9 มิ.ย. 2020 เวลา 05:20 • ปรัชญา
สัจธรรมแห่งชีวิตที่โลกสรรสร้าง
บทความนี้ต่อยอดจากบทความเรื่องความรู้ไร้ขอบเขต ความจริงไร้พรมแดน ที่หลายท่านอยากให้ขยายความซึ่งได้ขยายความจนเสร็จแต่ต้องการอ้างอิงความรู้จากเพจต่างๆ จึงได้อ่านบทความเพื่อนำแนวคิดเหล่านั้นมาผนวกเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดความสอดคล้องในข้อคิดที่ว่า "โง่ให้เป็น เห็นความสุข ทุกเรื่องเว้น เห็นฟังนิ่ง จริงเท็จตรอง มองความจริง"
1. โง่ให้เป็น
โลกแห่งความจริงแล้วมนุษย์เราไม่ชอบให้คนดูถูก ดูหมิ่นว่าเป็นคนโง่ การนี้จึงทำให้มนุษย์พยายามที่จะแสดงตัวเองออกมาเพื่อเป็นการทำตัวเองให้เป็นที่ยอมรับ มนุษย์หลายคนไม่ยอมที่จะโง่ ต่อให้คนอื่นรู้แล้วก็ใช่ว่าจะยอม ส่วนบุคคลผู้เป็นบัณฑิตมักจะนิ่งเงียบอยู่ในที่สงบ ไม่แสดงออกอาการที่จะเป็นการทำลายตัวเองในแง่ลบ
ผมเองชอบบทความของ เพจ Top Ranking เรื่องรักตัวเองให้ได้ ความรักตัวเองยังรวมถึงการรู้จักโง่ให้เป็น การใช้ชีวิตคู่หรือความรัก ยอมที่จะไม่รู้อะไรสักอย่างเพื่อให้ไปต่อ ในเรื่องที่ไม่เลวร้าย เมื่อเรารักตัวเราเองก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงหรือเพื่อป้องกันตัวเองจากภัยที่เกิดจากความอวดตน ทนงตนว่าเก่ง แต่คนที่เก่งจะค่อยๆ แสดงออกมาเมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม เหมือนกับบทความ เพจอิ่มบุญ ที่รอโอกาสและจังหวะในการแสดงออก
2. เห็นความสุข
มนุษย์ทุกคนมักแสวงหาความสุข แต่เมื่อถามจริงๆ ว่าสิ่งที่ท่านแสวงหามานั้นใช่ความสุขที่แท้จริงมั้ย ท่านเห็นความสุขอยู่ที่ใด ความสุขที่ได้เสพวัตถุ ความสุขที่จิตใจสงบ ความสุขที่มีทรัพย์สมบัติมากมาก ลาภ ยศ สรรเสริญ แต่ทั้งหมดทั้งมวลหาใช่ความสุขที่แท้จริง การเห็นความสุขต้องอาศัยตาดวงที่สาม ตาภายในที่เป็นจิตบริสุทธิ์ ความสุขที่แท้จริงอาจไม่เป็นอย่างที่เราคิดไว้ก็ได้เหมือนดังเพจ เรื่องเล่าจากดาวนี้ ที่ให้ข้อคิดในเรื่องความสุขใช่สิ่งที่เราแสวงหาหรือไม่
3. ทุกเรื่องเว้น
มนุษย์หากสนใจทุกเรื่องที่เข้ามาคงต้องเป็นบ้าเสียสติแน่นอน สิ่งที่สำคัญของความเป็นมนุษย์ที่ไร้ทุกข์ จะต้องไม่สนใจ รู้ทุกเรื่อง ควรรู้จักปล่อยวางเพื่อให้จิตใจได้พักผ่อน เพื่อไม่ให้เกิดวิกลจริต (วิตกจริต) เราควรเข้าใจว่าโลกมีหลายอย่างที่เรารู้แล้วอย่าไปตัดสินอะไรเร็วเกินไป ควรมองให้มากโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับคน อย่าด่วนตัดสิน ที่เพจเรื่องดีดี ได้เขียนไว้
4. เห็นฟังนิ่ง
โลกใบนี้มีอะไรหลายอย่างให้เราได้เห็น ได้ฟัง แต่จะให้รับเอาทุกเรื่องคงเป็นเรื่องยาก ยิ่งการนำเอาคำพูดของคนอื่นมาใส่ใจ ถ้าเป็นเรื่องที่ดีก็ไม่ใช่ปัญหา แต่เพราะคนเรามักจะเอาแต่สิ่งไม่ดีที่ถูกพ่นออกมา นำมาใส่ใจตัวเองจนเป็นทุกข์ เราควรที่จะใช้สติในการควบคุมความคิด วาจา ไม่ให้แสดงออกในเรื่องที่ไม่เหมาะสม ควรระวังให้มากเพราะทุกอย่างที่แสดงออกทางกาย วาจาย่อมตีกลับมาสู่ตนทั้งเรื่องดีและไม่ดี ดังเพจ Good Stories: ทุกอย่างมีเวลาของมัน เขียนไว้เรื่อง วาจาสุภาษิต
5. จริงเท็จตรอง
การรับรู้เรื่องราวต่างๆ มากมาย แต่หากไร้ซึ่งการไตร่ตรองอย่างละเอียดแล้ว คงจะทำให้มีแต่เรื่องเดือดร้อนมาให้แก่ตนแน่นอน จงให้ความคิดและจิตใจในการพิจารณาถึงสิ่งที่เข้ามาเพื่อการแยกแยะความถูกผิดเพื่อนำไปใช้ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน จงใช้ความคิดสติปัญญาให้มากทบทวนอย่างถีถ้วนเพื่อไม่ให้หลงเชื่อกลของใครโดยง่าย ดังที่เพจ ถ้าใจเราดี...อะไรๆ ก็ดีเอง เขียนไว้
6. มองความจริง
การแสวงหาความรู้ ความจริง เป็นสิ่งที่หลายคนต่างแสวงหา ความจริงแห่งชีวิตคือความตาย ความจริงแห่งจริยศาสตร์คือกรรม ความจริงแห่งความงาม สุนทรียศาสตร์ คือ ศีลธรรม ความจริงแห่งความรู้ ญาณวิทยา คือ อริยสัจสี่ ความจริงแห่งคุณค่า คุณวิทยา คือ จิตวิญญาณ และความจริงแห่งอภิปรัชญา คือ นิพพาน คนที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่ชนะใจตัวเอง เหมือนที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปฏิบัติมา และเพจ Renovate ความคิด ได้เขียนไว้
ทุกสิ่งทุกอย่างของบุคลลจะเกิดผลสำเร็จได้ก็ด้วยอาศัยปัจจัยและเเนวทางหลายอย่างมาผสมผสานกันอยู่ที่ว่าเราจะลุกขึ้นสู้ หรืออยู่แค่นี้ ความสุขของเราไม่ได้อยู่ที่ว่า เราประสบความสำเร็จ แต่ความสุขอยู่ที่ว่าเราจะทำต่อหรือไม่ ในคราใดที่ล้มลง ย่อมได้รับความล้มเหลว แต่ถ้าหากเราลุกขึ้นสู้ต่อไป มันก็จะเป็นการยืนยันว่าเราไม่ล้มเหลวเพราะเราไม่ล้มเลิก เหมือนดังเพจรักนี้มีประกัน by พี่ตา เขียนไว้เรื่อง ล้มเหลว vs ล้มเลิก
หลายคนยอมที่จะให้ดูถูก ยอมที่จะถูกมองว่าโง่เพื่อที่จะลุกขึ้นสู้ คนเราไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ บางคนเห็นเราแล้วดูถูกว่าเราโง่ ให้เราเกิดความท้อแท้ มองข้ามสิ่งที่เรามี แต่เพราะเขายังไม่เห็นพรสวรรค์จากตัวเราเอง เหมือนนักฟุตบอลที่แต่ก่อนยังเก่งแบบธรรมดา โดนดูถูกแล้วพัฒนาตัวเองจนเก่ง และประสบความสำเร็จ นั้นคือ การเอาชนะเสียงดูถูก เหมือนที่เพจ อ้ายจง เขียนไว้
โลกนี้มีอะไรให้เราต้องเรียนรู้ และต่อสู้ กฏของธรรมชาติคือ เมื่อเราลงแข่งขันก็ย่อมมีคู่แข่ง ที่เกิดผลแพ้ชนะ แต่มันจะเป็นพลังที่กระตุ้นให้เราลุกขึ้นสู้ทั้งกายและใจ ไม่สนว่าผลจะออกมาอย่างไรขอแค่ได้สู้ ยิ่งมีคู่แข่งมากเรายิ่งพัฒนาตัวเองให้มาก ดังที่เพจ Anontawong's Musings เขียนเรื่องนี้ไว้ และผมเขียนคำคมข้อคิดไว้สอนตัวเองที่ว่า "รู้ให้ลึก ฝึกให้มาก พรากเพียรยิ่ง ทิ้งทิฐิ" ให้เราเดินไปข้างหน้า ยอมที่จะโง่เพื่อลุกขึ้นอย่างสง่า
ดังนั้น สัจธรรมแห่งชีวิตที่โลกสรรสร้าง คือ สิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรที่จะเรียนรู้ให้มาก เพราะการที่เราดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่เพียงเฉพาะแค่เรา แต่ยังรวมถึงคนอื่นๆ อีกมากมาย การเรียนรู้ ต่อสู้ แข่งขันจึงเกิดขึ้น เราควรที่จะยอมรับในตัวเอง และมุ่งที่จะสนใจตัวเองให้สมบูรณ์เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราถึงจะช่วยเหลือสังคม และสอนคนอื่นได้ ไม่ใช่เงียบหรือเก็บไว้ อย่าเป็นคนเก่ง ที่คุยไม่เป็น
ฝากกด like
ฝากกด share
ด้วยนะครับ
โฆษณา