Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่อง(อยาก)เล่า
•
ติดตาม
7 มิ.ย. 2020 เวลา 03:14 • บันเทิง
ฝ่านาทีวิกฤต DD8004 !!!
กรุงเทพฯ - แพร่
คุณเคย ตกรถ ตกเครื่องบินไหม ???
หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่บอกว่า
ถ้าอยากรู้ว่าเวลา 1 นาทีมีค่าขนาดไหน ให้ไปถามคนที่พลาดรถไฟ รถประจำทางหรือ เครื่องบิน
ถ้าอยากรู้ว่าเวลา 1 วินาทีมีค่าขนาดไหน ให้ไปถามคนที่รอดตายจากอุบัติเหตุอย่างหวุดหวิด
ถ้าอยากรู้ว่าเวลา เสี้ยวหนึ่งของวินาทีมีค่าขนาดไหน ให้ถามนักกีฬาโอลิมปิคผู้ได้เหรียญเงิน
วันนี้เวลาเรียกขึ้นเครื่องผมคือ 13.45 น.
ด้วยกระบวนการอบรมติดพัน 12.50 น. จึงได้ทานมื้อเที่ยงแบบรีบ ๆ
13.10 น. ผมเดินจากโรงแรมอมารีที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสนามบินดอนเมือง
ใช้เวลา 5 นาที จึงถึงช่องผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ
ผมส่งยิ้มพร้อมส่งโทรศัพท์และบัตรประชาชนให้พนักงานตรวจ Boarding Pass ที่เช็คอินทางแอพไว้ก่อนแล้ว
เดินวนในช่องทางก่อนถึงจุดสแกนสัมภาระอีก 5 นาที
ถอดเข็มขัด แยกโน๊ตบุ๊ค กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ บัตรประชาชน ใส่ตระกร้า วางเป้บนสายพาน X-ray
เดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ รับตระกร้ามาวางบนโต๊ะ ใส่เข็มขัดและเก็บของทุกอย่างเข้าที่เดิม
เหลือบดูนาฬิกา 13.25 น.รู้สึกอุ่นใจว่าทำเวลาได้ดี
คำนวณว่าเข้าห้องน้ำและเดินไปถึงเกทภายใน 5 นาที
ขณะกำลังจะก้าวเดิน ผมล้วงมือลงในกระเป๋าเสื้อกันหนาว
ต้องสะดุ้งโหย!!! เมื่อรู้ว่ามีคีย์การ์ดของโรงแรมติดมาด้วย
เพราะความรีบร้อนแท้ ๆ จึงไม่ได้ให้คีย์การ์ดกับเพื่อนร่วมห้องที่จะพักต่ออีกหนึ่งคืน
นาฬิกาบอกว่ามีเวลาอีก 20 นาที ก่อนที่จะถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่อง
สมองส่วนคิดประมวลผลการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทันที
ทางเลือกผมคือ โทรแจ้งผู้จัดงานว่าลืมคืนคีย์การ์ด ซึ่งอาจเสียค่าปรับ
หรือ โทรให้เพื่อนข้ามมารับคีย์การ์ดที่สนามบิน
แล้วผมก็เลือกเดินออกช่องสุดท้ายของจุด x-ray ไปสู่ห้องโถงด้านนอก มุ่งไปที่เค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์
ขอฝากคีย์การ์ดไว้โดยบอกว่าเดี๋ยวจะมีเพื่อนมารับ พนักงานสาวไม่ยอมรับฝาก
เพราะทางสนามบินไม่มีนโยบายในเรื่องนี้
“น้องครับ ไม่เกิน 5 นาทีนี้เพื่อนพี่จะมาเอา พี่ขอวางการ์ดไว้ข้างแจกันดอกไม้นี้นะ ถ้ามันหายน้องไม่ต้องรับผิดชอบ แค่ช่วยมองมันบ้างล่ะกัน ขอบคุณครับ”
ผมพูดแค่นั้นก็รีบเดินกลับไป ณ จุดเริ่มต้น
โดยไม่ลืมถ่ายรูปเค้าเตอร์ส่งทางไลน์ และโทรให้เพื่อนมารับคีย์การ์ด
ปฏิบัติทุกขั้นตอนเหมือนเดิม
ส่งยิ้มและส่งโทรศัพท์และบัตรประชาชนให้พนักงานตรวจ Boarding Pass
เมื่อผ่านจุด X-ray รีบซอยเท้าถี่ เร็วจี่ หน้าตั้ง ไปเกรท 87
13.43 น. จึงได้นั่งหอบ หายใจระทวยด้วยความเหนื่อย
รู้สึกดีใจที่มาทันเวลา ผู้โดยสารที่นั่งรอดูบางตา เจ้าหน้าที่มีการเคลื่อนไหวเตรียมเรียกผู้โดยสารขึ้นรถบัสไปเพื่อไปส่งยังเครื่อง
ผมล้วงมือลงในกระเป๋า ควานหาบัตรประชาชนแต่สองตาต้องเบิกโพลงเพราะมันว่างเปล่า !!!!!!
นาทีนั้นสมองกรอภาพถอยหลังย้อนกับไป ณ จุด x-ray เห็นภาพตัวเองวางบัตรประชาชนพร้อมมือถือ
ไว้ในตระกร้า แต่ทว่าตอนหยิบทุกอย่างคืนที่เดิมดันลืมบัตร
จังหวะเดียวกันนั้นเสียงประกาศก็ดังผ่านลำโพงตรงเพดาน
“ผู้โดยสารที่ใช้ชื่อว่า คุณเชิดพงษ์ แก้วเอย กรุณาติดต่อที่เค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์ หลังจุด x –ray ด้วยค่ะ”
คนประกาศเรียกนามสกุลผมผิด แต่ถูกเวลามากๆ ผมรู้ได้ทันทีว่าเขาต้องการให้ผมไปรับบัตรประชาชนคืน
ถือว่าเป็นช่วงเวลาการตัดสินใจที่สำคัญสุด ๆ จะวิ่งไปรับบัตรคืน ซึ่งพอจะทันแต่อาจเสี่ยงตกเครื่อง
หรือทิ้งไว้ก่อนวันหน้าค่อยมาติดต่อรับ
ภาวะที่สมองส่วนควบคุมการตัดสินใจทำงานหนัก
พลันสายตาซ่อนแววกังวลของผมก็ได้ประสานกับรอยยิ้มกว้าง บนใบหน้าสวยคมเหมือนเคยได้เห็นที่ไหนมาก่อน
“พี่จำน้องได้ไหม เราเคยเจอกันตอนที่พี่มาอบรมที่บ้านแม่คำมี”เธอเอ่ยคำทักทาย
ภาพจำในอดีตผมชัดเจนทันทีว่า เธอเป็นคุณครูประถม พาเด็กมาอบรมเรื่องเพศศึกษาที่ จ.แพร่
เหมือนมีนางฟ้ามาเป็นตัวช่วย ผมจึงฝากเป้เดินทางไว้กับเธอ บอกเหตุผลสั้น ๆ
ว่า”พี่ต้องรีบไปรับบัตรประชาชนคืน จะรีบไปกลับไม่เกิน 5 นาที หากพนักงานเรียกขึ้นรถบัสน้องช่วยบอกให้เขารอพี่ด้วย”
ภารกิจวิ่ง 400 เมตรชายจึงเริ่มขึ้น
เมื่อถึงเค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์ พนักงานเห็นหน้าผมมีเม็ดเหงื่อเล็ก ๆ ผุดขึ้นเต็มหน้าผากกว้างกับลมหายใจถี่ด้วยความหอบเหนื่อย
ผมยังไม่ทันบอกเหตุและเธอก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรแต่ยื่นบัตรประชาชนให้ผมทันที
วิ่ง และ ก็วิ่ง กลับไปที่เกท เมื่อวิ่งลงถึงบันไดขึ้นขั้นสุดท้ายผมมองไปที่เกท 87 เห็นคุณครูชะเง้อมองมาอยู่แล้ว
และแล้วเราก็ได้เป็นสองคนสุดท้ายที่ได้ไปยืนเบียดกับผู้โดยสารคนอื่น ๆ บนรถแอร์บัสเพื่อนำไปขึ้นเครื่องบิน
“ถ้าพี่มาช้าอีก 1 นาที พนักงานเขาคงไม่รอ” คุณครูบอกผมพร้อมรอยยิ้มยินดีคลี่กระจายเต็มใบหน้า
วันนี้ผมใช้เวลาอยู่ในห้องประชุม 3 ชั่วโมง 50 นาที
ทานมื้อเที่ยง 10 นาที
เดินจากโรงแรมมาสนามบิน 5 นาที
เข้าออกในห้องโถงสนามบิน 30 นาที
วิ่ง 400 เมตร 4 นาที
เมื่อผมก้าวขึ้นไปบนรถแอร์บัส เห็นสีหน้าและแววตาที่มองมาของเพื่อนผู้ลงเรือบินลำเดียวกัน
รู้ซึ้งเลย 1 นาทีนี้มีค่าเพียงใด
7 มิ.ย 63
บันทึก
4
2
4
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย