6 มิ.ย. 2020 เวลา 13:16 • ความคิดเห็น
พัฒนาทรัพยากรมนุษย์จีน
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
29 กรกฎาคม 2553 รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศ ‘หลักการแผนปฏิรูปและพัฒนาการศึกษาในระยะกลางและระยะยาว ค.ศ. 2010-2020 (พ.ศ.2553-2563) มุ่งพัฒนาสังคมจีนให้เป็นสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ประชาชนจะต้องได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค ยกระดับการศึกษาให้ได้มาตรฐานสากล และพัฒนาระบบโรงเรียนชั้นประถม มัธยม และมหาวิทยาลัยที่ทันสมัย
โดยมีเป้าหมายชัดเจนว่า เมื่อถึง ค.ศ. 2020 จีนจะเป็นประเทศแถวหน้าที่ยิ่งใหญ่ด้านทรัพยากรมนุษย์
ค.ศ. 2010 หรือ พ.ศ. 2553 เป็นปีที่จีนขยับสถานะเศรษฐกิจของประเทศแซงญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของโลก ขณะที่เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง มนุษย์คือทรัพยากรสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน การศึกษาเป็นนโยบายที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญ รัฐบาลจีนจึงทุ่มทั้งเม็ดเงินมากมายมหาศาลในการพัฒนาและปฏิรูปการศึกษา
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของเอเชียโดย Times Higher Education หรือ THE ค.ศ. 2020 ซึ่งเป็นปีแรกที่มหาวิทยาลัยของจีนครองถึง 2 อันดับแรก คือ มหาวิทยาลัยชิงหัวเป็นอันดับ 1 และมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่มาแรงแซงมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ขึ้นมาเป็นอันดับ 2
ส่วนมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติจีน อยู่อันดับที่ 10 ร่วมกับมหาวิทยาลัยซองคยูนกวานของเกาหลีใต้ และใน 50 อันดับแรก มีมหาวิทยาลัยของจีนแผ่นดินใหญ่มากถึง 13 แห่ง
https://tutorasap.es/tsinghua-university/
ท็อปเท็นของเอเชียที่เพิ่งประกาศไปมีลำดับดังนี้ 1.มหาวิทยาลัยชิงหัว จีน 2. มหาวิทยาลัยปักกิ่ง 3. มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ 4. มหาวิทยาลัยฮ่องกง 5. มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งฮ่องกง 6. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง สิงคโปร์ 7. มหาวิทยาลัยโตเกียว 8. มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง 9. มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล และ 10. มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติจีน ร่วมกับมหาวิทยาลัยซองคยูนกวาน เกาหลีใต้
การวางรากฐานด้านการศึกษา รัฐบาลจีนทำอย่างเป็นระบบและอย่างมีเป้าหมายชัดเจน ค.ศ.2019 คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะรัฐมนตรีจีน ได้ตีพิมพ์เอกสาร ‘การสร้างความสมัยด้านการศึกษาของจีน 2035 (พ.ศ.2578)’
เอกสารนี้นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับ 8 แนวทางในการสร้างความทันสมัยด้านการศึกษาของประเทศ เช่น การเชิดชูคุณธรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์รอบด้าน การเข้าถึงการศึกษาถัวนหน้า การเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนการสอนแบบตรงจุด ฯลฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาแห่งชาติของจีน
ดูจากผลงานด้านการศึกษาของรัฐบาลจีนแล้ว ผมคิดว่าก้าวหน้าและเป็นสากลมากขึ้น ภาพรวมของแรงงานจีนที่ผมสัมผัสเป็นคนที่มีการศึกษาดี สามารถพูดภาษาที่สองและสามได้ รวมทั้งใช้เทคโนโลยีต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ทั้งในครอบครัว ในสถาบันการศึกษา จนถึงในองค์กรหรือหน่วยงาน ห้างร้านต่างๆ
รัฐบาลจีนที่นำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ต้องการพัฒนาจีนให้เป็นประเทศชั้นนำด้านการพัฒนาเอไอหรือปัญญาประดิษฐ์ ผสมผสานกับทักษะด้านการบริหารการเงินและการลงทุน ทุกอย่างพัฒนาควบคู่กันไปอย่างเป็นเอกภาพ
http://www.xinhuanet.com/english/2019-09/30/c_138437362.htm
นายสีทำให้จีนกลายเป็นประเทศผู้นำของเอเชียในการให้ความสำคัญของเศรษฐกิจความรู้ ให้ความสำคัญในการสนับสนุนงบประมาณของมหาวิทยาลัย ทุ่มเม็ดเงินจำนวนมหาศาลในการปฏิรูปและสนับสนุนทางวิชาการเพื่อให้นักวิจัยของจีนผลิตผลงานได้อย่างมีคุณภาพระดับโลก
อันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชียเป็นผลงานหนึ่งของนโยบายของจีนที่เน้นหนักด้านการศึกษา ติดอาวุธด้านการทำมาหากินให้คนจีนรุ่นใหม่มีความคิดสร้างสรรค์ หัวการค้า พร้อมลงสนามแข่งขันตลอดเวลา
นี่คือส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้จีนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และจากวันนั้น ถึงวันนี้ 10 ปี พิสูจน์แล้วว่า จีนคือประเทศแถวหน้าที่ยิ่งใหญ่ด้านทรัพยากรมนุษย์
บริษัทของผมมีพนักงานชาวจีนกว่า 50 คน ขอเรียนด้วยประสบการณ์และความรู้สึกว่า ถ้าเป็นงานด้านการบริการ คนจีน (ที่บริษัทฯ) ยังทำงานได้อย่างมีคุณภาพน้อยกว่าคนไทยโดยทั่วไป
แต่ถ้าเป็นด้านธุรกิจ ด้านการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม บัณฑิตจีนกระโจนทำงานกันอย่างทุ่มเทและได้ผลงานที่ดีอย่างที่เราคาดไม่ถึง
ขอแสดงความยินดีกับการศึกษาของสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วยครับ.
โฆษณา