9 มิ.ย. 2020 เวลา 17:43 • ไลฟ์สไตล์
" หลู้ "
" นี่ลาบเลือดเหรอวะ ต้อม " ผมถามรุ่นน้องที่เป็นเจ้าบ้าน ขณะที่กำลังใช้มีดสับก้อนเลือดสดๆ
" ทางบ้านผม เขาเรียก หลู้ ครับพี่ " เป็นคำตอบจากต้อม หนุ่มแม่สาย ที่มีโอกาสได้โชว์ฝีมือทำอาหารให้พวกเราได้ชิม
นั่นคือครั้งแรก ที่ผมได้มีโอกาส รู้จัก ' หลู้ 'อาหารประจำถิ่นทางภาคเหนือของไทยเรา ด้วยมีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปถึงเชียงราย
cre:pinterest
ผมเคยกิน ลาบเลือดทั้งสุก และดิบ ของทางภาคอีสานมาแล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะต่างกันเท่าไร เพราะดูจากหน้าตา ที่ ต้อม ทำการปรุงเสร็จสรรพออกมา มันก็คล้ายๆกับลาบเลือดทางอีสาน
แต่วิธีการกินของ หลู้ ของทางเหนือ จะมีผักที่เป็นเครื่องเคียงเยอะมาก และรสจะไม่จัดเท่ากับลาบเลือดของทางอีสาน
" ของทางบ้านผม จะไม่ใส่พริกลงไปครับพี่ ใส่แค่เกลือ จะกินพริกสดกับผักแกล้มตามทีหลัง " ต้อม อธิบาย หลังจากที่พวกเราลงมือชิม
พอลองตักใส่ปากคำแรก ผมรีบจัดพริกขี้หนูสด พร้อมด้วยผัก ตามที่ต้อมแนะนำทันที
เพราะด้วยรู้สึกว่ามันจะจืด ไม่เผ็ด และคาวเลือดหมูสดที่ใส่ลงไป หรือเพราะเราไม่คุ้นกับรสชาด เพราะเคยกินแต่ลาบที่รสจัด เลยรู้สึกว่า มันมีรสชาดแปลกๆ
ทุกคนที่ได้ชิมคิดเหมือนกัน ยกเว้นไอ้ต้อม ที่ดูมันกินอาหารฝีมือตัวเองอย่างเอร็ดอร่อย
หลังจากนั้นอีกหลายปี ผมมีโอกาสได้ไปทำงานที่เชียงใหม่กับ น้องที่สนิทอีกคน พอช่วงเสร็จงาน มันถามผมว่า มีที่ไหนมีอาหารแซ่บๆกินบ้าง
พอดีพี่คนขับรถแนะนำให้ไปลองที่ร้านแห่งหนึ่ง ที่แกเคยพาลูกค้าไปนั่งกิน เราสองคนเลยไปตามคำแนะนำ
" ลอง 'หลู้ ' มั้ยเหน่ง " ผมถามรุ่นน้อง
" เอาดิพี่ เราสายนี้อยู่แล้ว " เหน่งตอบผมด้วยความมั่นใจในทางการกินอาหาร ประมาณว่ากินได้ทุกรูปแบบ
" เอาเลือดมั้ยพี่ " เด็กเสิร์ฟถาม
เหน่งหันมามองหน้าผม เชิงถาม ว่าจะเอาเลือดมั้ย
" เหน่งกินได้ป่าวละ ถ้าได้ก็เอา " ผมถามกลับ
" เอาเลือดมาลองหน่อยน้อง เอาเบียร์เย็นๆให้พี่ด้วยขวด " เหน่งหันไปสั่งเด็กเสิร์ฟ
หลังจากกระดกเบียร์ ได้แก้วสองแก้ว อาหารก็เริ่มลงสู่โต๊ะ
เลือดที่สั่งไป เด็กเสิร์ฟเปิดเอาออกมาจากตู้เย็น ไอเย็นยังลอยออกจากถ้วย ที่ใส่เลือดมาเลือดจับตัวเป็นก้อนอย่างกับเจลลี่ สีแดงคล้ำ
เหน่งกระดกเบียร์อึกใหญ่ ตามด้วยตักหลู้ พร้อมกับเลือดในถ้วยที่เป็นก้อนตามเข้าปาก หลังจากเคี้ยวได้ไม่เท่าไร สิ่งที่กำลังจะกลืน ดันพุ่งพรวดออกมาจากปาก
" อ้วกกก.... " เสียงคำรามจากลำคอ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลเป็นทางของเหน่ง ผมรีบหยิบน้ำให้น้องล้างหน้าล้างปาก
" แม่งคาวติดคอเลยพี่ ใครมันจะกินได้วะ " เหน่งรับน้ำไปล้างหน้าพร้อมเสียงบ่นอู้อี้
" แล้วพี่ไม่คาวเหรอ" เหน่งส่งเสียงถามผม ก่อนกระดกเบียรล้างคอ
" อ๋อ ไม่คาว เพราะพี่ไม่กินเลือด " ผมตอบ
" เอ้า! ไมไม่บอกวะพี่ "
ผมได้แต่หัวเราะเบาๆ พร้อมกระดกเบียร์ตามด้วยกับแกล้มอย่างอื่น
สักพักมี มอ'ไซด์ ที่บิดด้วยความเร็วส่งเสียงดังมาแต่ไกล มาจอดหน้าร้าน วัยรุ่นที่เป็นคนขับมา ตะโกนเสียงดังสั่งเด็กเสิร์ฟ
" น้องเอาเลือดให้พี่สาม เร็วหน่อยนะเดี๋ยวขาดตอน "
ผมกับเหน่งที่กำลังชนแก้วกันอยู่ หันไปมองตามเสียงคนที่สั่ง พร้อมกับหันมาสบตากัน ประมาณว่า ' แม่งโคตรเจ๋งเลยวะ 'แดรก'เลือดสามถ้วยเลยนะนั่น ' ยังอยากจะแถมเลือดที่โต๊ะพี่ที่ไม่มีใคร 'แดรก'ให้ไปด้วยเลย
น้ำลายแตกฟอง
โฆษณา