11 มิ.ย. 2020 เวลา 23:44 • การศึกษา
DATA (ไม่) พาเพลิน #16 : "Welcome to Dark Side " - เหยียด 2 -
DATA (ไม่) พาเพลิน #16 : "Welcome to Dark Side " - เหยียด 2 -
ต่อเนื่องจากบทความที่แล้ว
(ขออนุญาตแปะลิ้งค์ไว้นะครับ)
โพสต์นี้...
ผมขอเริ่มที่ "รูปแบบ"
...ใช่ครับ รูปแบบของการ"เหยียด"
จริงๆเท่าที่ผมสืบค้น
มันมีหลากหลายรูปแบบอยู่พอสมควร
แต่อันที่ผมเลือกมานี้
น่าจะอธิบายได้เห็นภาพมากที่สุด
มันคือ "Racism Pyramid"
(1)
(1)
"พีระมิด"นี้ประกอบด้วย...
- BIAS
สร้างรากฐานด้วย ความลำเอียง
หรือเอนเอียง เริ่มสะสมเชื้อเพลิง
แห่งความเกลียดชัง กันด้วย...
...เรื่องตลก, เรื่อง joke
- PREJUDICE
การเอนเอียง
กลายร่างเป็น อคติซึ่งกันและกัน
มีการใส่ร้ายป้ายสีกัน, ประชดประชัน, มีการตั้งฉายาเรียก
- DISCRIMINATION
อคติ ส่งผลให้เกิดวิธีการเลือกปฎิบัติ และการแบ่งแยกที่ชัดเจน และผลที่ตามาคือ การเหลื่อมล้ำ, การถูกล่วงละเมิด, การถูกกีดกัน
- VIOLENCE
เมื่ออีกฝั่งถูกเลือกปฏิบัติแล้ว ความรุนแรงก็ปะทุขึ้น!!!
- GENOCIDE
เป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดคือ...
การฆ่าล้างชนชาติ(อย่างเป็นระบบ)
และรูปพีระมิดนี้
สามารถอธิบายเหตุการณ์ในอเมริกา
ได้อย่างชัดเจนที่สุด
คุณจะเห็นวงกลมสีแดง
ที่เขียนว่า"HATE"อยู่ตรงกับ
"DISCRIMINATION"
เมื่อมีการเลือกปฎิบัติ
ความเกลียดชังก็ก่อกำเนิดขึ้น
และก็ตามมาด้วย"การใช้ความรุนแรง"
1
สังคมอเมริกา
ขลุกอยู่ในช่วง...
- BIAS
- PREJUDICE
- DISCRIMINATION
- VIOLENCE
มาโดยตลอด
ด้วยรากฐานของ...
"อคติ"ที่แน่นหนา ( BIAS/PREJUDICE)
ทำให้การข้ามไปสู่
"ความรุนแรง" (DISCRIMINATION/VIOLENCE)
ดูจะไม่ยากเย็นเท่าไหร่
แต่จะมากบ้าง น้อยบ้าง
เพียงแค่ต่างกรรม ต่างวาระกันเท่านั้น
ยอดบนสุดของพีระมิด
- GENOCIDE
...การฆ่าล้างชนชาติ(อย่างเป็นระบบ)
ที่โลกต้องบันทึกไว้
ผมมีตัวอย่างที่
พอจะทำให้เห็นภาพชัดเจน...
The Holocaust
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
"ฮอโลคอสต์" (The Holocaust)
การพันธุฆาต โดยมีเจตนา จะถอดราก
ถอดโคนชาวยิวกันเลยทีเดียว
หลังอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเยอรมนีในเดือนมกราคม 1933
รัฐบาลเริ่มแยกชาวยิวออกจากสังคม
- โดยเริ่มจากคว่ำบาตรธุรกิจของชาวยิว
- มีการออกกฏหมาย "Nuremberg Laws" คือ กฎหมายเพื่อคุ้มครองคนสายเลือดเยอรมันแท้ๆ ผู้มีสายเลือดเยอรมันแท้ๆเท่านั้นจึงจะเป็นพลเมือง มีการห้ามชาวเยอรมันสมรสหรือมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสกับชาวยิว
- เหตุการณ์ "คืนกระจกแตก" (Night of the broken glass) เกิดขึ้นในวันที่ 9–10 พฤศจิกายน 1938 ร้านค้า,ที่อยู่อาศัยและธุรกิจของยิวถูกปล้นสะดม ทุบทำลาย,เผาไฟ ทั่วประเทศเยอรมนีและออสเตรีย โดยฝีมืิของหน่วยเอ็สเอ (กลุ่มชาตินิยม) ที่ร่วมมือกันกับชาวเยอรมัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเยอรมันได้แต่เฝ้าดูสถานการณ์ โดยไม่เข้าแทรกแซงใดๆ (เพิกเฉย)
- นโยบายกำจัดยิวที่นาซีเรียก "มาตราการสุดท้าย" (Final Solution) คือต้องการกำจัดชาวยิวออกจากสังคมเยอรมันโดยสิ้นเชิง
- และที่พีคที่สุดคือ การสร้างค่ายกักกัน ซึ่งนำไปสู่การสังหารหมู่ครั้งประวัติศาสตร์ (การสังหารหมู่ครั้งนี้ มุ่งไปที่ ชาวยิว ชาวโปล ชาวยิปซี และชาติอื่น ๆ ทั้งนี้ยังรวมถึงเชลยศึกชาวโซเวียตด้วย)
"Racism Pyramid"
ยังมีจุดที่น่าสนใจมากๆอยู่จุดหนึ่งคือ...
- BIAS
รากฐานของพีระมิด
ที่เริ่มสะสมเชื้อเพลิง
แห่งความเกลียดชัง
ด้วยเรื่องง่ายๆที่เราคิดไม่ถึง...
เช่น เรื่องตลก, เรื่อง joke
เรื่องตลกขบขัน
จะเป็นจุดเริ่มต้นของ
ความเกลียดชังไปได้อย่างไร
ผมอยากให้ทุกท่าน"ทด"
เรื่องนี้ไว้ในใจกันก่อน
เพราะจากการสืบค้นข้อมูล
ผมไปพบเรื่องที่น่าสนใจมาเรื่องหนึ่ง
มีการรวบรวม database
ของสัญลักษณ์แห่งความเกลียดชัง
เอาไว้ในเว็บของ ADL fighting hate for good
ลองมาดูมาว่า...
ผมไปเจออะไรมาบ้าง
ทีมงานขึ้นสไลด์ด้วยครับ...
(2)
(2)
นี่คือ General Hate Symbols
และ Numeric Hate Symbols
สัญลักษณ์ความเกลียดชัง ของกลุ่มคน
ที่มีแนวคิดเหยียดเชื้อชาติ / สีผิว
ที่รวบรวมทั้ง กราฟฟิก, ข้อความ, ตัวเลข
ตัวอย่าง เช่น
"14"
เลข 14 ถูกใช้เป็นสโลแกนของกลุ่มนิยมชาติพันธุ์ผิวขาว ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
"เราต้องรักษาความปลอดภัยการมีอยู่ของประชาชนและอนาคตสำหรับเด็กผิวขาว"
นี่คือ 14 คำประกาศจาก David Lane หัวหน้าสมาชิกของกลุ่มก่อการร้าย
supremacist ที่รู้จักในนาม The Order (Lane เสียชีวิตในคุกในปี 2550)
"14/88"
เลข 14 จากสโลแกนจากด้านบน มารวมกับ 88 ซึ่งย่อมาจาก "Heil Hitler"(H เป็นตัวอักษรตัวที่ 8 ของตัวอักษร) ตัวเลขนี้ใช้แพร่หลายในการเคลื่อนไหวของนักร้องหญิงผิวขาว ปรากฏเป็นกราฟฟิตี ในภาพกราฟิก, รอยสัก หรือแม้แต่ที่อยู่อีเมล เช่น ABC1488@hate.net หรือแม้แต่การกำหนดราคาสินค้า เช่น เสื้อยืดราคา $ 14.88
และจากที่ผมได้อยู่กับข้อมูลนี้มาพักนึง
ก็ต้องบอกเลยว่า...
โดยรวมแล้ว สัญลักษณ์ของกลุ่มคนที่มีแนวคิดเหยียดเชื้อชาติ / สีผิว ส่วนใหญ่กำเนิดมาจาก คนผิวขาว ครับ และไม่น้อยทีเดียว ที่ยังเชื่อมโยงกับนาซีและยังคลั่งในความเป็น"อารยัน"กันอยู่ และเชื่อมโยงกับ "KKK" (Ku Klux Klan - สมาคมลับที่มีแนวคิดทำร้ายและฆ่าคนที่ไม่ใช่คนผิวขาว)
แต่สิ่งที่น่าแปลกใจสำหรับผมคือ...
กลุ่มเหล่านี้โดยส่วนใหญ่
ก็ไม่ได้เหยียดเชื้อชาติ / สีผิว โดยตรง
แต่เป็นการเทิดทูนเชื้อชาติของตนเองมากกว่าใคร ว่าเป็นสายเลือดที่ได้รับเลือกโดยตรง (มีข้องแวะไปเรื่องศาสนาและความเชื่อ) ซึ่งใน"Racism Pyramid" ไม่มี และการยกย่องตนเองมากกว่าผู้อื่น แท้จริงแล้วก็เป็นการเหยียดที่เกิดจากอคติรูปแบบหนึ่ง
ต่อมา สัญลักษณ์ของกลุ่มคน
ที่มีแนวคิดเหยียดเชื้อชาติ / สีผิว
ที่แสดงออกให้เห็น
ด้วยการทำ"สัญลักษณ์มือ"กันบ้าง
(3)
(3)
และ"สัญลักษณ์มือ" ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือ...
(4)
(4)
สัญลักษณ์มือ "OK" หรือ"ตกลง"
ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร
แต่มันคือความหมายที่ซ่อนอยู่
ของคำว่า "White Power"
สัญลักษณ์มือนี้ ปรากฏไปทุกหนแห่ง
เท่าที่ความเกลียดชังจะนำพามันไปได้
(5)
((5) ข้อมูลเพิ่มเติม รูปที่ 1 : White House intern denies making white power hand sign รูปที่ 2 : Cubs fan is banned for life after flashing "white power" sign behind black reporter / รูปที่ 3 : Family outraged after Universal Studios character made ‘OK’ white power signal / รูปที่ 4 : White Power Sign Flashed by Students Prompts Military Investigation : ขอไม่ลงรายละเอียดของรูปนะครับ สามารถเสิร์ชหัวข้อตามนี้ได้เลย )
และผู้ที่ถูกเชื่อมโยง
กับสัญลักษณ์นี้มากที่สุดคือ...
(6)
(6)
"ดอนัล ทรัมป์" ครับ
แต่จะจริงแท้แค่ไหน
หรือเรื่องนี้จะอยู่ในทฤษฎีสมคบคิดหรือไม่
คงต้องลองดูกันต่อไปยาวๆๆๆ...
หลังจากไล่ดูข้อมูล
ในเรื่องการเหยียดมาพักนึง
ข้อมูลส่วนใหญ่แสดงให้เห็น
และเทน้ำหนักไปที่...
คนผิวขาว เหยียด คนผิวดำ (และเอเชีย)
ผมก็แอบมีคำถามในใจเกิดขึ้นว่า...
แล้วมีอะไรที่คนผิวดำ "เหยียด"
หรือกีดกันคนผิวขาวบ้างมั้ย
คำตอบคือ...มีครับ
และกีฬาบาสเก็ตบอล ก็คือตัวอย่างที่ชัดเจน
(7)
(7)
นี่คือข้อมูลจำนวนผู้เล่นที่เป็นคนผิวขาว
(ตารางซ้าย)
ข้อมูลจากฤดูกาลในปี 1996-97
- ทีมที่ไม่มีผู้เล่นผิวขาวในทีมเลยคือ...
- Denver Nuggets
- LA Lakers
- Detroit Pistons
- ทีมที่มีผู้เล่นผิวขาวมากที่สุด 6 คนคือ...
- Utah Jazz
(ตารางขวา)
ข้อมูลจากฤดูกาลในปี 2016-17
- ทีมที่ไม่มีผู้เล่นผิวขาวในทีมแม้แต่คนเดียว
มีทั้งหมด 8 ทีม (จากปี 1996 มีแค่ 3 ทีม)
- ทีมที่มีผู้เล่นผิวขาวมากที่สุด มีแค่ 4 คน
(จากปี 1996 มีถึง 6 คน)
(ข้อมูลนี้เป็นเกร็ดเพิ่มเติมเล็กน้อยนะครับ)
กลับมาที่...
เรื่องตลกขบขัน
เป็นจุดเริ่มต้นของ
ความเกลียดชัง
ใน"Racism Pyramid"
ที่ผมให้ทุกท่าน"ทด"
เรื่องนี้ไว้ในใจในช่วงต้น
ผมเลยลองทำการค้นหา
ดูสิว่า สิ่งที่ได้มาจากพีระมิด
จะเชื่อมโยงได้มากน้อยแค่ไหน
ผมใช้คำว่า "black joke"
ค้นหา 12 เดือนที่ผ่านมา
และ 90 วันที่ผ่านมา
เฉพาะสหรัฐอเมริกา
แะนี่คือผลลัพธ์ที่ได้...
(8)
(8)
ให้สังเกตที่กราฟด้านขวามือนะครับ
(90 วันที่ผ่านมา)
ความนิยมในการค้นหา "black joke"
ดีดเพิ่มสูงขึ้นจนพีค ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเหตุการณ์ของ"จอร์จ ฟลอยส์" กันอย่าง
พอดิบพอดี
ต่อมา ผมมาดูคำค้นหายอดนิยม
และหัวข้อที่เชื่อมโยง
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา กันก่อน...
(9)
(9)
(9)
มีคำยอดนิยมอย่าง
- black people joke
- black joke
- racist black joke (ชี้ชัดๆ)
- racist joke
และในหัวข้อที่เชื่อมโยง
มีคำอย่าง องคชาต และ dick joke
สะท้อนให้เห็นมุขตลกใต้สะดือ
ต่อมา ผมมาดูคำค้นหายอดนิยม
และหัวข้อที่เชื่อมโยง
ในช่วง 90วันที่ผ่านมา...
(10)
(10)
(10)
การค้นหายอดนิยมคือคำว่า...
"black live matter is a joke"
ส่วนในหัวข้อที่เชื่อมโยง
ก็มีความใกล้เคียงกับช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
มีคำอย่าง "โจ ไบเดิน" (ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา สมัยนายบารัค โอบามา และเป็นตัวแทนพรรค
เดโมแครตลงสู้ศึกเลือกตั้งในเดือน พ.ย.นี้ กับประธานาธิบดี ดอนัลด์ ทรัมป์ ของพรรครีพับลิกัน)
แม้สถานการณ์การชุมนุมประท้วงจะขยายออกในวงกว้าง และดูเหมือนหลายๆฝ่ายทั้งภาคการเมือง-ประชาชน จะกำลังทำเรื่องนี้ให้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
แต่ในกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆของ"กูเกิ้ล"
กลับให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งกับเรา
การเหยียดกันด้วยมุขตลก
ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร
สะท้อนให้เห็นถึงความเกลียดชังที่ฝังรากลึก
ช่วงที่ทั้งโลกโห่ร้อง "black live matter"!!!
ก็มีคนจำนวนมากพิมพ์ "black joke"!!!
...สิ่งที่เป็นกับสิ่งที่เห็น อาจไม่เหมือนกัน !!!
และความเกลียดชัง ยังคงดำเนินต่อไป...
โพสต์นี้ขอจบลงเพียงเท่านี้
ขอบพระคุณทุกการติดตามครับ
บุญรักษา"กัลยาณมิตร"ทุกท่านครับ
DATAพาเพลิน
DATAPAPLEARN
***หมายเหตุ DATA ข้อมูลที่เกิดขึ้นในโพสต์นี้ เป็นการรวบรวมข้อมูลคำค้นหาบนแพลตฟอร์มของกูเกิ้ลอย่างเดียวเท่านั้น ข้อมูลและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากการรวบรวมและบันทึก ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ผู้เขียนและทีมงาน DATA พาเพลิน มีเจตนารมณ์เพื่อให้ชุดข้อมูลดังกล่าว เกิดการต่อยอดทางความคิดแก่ผู้อ่าน ไม่ได้มีความประสงค์จะชี้นำในเรื่องใดๆแต่อย่างใด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา