7 มิ.ย. 2020 เวลา 14:02 • เกม
รีวิวเกมเปี่ยมความประณีต จากฝีมือผู้พัฒนาไทย ~Timelie~
Time waits for no one
Sneak, solve, and escape…together.
จบแล้ว! เวลาเล่นรอบแรกน่าจะราวเจ็ดชั่วโมงค่ะ ดูเผินๆอาจจะสั้น แต่เป็นเจ็ดชั่วโมงที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและสร้างสรรค์ ตอนท้ายท้าทายจนทำเอาหัวอุ่น 😂
ตั้งแต่ต้นจนจบ สัมผัสได้ว่าทีมงานมีโฟกัสที่ชัดเจน และวางขอบเขตที่จะทำได้เหมาะสม แม้จะเป็นเกมจากสตูดิโอเล็กๆ แต่ก็ผ่านการขัดเกลามาอย่างประณีตตั้งแต่ระบบเกมไปกระทั่ง UX/UI จนลืมไปเลยว่าเป็นเกมอินดี้
แนะนำตัวเกมคร่าวๆ ‘ Timelie ’ เป็นเกมพัซเซิล เราจะต้องช่วยตัวเอกและแมวน้อยในการหลบหนีออกจากมิติลึกลับโดยไม่ให้หุ่นยนต์จับตัวได้ กิมมิคสำคัญของเกมคือตัวเอกมีพลังในการควบคุมเวลา ที่จะได้ใช้ย้อนไปแก้ไขเหตุการณ์เพื่อคลายปริศนาในแต่ละด่าน
ปรกติเราไม่ได้เล่นเกมพัซเซิลมากนัก ถ้าจะเล่นก็เพราะอาร์ตสวยๆ การกำกับศิลป์ดีๆ และเพลงประกอบเพราะๆ แต่สุดท้ายก็มักจะเล่นไม่จบเพราะเบื่อบ้าง ยากไปบ้าง หรือขาดแรงจูงใจที่จะเล่นต่อ
สำหรับ Timelie นั้น มีเอกลักษณ์ทั้งด้านงานภาพและเสียงที่โดดเด่น เป็นฉากหน้าที่ดึงดูดให้เข้ามาลองเล่นลองสัมผัส แต่จุดสำคัญที่ตรึงคนเล่นไว้กับที่ไม่ปิดเกมหนีไปไหน ก็คงเป็นเพราะความน่าติดตามของเนื้อหา และการออกแบบปริศนาในแต่ละด่านที่มีลูกล่อลูกชนพอเหมาะพอดี
จะบอกว่ายากก็ยากแหล่ะ กว่าจะจบก็โดนหุ่นตีกบาลซะหัวโนน่วมไปเลย แต่ในความยากนั้นมีความสนุกอยู่ด้วย จากระบบพื้นฐานที่ใช้เวลาเรียนรู้แค่ไม่เกินห้านาที กลับเปิดประตูความเป็นไปได้ของปริศนาที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง
ปริศนาในแต่ละด่านมีการทิ้งเชื้อบอกใบ้ให้เห็นทางออกรำไร แต่หนทางที่ถูกต้องก็ซ่อนไว้อย่างท้าทายไม่ตื้นเขิน ทุกฉากทุกตอนมีมิติความซับซ้อนในแบบของตัวเอง มีลูกเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของมัน แต่ทุกอันก็มีรากฐานจากระบบการเล่นที่เรียบง่ายอันเดียวกัน ไม่มีนอกกฏ ไม่มีข้อยกเว้น
ฟันเฟือนการคิดในหัวสมองจึงได้หมุนดุกดิกๆทุกวินาที อารมณ์การเล่นในแต่ละด่านไล่เรียงตั้งแต่
‘โธ่ ตรงนี้ง่ายๆ ก็วิ่งไปจุดนี้แล้วก็โป๊ะเชะ’
‘อ่าว ไม่ได้เรอะ เอาใหม่ๆ’
‘ติดไอ้ตัวนี้...งี้มันจะไปได้ไงฟะ’
‘เดี๋ยวๆ ทำแบบนี้เหมือนจะได้’
พอเรียนรู้ความน่าเป็นทั้งหมดและรังสรรค์ทางออกที่เรียบง่ายได้สำเร็จ ก็จะรู้สึกว่า ‘โอ๊ย ทำไมแค่นี้คิดซะนาน’ แต่เวลาในการเรียนรู้ที่ใช้ไปก็ไม่ได้สูญเปล่า เพิ่มพูนมาเป็นประสบการณ์ในการรับมือกับด่านต่อๆไป เข้าทำนองตัวละครไม่ได้เลเวลอัพ แต่เป็นคนเล่นเองที่เลเวลอัพ
พอถึงช่วงท้ายเกม ทุกลูกเล่นที่เรียนรู้มา ทั้งพฤติกรรมของหุ่นยนต์ การสลับบังคับตัวแมวกับคน ข้อได้เปรียบที่ต่างกันของสองตัวละคร ไปจนถึงการอาศัยอุปสรรคให้เป็นประโยชน์ ทุกทรัพยากรที่มีได้งัดออกมาใช้ทั้งหมด เมื่อจบเกม เลยได้รู้สึกว่าจบด้วยฝีมือจริงๆ
เป็นเสน่ห์ของเกมพัซเซิลที่เกมนี้จับจุดได้แม่นยำ และนำมาสอดประสานเข้ากับธีมของเกมและเนื้อเรื่องได้อย่างกลมกลืน ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเกมเพลย์และเนื้อหานี่เอง เป็นจุดที่ประทับใจที่สุดของเกมนี้
จุดที่ถ้าหากอยากจะให้ติ ก็มีแต่พวก nitpicking อย่างการใช้ภาษาไทยที่อ่านแล้วแปลกๆไม่เป็นธรรมชาติ กับการสลับบังคับตัวละครที่ช่วงแรกจะงงว่าเล่นตัวไหนอยู่เพราะ indicator ไม่ชัด (เส้นวิ่งแมวกับคนน่าจะคนละสี) แต่ก็ไม่ใช่สาระเท่าไหร่ เพราะจุดสำคัญก็ทำได้ดีแล้ว
สำหรับเกมแรกจาก Urnique Studio ตอนแรกคิดว่าอยากรีวิวเพราะเป็นเกมจากทีมงานไทย แต่เล่นจบแล้วขอชื่นชมจากใจ และมาเล่าด้วยความประทับใจในตัวเกมจริงๆ
เอาใจช่วยให้ประสบความสำเร็จในแง่ยอดขาย เพราะในแง่ของคุณภาพเกม ทีมงานพิสูจน์ตัวเองได้มากเกินพอแล้วค่ะ
ป.ล. ตอนด่านสลายแบบไทม์ฟอลครั้งแรกแอบช็อค ลืมแมวไว้ โดนธานอสดีดเป็นฝุ่น ฟริ้ววว ...โหดสึส
ป.ล. 2 ด่านที่ติดนานสุดในเกม 😱 ...ด่านขนนก (ตอนแรกนึกว่าใบกล้วย) มีความหลอกให้อยากแล้วก็แห้ว เหมือนจะผ่านแต่ไม่ผ่าน ไอ้นี่รอดไอ้นั่นติด ถ้าเปรียบเป็นเกมบู๊ นี่มันศักดิ์ศรีบอสใหญ่มีเพลงประกอบคอรัสภาษาละตินชัดๆ ตอนที่ผ่านนี่ ยูเรก้าาา
#Timelie #UrniqueStudio
โฆษณา