ และเป็นช่วงก่อนมีการ “ล็อคดาวน์” ด้วยโรคโควิดระบาดกันได้ทันพอดีเสียอีก ตามรายงานของ ‘แมตต์ ลอว์’ ยอดนักข่าวแห่งสื่อเบอร์ยักษ์อังกฤษอย่าง ‘The Telegraph’
แน่นอนว่าเมื่อไปถึงที่แล้ว คู่หูอดีตตำนานนักเตะสิงห์น้ำเงิน ที่ต่างก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ข้างสนามให้ทีมเก่านั้น คงไม่ได้ไปแค่แวะดูรถเมอร์เซเดสรุ่นใหม่ หรือหาซื้อรองเท้าแตะสตุ๊ตการ์ทมาสวมใส่อย่างแน่นอน แต่พวกเค้าได้สร้างความประทับใจ ไว้ให้กับทั้งตัวของนักเตะ, เอเยนต์ และคนรอบข้างในบ้านดาวยิงทีมชาติเยอรมันไว้อย่างมาก
ด้วยเรื่องของทั้งวิสัยทัศน์ ที่ตัวกุนซืออย่าง “แลมพ์ส” ได้แถลงไข ให้แวร์เนอร์รู้ถึงความต้องการในการสร้างทีมจิตวิญญาณแห่งชัยชนะ เน้นเกมบุกด้วยพลังกระหายแห่งวัยหนุ่ม และการแสดงความจริงใจในความต้องการตัวดาวเด่นแห่งทีมไลป์ซิก ด้วยการมาหาถึงบ้านพร้อมๆกันของสองอดีตซูเปอร์สตาร์พรีเมียร์ลีกอีกด้วย
แลมพ์ส & เช็ก อยู่ร่วมกันยาวนานบนทศวรรษแห่งความสำเร็จของเชลซี (2004-2014)
ว่ากันว่า แลมพาร์ด ได้เคยบอกให้ เช็ก ช่วยต่อสายไปพูดคุยเจรจาทาบทามศูนย์หน้าคนนี้มาแล้วตั้งแต่ช่วงก่อนตลาดนักเตะเดือนมกราคมเปิด แต่ตัวของนักเตะยังไม่อยากย้ายทิ้งทีมกระทิงแดงแห่งเมืองเบียร์ไปกลางซีซั่น
และก็เป็น “ปีเตอร์” ผู้มากความสามารถทั้งด้านดนตรี(ตีกลอง ไปหาดูลีลาการคัฟเวอร์เพลงดังได้ในยูทูปช่อง Petr Cech) และกีฬา(นอกจากโกลฟุตบอลแล้ว ยังเซ็นสัญญาลงเฝ้าเสาให้ทีมลีกฮอกกี้น้ำแข็งระดับดิวิชั่นสี่อังกฤษอยู่อีกด้วย) เป็นผู้ที่ว่ากันว่าสปีคได้มากถึงห้าภาษา (เช็ก, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, สเปน และ... เยอรมัน!!) นี้เอง ที่เป็นล่ามตลอดการเจรจา กับทั้งคุณพ่อ และเอเยนต์ส่วนตัว คาร์ลไฮน์ซ ฟอร์สเตอร์ ของแวร์เนอร์ได้จนราบรื่น เนื่องด้วยทั้งสองคนนั้น ไม่สามารถสื่อสารภาษาปะกิตได้นั่นเอง
การแสดงความมุ่งมั่นล่าตัวมาอย่างยาวนานกว่าครึ่งปี บวกกับฝีปากและชื่อเสียงฝีเท้าในอดีตของแลมพ์ส ผ่านล่ามเช็ก และจังหวะดวงอันประจวบเหมาะดังกล่าวที่ทันบินไปคุยก่อนมีการล็อคดาวน์นี้เอง ซึ่งถือว่ามีเปรียบเหนือหงส์แดง หรือทีมอื่นๆนอกเยอรมัน ที่ไม่มีโอกาสจะได้พรีเซนต์ให้คนสำคัญรอบข้างติโมฟังต่อหน้าในช่วงเวลาห้ามบินระหว่างประเทศ (คุยผ่านโปรแกรมออนไลน์ก็คงไม่ได้ฟีลลิ่งเท่า) ที่น่าจะเป็นอีกปัจจัยในปฏิบัติการแซงโค้งปาดหน้าคู่แข่ง ซิวหัวหอกเมืองเบียร์ เจ้าของค่าฉีกสัญญา 53 ล้านปอนด์มาครองได้สำเร็จ
ดีลล่าสุดนี้พร้อมแก้ปัญหา “แทมมี่ (อับราฮัม) เดอะ แบก” ในแดนหน้าเชลซี และเป็นการคว้าจิ๊กซอว์อีกชิ้นสำคัญในการสร้างแผงรุก ต่อจาก ‘ฮาคิม ซีเยค’ (37 ล้านปอนด์ จากอาแย็กซ์) ที่ตัวพี่โย่งเช็กเอง ก็มีส่วนร่วมในการประชุมพูดคุยกับเอเยนต์ปีกโมร็อกโกทุกครั้งด้วยเช่นกัน
“เราได้พูดคุยกันเยอะมากๆ ทั้งเกี่ยวกับสไตล์การเล่น, อนาคตสโมสร และอนาคตส่วนตัวของผมในทีม” ซีเยค ได้เคยพูดถึงวิธีการเข้าหาของ แลมพาร์ด และทีมงานเจรจาเกลี้ยกล่อม “หลังจากนั้นเราก็ยังได้แชตกันต่ออีกเยอะเลยทีเดียว”
ฮาคีม ซีเยค (ขวา) วัย 27 ปี เตรียมมาโลดแล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้าเป็นครั้งแรก
ความอ่อนน้อมถ่อมตนของสองดาราลูกหนังรุ่นพี่ทั้งสองในวงการ และบุคลิกเรียบง่ายแต่ไหนแต่ไรดูไม่เว่อร์วัง เป็นอีกเหตุผลที่ทั้ง ซีเยค และ แวร์เนอร์ ยอมยกใจให้คู่บุคลากรหนุ่มไฟแรงแห่งแสตมฟอร์ด บริดจ์ จนตอบตกลงพร้อมตามรอยมาสวมยูนิฟอร์มตรา “สิงโตน้ำเงินคราม” ในที่สุด
เรื่องนี้อาจไม่จบแบบเรียบร้อยโรงเรียนแลมพาร์ด หากไม่มี เช็ก มาช่วยงาน การช่วยกันเดินหน้าปิดดีลรวบสองตัวความหวังใหม่ในแดนหน้าได้ด้วยราคารวม 90 ล้านปอนด์ ถือเป็นการแสดงผลงาน “ดับเบิ้ลทีม” คู่ซี้ผู้บริหารสิงห์น้ำเงินยุคใหม่ ได้เป็นอย่างดี
และสิ่งที่ต้องจ่ายอาจนั้นถือว่าไม่แพงเลย สำหรับการได้ขุมกำลังระดับ “ตัวจริง” ใช้งานได้ทันทีของทีมที่มีทุนเงินถัง นอกจากนั้นยังเป็นการแย่งคู่แข่งร่วมลีกไม่ให้ได้ตัวเป้าหมายที่เล็งไว้ได้อีกมุมหนึ่งด้วย
เป็นการเข้าสู่ศักราชใหม่หลังผลัดใบของทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกห้าสมัย ในการสร้างสโมสร “ยังบลัด” ให้พร้อมกลับมาทวงความสำเร็จอีกครั้ง แหวกเมฆดำที่ก่อตัวขึ้นในช่วงตลาดหน้าหนาวอันเงียบเหงาน่าลบเลือน สู่ซัมเมอร์สดใสเหนือน่านฟ้า “เดอะ บริดจ์” สำหรับแฟนๆสิงห์บลูส์ และอาจเป็นเรื่องสยองของกลุ่มคู่แข่งลุ้นแชมป์ทีมอื่นๆก็เป็นได้
#TGTC
facebook : ถม กอล์ฟ ท็อป ชิต
บันทึก
8
1
8
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย