10 มิ.ย. 2020 เวลา 07:18 • ประวัติศาสตร์
Section 2: การปฎิวัติเกษตรกรรม(The Agriculture Revolution)
Chapter 1: เรื่องหลอกลวงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
(History's Biggest Fraud)
สวัสดีครับ ห่างหายไปนานกันหนังสือSapiens ครั้งนี้มาต่อกันที่section2
Noah(ผู้เขียน)ได้เล่าให้ฟังในส่วนนี้ถึงข้อดีและข้อเสียที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ที่เกิดโดยตรงหลังจากที่บรรพบุรุษเรานั้นเลือกที่จะทิ้งอาชีพนายพรานป่า
เพื่อที่จะหาหนทางต่อสู้กับความอดอยาก
จึงนำไปสู่การเริ่มต้นของยุคเกษตรกรรมประมาณ 9,500ปีก่อนคริสตกาล ในบริเวณแถบตะวันออกกลาง ซึ่งปัจจุบันก็บริเวณเลบานอน ซีเรีย และอิสราเอล
คาโบไฮเดรตเป็นพลังงานหลักกับร่างกายของมนุษย์ พืชส่วนใหญ่ที่เรารับประทานกันทั่วทุกมุมโลกใบนี้ก็คือ ข้าวสาลี ข้าว ข้าวโพด มันฝรั่ง ข้าวฟ่าง และข้าวบาเล่ห์ ซึ่งพืชเหล่านี้ในยุคก่อนเปรียบเสมือนเป็นหญ้า พืช ธรรมดาที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร
ทางฝั่งของประเทศจีนในช่วงแรกก็ปลูกข้าว ข้าวฟ่างและเลี้ยงหมู ส่วนทางอเมริกาเหนือก็หันมาปลูกฟักทองเพราะว่าลักษณะของดินนั้นไม่เหมาะสมกับการปลูกพืชหรือฟัก
ในขณะที่ทั่วทุกมุมโลกกำลังเพาะปลูกเกษตรกรรมกันแต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในที่ออสเตรเลีย อลาสก้าและแอฟริกาใต้ เหตุผลอาจจะมาจากสภาพอากาศที่ไม่เหมาะแก่การเจริญเติบโตและจะเติบโตในพื้นที่เฉพาะเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น เห็ดทรัฟเฟิลที่เป็นเห็ดชนิดหนึ่งในกลุ่มฟังไจ(ฟังไจคือ อาณาจักรของสิ่งมีชีวิต ที่ไม่ใช่พืชและไม่ใช่สัตว์) ซึ่งในปัจจุบันคือเห็ดราคาแพงที่สุดในโลกซึ่งเป็นที่นิยมในการปรุงอาหารของชาวฝรั่งเศส แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการส่งออกไปยังร้านอาหารดังทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย
การที่จะบอกได้ว่าได้เข้าสู่ยุคสมัยใหม่นั้นคือการปฎิวัติเกษตรกรรมช่วยให้มีความสะดวกสบายมีอาหารเพียงพอต่อการบริโภคที่มากขึ้น แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตเกษตรกรที่ยากลำบากขึ้นมากกว่าพรานป่าซะงั้น
คลังอาหารที่มากขึ้นนั้นกลับส่งผลตรงกันข้ามกับเวลาและการกินดีอยู่ดีของมนุษย์บางกลุ่มเพราะว่าอาหารเหล่านี้ได้ถูกนำไปปรนบัติกับชนชั้นสูง
ชีวิตของเกษตรกรนั้นได้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าและทำงานหนักกว่าพวกพรานป่าที่ใช้ชีวิตไปกับการผจญภัยและมีภูมิคุ้มกันโรคที่ดีกว่า
"การปฎิวัติเกษตรกรรมจึงเป็นที่มาของการหลอกลวงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์" Noah กล่าวไว้
Noah ก็ยังได้เล่าอีกว่า"สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของมนุษ์"แต่เป็นความผิดของเหล่าพันธุ์พืชต่างหากหละที่จะต้องออกมารับผิดชอบเพราะเมื่อ10,000ปีก่อนพื้นที่บริเวณแถบอเมริกาเหนือยังไม่มีต้นข้าวสาลีเลย แต่พันกว่าปีมานี้กลับมีให้เห็นตลอดทางกว่าร้อยกิโลเมตร
แต่รู้ไหมว่าร่างกายของมนุษย์นั้นถูกวิวัฒนากรมาเพื่อปีนต้นไม้ ไม่ได้วิวัฒนาการมาเพื่อยกก้อนหินหรือใช้กระดูกสันหลังไปกับการปลูกพืช ผลการชันสูตรศพคนโบราณทำให้ค้นพบโรคที่เกิดจากการปฎิวัติครั้งนี้ เช่น โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โรคข้ออักเสบ ซึ่งโรคเหล่านี้ก็ยังมีให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
เท่านั้นยังไม่พอการทำเกษตรกรรมเหล่านี้ยังส่งผลต่อการทะเลาะวิวาทในสังคมยุคก่อนมากกว่า 50% ในเอกวาดอร์เสียชีวิตจากการฆ่ากัน เนื่องจากการแย่งที่ดินกันและล้ำเส้นแบ่งเขต
เนื่องจากที่กล่าวมาเราใช้แนวคิดแบบปัจจุบันในการตัดสินประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นหลายพันปีจึงเข้าใจไปว่าการปฎิวัติเกษตรกรรมนั้นทำให้มีการปรับปรุงชีวิตความเป็นอยูทีดี่ขึ้นแต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่กับทุกคน
ขอบคุณครับ
#Sapiens
#Blockdit
#อ่านหนังกันไหม
โฆษณา