10 มิ.ย. 2020 เวลา 07:15 • ประวัติศาสตร์
#มหาตมะ #คานธี :#มหาบุรุษแห่งอินเดีย
ช่วงทศวรรษที่ 1940 จักรวรรดิอังกฤษที่ทรงอำนาจ
ต้องปราชัยให้กับบุรุษแห่งสันติผู้มีอาภรณ์เรียบง่าย
คลุมกาย เขาคือ โมหันทาส กรัมจันท์ คานธี
หรือที่คนนทั่วไปเรียกเขาว่า "มหาตมะ"
 
ขณะนั้น อินเดียเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอังกฤษ
ซึ่งมีสิทธิ์ชี้ขาดในเรื่องกฎหมายของบรรดาประเทศ
ในอาณานิคม
มหาตมะ คานธี นักรณรงค์เคลื่อนไหวทางการเมือง
ผู้ชาญฉลาดได้นำการต่อสู้เรียกร้องเอกราชให้อินเดีย และต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้ยากไร้ทั้งหลาย
การต่อสู้แบบสันติวิธีที่ไร้ความรุนแรงของเขาในครั้งนั้นได้รับการยกย่องไปทั่วโลกและยังถูกกล่าวขานมาจนถึงปัจจุบัน
ย้อนดูช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของมหาบุรุษผู้นี้
โมหันทาส กรัมจันท์ คานธี ถือกำเนิดในเมืองปอร์บัณฑร รัฐคุชราต ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 1869 ในตระกูลชนชั้นสูง โดยบิดาของเขาเป็นมุขมนตรี
ส่วนมารดาของเขาเป็นผู้เคร่งครัดในศาสนา และปลูกฝังแนวคิดต่าง ๆ ให้คานธี ตั้งแต่เรื่องหลักจริยธรรมฮินดู การบริโภคมังสวิรัติ ความอดทนอดกลั้นต่อความแตกต่างทางศาสนา การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และการไม่ใช้ความรุนแรง
การประท้วงอย่างสันติของคานธี ก่อให้เกิดผลสำเร็จมากกว่าการใช้ความรุนแรง
หลังจบการศึกษา คานธี ได้เดินทางกลับอินเดีย เพื่อทำงานเป็นนักกฎหมาย แต่เขากลับแพ้คดีในการว่าความในคดีแรก และถูกไล่ออกจากสำนักงานของทางการอังกฤษ
ความอับอายทำให้คานธีตัดสินใจรับตำแหน่งงานในประเทศแอฟริกาใต้ โดยออกเดินทางโดยเรือเมื่อเดือน เม.ย. 1893 แล้วใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 21 ปี
ตอนที่ไปถึงแอฟริกาใต้ เขาถูกห้ามไม่ให้โดยสารในรถไฟชั้นหนึ่ง เพราะสีผิวของเขา
คานธี ขณะทำงานเป็นนักกฎหมายในแอฟริกาใต้
ความรู้สึกตกตะลึงกับการปฏิบัติที่เลวร้ายต่อผู้ย้ายถิ่นชาวอินเดีย ทำให้คานธีก่อตั้งองค์การอินเดียน คองเกรส ในจังหวัดนาทาล เพื่อต่อสู้กับการแบ่งแยกเชื้อชาติ ซึ่งในเวลาต่อมาได้ช่วยพัฒนาแนวคิดเรื่องการประท้วงโดยสันติของพลเมือง
คานธี ถูกจับกุมฐานจัดการผละงานประท้วงและเดินขบวนต่อต้านการเรียกเก็บภาษีต่อผู้มีเชื้อสายอินเดีย แต่อังกฤษถูกกดดันให้ยกเลิกการเก็บภาษีดังกล่าวและปล่อยตัวคานธีในเวลาต่อมา
ข่าวเรื่องชัยชนะของคานธีถูกรายงานไปทั่วอังกฤษ และคานธีได้กลายเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ
ถูกตั้งข้อหาปลุกระดมมวลชน
คานธีเดินทางกลับอินเดีย และเริ่มการเคลื่อนไหวเรียกร้องเอกราชให้อินเดีย หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ที่เมืองอมฤตสาร์ ซึ่งเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวซิกข์ โดยฝ่ายอังกฤษได้เปิดฉากยิงใส่ผู้ประท้วง ทำให้มีเสียชีวิตราว 400 คน และบาดเจ็บอีก 1,300 คน
การเรียกร้องให้ประชาชนออกมาประท้วงโดยสันติของคานธี ได้รับการตอบรับจากชาวอินเดียทุกชนชั้นวรรณะและทุกศาสนา เขาเรียกร้องให้ประชาชนหยุดให้ความร่วมมือกับเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษ ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรสินค้าจากอังกฤษ
เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้อังกฤษจับกุมคานธีในข้อหาปลุกระดมมวลชน และลงโทษจำคุกเขาเป็นเวลา 2 ปี
คานธีอดอาหารประท้วงการปกครองของอังกฤษ หลังถูกปล่อยตัวจากเรือนจำ
อังกฤษบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยปลุกระดมมวลชน ในช่วงทศวรรษที่ 1870 เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคม ซึ่งคานธีชี้ว่า เป็นกฎหมายที่ "ถูกออกแบบมาเพื่อกดขี่เสรีภาพของพลเมือง"
ในปี 1931 คานธีเดินทางมายังกรุงลอนดอนเพื่อร่วมการเจรจา โต๊ะกลม Round Table Conference ในฐานะผู้แทนของพรรคคองเกรสแห่งชาติอินเดีย เขาปรากฏตัวในชุดแบบดั้งเดิมของอินเดีย แต่การเจรจาจบลงด้วยความล้มเหลวสำหรับคานธี ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 62
ปี
ตอนนั้นอังกฤษยังไม่พร้อมจะมอบเอกราชคืนให้แก่อินเดีย ขณะที่ผู้แทนชาวมุสลิม ชาวซิกข์ และอื่น ๆ ไม่สนับสนุนวิสัยทัศน์ในการรวมอินเดียเป็นหนึ่งเดียวของคานธี พวกเขาเชื่อว่าคานธีไม่ใช่ตัวแทนของชาวอินเดียทุกคน
หลังจากนั้น คานธี ได้ถอนตัวออกจากพรรคคองเกรสและเวทีการเมือง แต่เขายังคงเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมของกลุ่มคนจัณฑาล
อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการเรียกร้องให้มวลชนออกมาเคลื่อนไหว และการแสดงอารยะขัดขืนอย่างต่อเนื่องของเขาค่อย ๆ ทำให้ทางการอังกฤษต้องยอมเจรจาด้วย
สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้จักรวรรดิอังกฤษอ่อนแอลง และเป้าหมายสำคัญของคานธีก็กลายเป็นความจริง
ในปี 1947 อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ แต่ความหวังว่าชาวฮินดูและชาวมุสลิมจะอยู่ร่วมกันในประเทศเดียวของคานธีต้องแตกสลาย เมื่อประเทศถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ อินเดีย และปากีสถาน
การแบ่งแยกประเทศได้นำไปสู่ความรุนแรงยิ่งขึ้น คานธีเดินทางกลับไปยังกรุงนิวเดลีเพื่อช่วยปกป้องชาวมุสลิมที่เลือกจะปักหลักอยู่ในอินเดีย เขาเริ่มการอดอาหารประท้วงเพื่อสิทธิของชาวมุสลิม
หลังอินเดียได้รับเอกราชไม่ถึง 6 เดือน คานธี เดินทางไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาในเมือง
แต่เขากลับถูกชาวฮินดูที่มีแนวคิดสุดโต่งยิงเสียชีวิต โดยชายคนดังกล่าวโกรธแค้นที่คานธีมีแนวคิดเป็นมิตรกับชาวมุสลิมและปากีสถาน
การจากไปของคานธีสร้างความอาลัยให้คนทั่วโลก เพราะเขาคือสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ ผู้ที่ความฝันในการทำให้อินเดียเป็นประเทศที่ไม่มีการแบ่งแยกทางศาสนา วรรณะ และชนชั้น .
โฆษณา