7 มิ.ย. 2020 เวลา 10:27
ต่อจากตอนที่แล้ว...
ผมขอแบ่งปันเรื่องราวของผมสักนิดนะครับ พื้นเพผมเป็นคนชนเผ่า อาศัยอยู่ตามเขาตามดอย พ่อแม่ของผมไม่ได้เรียนในโรงเรียน เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียนในหมู่บ้านของผม ด้วยเหตุนี้ท่านทั้งสองเลยไม่สามารถจะอ่านหรือเขียนหนังสือได้ สำหรับท่านทั้งสองแล้ว ท่านไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาด้านวิชาการแต่ในเรื่องคุณธรรมและจิตวิญญาณแล้วท่านได้รับอย่างเต็มเปี่ยม...
พ่อแม่ของผมพร่ำสอนผมเสมอให้ตั้งใจเรียน ให้มีความอดทนและที่สำคัญท่านย้ำเตือนให้ลูกๆทุกคนมีความสุภาพถอมตนเสมอ เมื่อผมเรียนจบจากโรงเรียนในหมู่บ้าน ผมก็มีโอกาสไปเรียนต่อในเมือง
.....ทุกครั้งที่ผมกลับไปเยี่ยมบ้าน ผมชอบเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ผมฟังเกี่ยวกับชีวิตในเมือง
…จากเด็กดอยที่คุ้นเคยกับต้นไม้ป่าไม้...ต้องมาอาศัยในเมืองที่รายล้อมด้วยตึก
ในหมู่บ้านบนดอยน้อยครั้งจะเห็นรถวิ่งผ่าน แต่ในเมืองมีรถวิ่งแล่นแทบจะไม่มีทางเดิน…
ผู้คนในหมู่บ้าน มักจะมีเรื่องเล่าถามไถ่ทุกข์สุข แต่ในเมืองผู้คนกลับระแวง ระวังคนเดินผ่าน อาหารการกินเราก็จะแบ่งปันให้แก่กันและกัน...
บอกได้เลยว่าเวลากลับบ้านญาติๆ เพื่อนบ้านก็จะเรียกให้มาทานข้าวด้วยกันเสมอ และพวกเขาจะมาหาผมทุกครั้งที่ผมกลับบ้าน มาพูดคุย ถามไถ่สารพัดเรื่องราว ผมเป็นฝ่ายเล่า เขาก็จะเป็นผู้ฟัง แล้วจบลงด้วยการทานอาหารร่วมกัน ชีวิตในเมืองทุกอย่างต้องซื้อ หากไม่มีเงินก็ต้องอด...
คุณพ่อคุณแม่ฟังผมอย่างตั้งใจ แล้วตามด้วยคำสอนอันแสนธรรมดาแต่มีค่าสำหรับจิตใจ
...อย่ากลัวสิ่งใหม่ๆ อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง…
ทุกๆการเปลี่ยนแปลงย่อมเรียกร้องให้การปรับตัวเสมอ...
พึ่งย้ายปลูกใหม่ๆ เลย รอดูมันออกดอก...
ดังเช่นกับต้นไม้… เมื่อถึงฤดูกาลที่มันต้องผลัดใบเก่าเพื่อให้ใบใหม่ที่เขียวสดได้งอกขึ้นมาแทน
ใบก็จะแห้งและหลุดออกก่อน...ทั้งนี้ธรรมชาติได้สอนเราในเรื่องของการปรับตัว ปรับตามความเป็นอยู่ สังคมและวัฒนธรรมเพื่อรักษาความเป็นตัวตนที่แท้จริง...
(https://beautifulaltona.com.au/a-special-rose-tree-in-altona/)
ตอนนี้ผมอยู่ห่างไกลบ้านเป็นหมื่นๆๆ กิโล...แต่คุณพ่อคุณแม่ก็จะบอกเสมอ
อย่ากังวลกับสิ่งใหม่ๆ ที่ต้องเผชิญ" นั่นเป็นวิถีธรรมชาติของโลก
แล้วพบกันใหม่ตอนต่อไป...
เรื่องเล่าจากเด็กดอย...
โฆษณา