10 มิ.ย. 2020 เวลา 14:14 • ประวัติศาสตร์
เวลาเราได้ยินเสียงอะไรที่ผิดปรกติ หรือเห็นอะไรที่แปลกๆ เราจะจำเรื่องนั้นได้ไหมนะ? เราจะจำได้หรือเปล่า ว่าสิ่งที่ผิดปรกตินั้นคืออะไร และวันที่เราได้ยินเสียงนั้นคือวันที่เท่าไหร่? ส่วนตัวเราเองนั้น ถ้าเราได้ยินเสียงที่คล้ายเสียงปืน เราจะติดนิสัยก้มมองนาฬิกา อุปมาไปว่า ถ้าเกิดตำรวจมาเคาะประตูถาม เราจะได้บอกได้ว่าได้ยินเสียงตอนเวลากี่โมง
คดีที่เราจะเล่าต่อไปนี้ ป็นคดีแรกของรัฐ Connecticut ที่ฆาตกรถูกตัดสินให้มีความผิดข้อหาฆ่าผู้อื่น แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถหาศพมาเป็นหนึงในพยานหลักฐานของคดีได้ก็ตาม แต่ด้วยความที่มีพยานหลายปาก เห็นการกระทำอันไม่ชอบมาพากลของฆาตกรจึงทำให้เจ้าหน้าที่สามารถปะติดปะต่อ เรื่องราว และสืบหาพยานหลักฐานได้ จนจับตัวฆาตกรมารับโทษได้สำเร็จ คดีนั้นก็คือ คดีการฆาตกรรม Helle Crafts หรือเรื่องของ ฆาตกรเครื่องย่อยไม้ (Woodchipper Murder) นั้นเอง (ยาวนิดนึงนะคะ เราพยายามไม่ข้ามประเด็นสำคัญไปค่ะ)
ปูมหลังก่อนเกิดเรื่อง:
Helle Crafts หรือชื่อเดิมคือ Helle Lorck Nielson เธอเกิดและเติบโตที่ประเทศ Denmark Helle เป็นคนที่หน้าตาสะสวย เธอสมัครเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบิน Pan Am Airways และได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 8 คน จาก ผู้สมัคร 200 กว่าคน หน้าที่การงานของเธอไปได้สวย Helle ไม่ได้คบหาดูใจกับใครจริงจังมากนัก เนื่องจากต้องบินไปโน้นมานี่ที จนกระทั่งวันนึง ชีวิตเธอก็ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเธอพบกับ Richard Craft นักบินของสายการบินนึง Richard นั้นไม่ได้มีบุคลิกหรือหน้าตาที่ดูดีเหมาะสม เมื่อเทียบกับนักบินคนอื่น หรือเมื่อเทียบกับ Helle แต่ด้วยความที่เป็นคนเจ้าคารม และมีทักษะสูงในการพูดจา Helle จึงตกหลุมรักเขาในทันที
ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ราบรื่นนัก ในปี 1969 ตอนที่ทั่งคู่เริ่มคบหาดูใจกันนั้น Richard ยังหมั้นอยู่กับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่า Helle ก็จะทราบถึงข้อเท็จจริงข้อนี้ แต่ก็ยังคบหากับ Richard ต่อไป ทั้งคู่ทะเลาะกับบ่อยครั้งและดูเหมือนจะเป็นการคบๆเลิกๆ ซึ่งเพื่อนๆของ Helle คิดว่า Richard นั้นแปลก และไม่มีใครชอบเขาเลย เพื่อนบางคนถึงกับลงเอยด้วยการมีปากเสียงกับ Richard ด้วยซ้ำ พวกเขาไม่เข้าใจว่า Helle ผู้ที่สามารถจะชี้นิ้วเลือกผู้ชายคนไหนก็ได้ ทำไมต้องมาตกร่องปล่องชิ้นกับ Richard
ในปี 1975 Helle ตั้งท้องลูกคนแรกกับ Richard ทั้งคู่จึงตกลงที่จะแต่งงานกันในปีเดียวกันนั้นเอง และหลังแต่งงาน พวกเขาซื้อบ้านในเมือง Newtown รัฐ Connecticut Helle กับ Richard มีลูกด้วยกัน 3 คน หลังจากที่ลูกคนที่ 3 เกิด Helle กลับไปทำงานเป็นแอร์โฮสเตสเหมือนเดิม (Helle จ้างออแพร์ที่ชื่อ Dawn Marie มาช่วยดูแลลูกๆให้ระหว่างที่เธอต้องกลับไปทำงาน) Richard ก็ยังทำงานเป็นนักบิน ทำให้รายได้ของพวกเขานั้นอยู่ในกลุ่มผู้มีอันจะกินเลยทีเดียว โดย Richard นั้นมีหน้าที่ดูแลการเงินของครอบครัว เขาให้ Helle รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้าน แต่ตัวเขาเองกลับใช้เงินไปกับเรื่องไร้สาระต่างๆ หนึ่งในเรื่องไร้สาระที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เขาลุ่มหลงเป็นอย่างมาก คือ การซื้อปืน Richard ชอบปืนเอามากๆ เมื่อไหร่ที่มีการจัดแสดงปืน Richard ก็มักจะเจอ Richard เขามีปืนเป็นของสะสมหลายกระบอกด้วยกัน
สัญญาณที่ไม่ดีเอาซะเลย:
นอกจากความโหล่ยโท่ยในฐานะสามีแล้ว ชีวิตแต่งงานของ Helle และ Richard เริ่มมีปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ Richard มักจะหายออกไปนอกบ้านทีละหลายวัน โดยไม่บอก Helle ว่าไปไหน เธอติดต่อเขาไม่ได้ และไม่รู้ว่าเขาไปทำงานหรือเปล่า พอหายตัวไปไม่กี่วัน Richard ก็จะกลับมาเอง ตามอารมณ์ของเขา และในปี 1982 Richard สมัครเป็นตำรวจอาสาสมัครของเมือง Newtown เขาไม่ได้รับค่าจ้างจากงานนี้แต่ดูเหมือน Richard จะชอบการเป็นตำรวจมาก เขามักจะโผล่ไปที่สถานีตำรวจแม้จะไม่มีงาน ออกค่าใช้จ่ายในวัสดุอุปกรณ์ต่างๆด้วยตัวเอง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรม และแม้กระทั่งซื้อรถยี่ห้อและรุ่นเดียวกับที่ตำรวจใช้ และติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ในรถเหมือนเช่ารถตำรวจ ในที่สุดเขาได้รับการบรรจุเข้าเป็นตำรวจในเมืองใกล้ๆกันที่ชื่อว่า Sunbury ได้ค่าแรงน้อยกว่าการเป็นนักบินที่เขาเคยทำอยู่มากโข แต่ดูเหมือน Richard จะใส่ใจและจริงจังกับงานนี้มากกว่า
ตั้งแต่แต่งงานกันมา Richard นอกใจ Helle หลายครั้งหลายครากับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า Helle ซึ่งรู้อยู่เต็มอก เลือกที่จะไม่สนใจข้อเท็จจริงเหล่านี้ อาจจะเป็นเพราะเธออยากอดทนเพื่อลูก หรืออดทนเพื่อหน้าตาทางสังคม (ไม่มีใครทราบได้) แต่เรื่องเริ่มหนักขึ้นๆ เมื่อคนเริ่มสังเกตเห็นว่า Helle มีรอยช้ำบนใบหน้าและลำตัว เธอยอมรับกับเพื่อนๆว่า Richard ตบตีเธอ และเธอสงสัยว่าเขากำลังมีคนอื่น เธอตัดสินใจจะยื่นเรื่องหย่ากับ Richard แต่กลัวว่าเขาจะโมโหและทำร้ายเธอ จนกระทั่งสั่งเสียไว้กับเพื่อนๆและคนรู้จักว่า “หากเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ให้รู้ไว้เลยว่านั้นมันไม่ใช่อุบัติเหตุ” หน้าร้อนในปี 1986 เมื่อฟางเส้นสุดท้ายขาดลง Helle ติดต่อทนายความ เพื่อที่จะดำเนินเรื่องขอหย่าจาก Richard ทนายความแนะนำให้ Helle หาหลักฐานที่ Richard คบชู้เพื่อให้คดีของเธอมีน้ำหนัก Helle จึงว่าจ้างนักสืบ (ที่เคยเป็นตำรวจเก่ามาก่อน) ชื่อว่า Keith Meyo ให้ช่วยเธอหาหลักฐานเรื่อง Richard คบชู้มาให้ Keith หาหลักฐานดังกล่าวได้ไม่ยากนัก เขามอบรูปภาพที่ Richard กำลังโอบ กอด จูบกับหนึ่งในชู้ของเขาให้กับ Helle รูปภาพดังกล่าวถึงกับทำให้ Helle ปล่อยโฮออกมา ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอก แต่ Helle คงเจ็บปวดไม่น้อยกับสิ่งที่เห็น
**Remark: อยากให้ทุกคนจำ Keith ไว้หน่อยนะคะ เขาจะเป็นคนที่สำคัญและมีผลอย่างมากกับคดีนี้ค่ะ
เกิดอะไรขึ้น?:
Helle เริ่มดำเนินการฟ้องหย่าในทันที ซึ่งในระหว่างนี้ Richard ก็ยังไปๆมาๆ หายไปหายมาเหมือนเดิม ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 1986 Helle พึ่งกลับมาจากทำงาน เพื่อนของเธอขับรถมาส่งที่บ้าน เพื่อนของ Helle จำได้ว่า Helle เห็นรถของ Richard จอดอยู่หน้าบ้านและถอนหายใจแบบยาวๆ เธอไม่อยากพบเจอ Richard และอยากให้การหย่านี่สิ้นสุดลงเร็วๆ Helle กล่าวขอบคุณเพื่อนก่อนที่จะเดินลากกระเป๋าหายเข้าไปในบ้าน และนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็น Helle ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
เวลาผ่านไปหลายอาทิตย์เพื่อนของ Helle เริ่มเป็นห่วง เนื่องจากเธอหายไปเลยแบบดื้อๆ เธอไม่ไปทำงานและไม่ติดต่อใครทั้งสิ้น พวกเขาพยายามสอบถามจาก Richard ซึ่งแต่ละคนนั้นไม่ได้คำตอบเดียวกันเลย บางที Richard ก็บอกว่า Helle กลับไป Denmark ไปหาแม่ (ซึ่งพอถามจากแม่ของ Helle แม่ก็บอกว่า Helle ไม่ได้อยู่ที่ Denmark) หรือ Helle ไปทำงาน หรือ Helle ทิ้งเขาไป หรือไม่ก็บอกว่า Helle ไปเที่ยวที่ Canary Island กับเพื่อน ซึ่งไม่สมเหตุสมผล เพื่อนของ Helle ตัดสินใจแจ้งความคนหายกับตำรวจที่เมือง Newtown ซึ่งพอพวกเขาสอบปากคำ Richard ก็เออ ออ ห่อหมกไปด้วยกัน และไม่ได้พยายามสืบหาตัว Helle อีก
ดูเหมือนการหายตัวของ Helle จะเป็นเรื่องที่เงียบหายไปกับสายลม ในเมื่อสามี คนที่ควรจะเป็นตัวตั้งตัวตีออกตามหา ภรรยา หรือแม่ของลูก กลับไม่แยแส ตำรวจก็ดูเหมือนจะเชื่อคำพูดของเขา (แน่ละคนรู้จัก พวกเดียวกันนี่นา) แต่ในความอาภัพของ Helle ยังมีคนๆนึง ซึ่งถึงแม้จะไม่รู้จักเธอเป็นการส่วนตัวมากนัก เลือกที่จะต่อสู้เพื่อหาความจริงให้เธอ คนๆนั้นก็คือ Keith นั้นเองค่ะ
Keith กับสิ่งที่เขาทำ:
Keith เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากล เขาเป็นห่วง Helle มากที่อยู่ดีๆเธอก็หายไปเลย Keith ตัดสินใจนั่งถกข้อมูลและประเด็นเรื่องการหายตัวไปของ Helle กับเพื่อนที่เป็นตำรวจ แม้แต่ทนาย โดยทั้งหมดลงความเห็นว่า Richard ต้องอยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของ Helle แน่ๆ Keith ตัดสินใจว่า เขานี่แหละต้องเป็นคนหาพยานหลักฐานเพื่อนำไปให้กับตำรวจ และเพื่อกระตุ้นให้ตำรวจสืบสวน Richard ให้มากกว่านี้ โดย Keith นั้นเริ่มตั้งแต่:
✅พูดคุยสอบถาม Dawn Marie ออแพร์ที่ทำงานที่บ้าน Helle กับ Richard โดย Dawn บอกกับ Keith ว่า เกิดเรื่องแปลกๆขึ้นจริง อย่างแรกเลยคือ หลังจากวันที่ 19 นั้น อยู่ดีๆ Richard ก็เข้ามาปลุก Dawn กับลูกๆ (ของ Richard กับ Helle) และขับรถพาทุกคนไปทิ้งไว้ที่บ้านของน้องสาว Richard ที่อยู่อีกเมืองนึง เมื่อ Dawn ถามถึง Helle Richard บอกว่าเธอจะตามมาทีหลัง หลังจากวันนั้น Dawn ก็ยังไม่ได้พบ Helle อีก เธอถามหาถึง Helle บ่อยครั้งซึ่ง Richard มักจะบอกว่า Helle กลับไป Denmark แล้ว หรือง่ายๆเลยคือ “I don’t know”
**Remark: Dawn คิดว่าแปลกมากที่ Richard เลือกที่จะพา Dawn กับลูกๆของเขาไปบ้านพี่สาวในวันนั้น เพราะมีพายุหิมะเข้า และสภาพอากาศแย่มากๆ แต่ Richard เลือกที่จะขับรถฝ่าพายุหิมะพาพวกเขาออกไป
เรื่องแปลกอีกอย่างนึงคือ พรมในห้องนอนของที่บ้านมีรอยเปื้อนวงกว้าง Richard ไม่ให้ Dawn เข้าไปทำความสะอาดในห้องนั้นและบอกว่า เขาทำน้ำมันก๊าซหกเลอะพรม เขาจะทำความสะอาดเอง ก่อนที่วันต่อมา Richard ตัดพรมจากจุดนั้นเป็นวงกว้างและเอาไปทิ้ง
✅มาถึงจุดนี้ Keith มั่นใจว่าพรมดังกล่าวต้องมีหลักฐานสำคัญอะไรแน่ๆ Keith ตระเวนสืบเส้นทางของรถขยะไปจนถึงจุดที่รถขยะนำขยะออกไปทิ้ง Keith เกณฑ์พนักงานที่บ่อขยะมาช่วยกันระดมหาชิ้นส่วนพรมดังกล่าว Keith กับพวกใช้เวลาหลายวันคุ้ยกองขยะที่สูงพะเนินและมีกลิ่นเหม็นเน่าเพื่อหาพรมนั้น จนวันนึงเหมือนมีปาฏิหารย์ Keith เจอชิ้นส่วนพรมที่เชื่อว่าน่าจะมาจากบ้านของ Helle และ Richard ชิ้นส่วนพรมดังกล่าว ยังมีรอยที่เหมือนรอยเลือดอยู่ด้วย Keith ส่งหลักฐานดังกล่าวไปที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานของตำรวจส่วนกลาง ซึ่งคนตรวจหลักฐานชิ้นนี้ในเวลานั้น คือนักนิติเวชศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญเรื่องเลือด Dr. Henry Lee นั้นเองค่ะ (แฟนๆ True Crime น่าจะคุ้นชื่อเขาอยู่) แต่น่าเสียดายที่ผลตรวจกลับออกมาว่ารอยเปื้อนนั้นไม่มีส่วนผสมใดๆของเลือดมนุษย์อยู่เลย
✅ความพยายามของ Keith ไม่สูญเปล่า สื่อเริ่มให้ความสนใจในคดีนี้ และเริ่มมีแรงกดดันจากรอบด้านต่อการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพของตำรวจเมือง Newtown ในที่สุด อัยการของรัฐตัดสินใจว่า ตำรวจส่วนกลางของรัฐจะเป็นผู้สืบสวนเรื่องการหายตัวไปของ Helle เอง (เหมือนเป็นการตบหน้าตำรวจเมือง Newtown ไปกลายๆ)
มหากาพย์การรวบรวมพยานหลักฐาน:
ตำรวจจากหน่วยสอบสวนกลางของรัฐ ขอหมายค้นเพื่อเข้าไปหาหลักฐานในบ้านของ Helle กับ Richard โดยการค้นครั้งนี้มี Dr. Henry Lee เข้ามาสมทบด้วย เจ้าหน้าที่พบรอยเลือด เป็นรอยป้ายเล็กๆที่ปลายเตียงในห้องนอน ซึ่งมองเห็นได้ยากหากใช้ตาเปล่า มีการใช้วิธีการตรวจสอบหลายวิธี ก่อนจะพบว่าเลือดดังกล่าวคือกรุ๊ป “o+” กรุ๊ปเดียวกับเลือดของ Helle และเลือดดังกล่าวเป็นเลือดที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายมนุษย์ (ไม่ใช่รอยเปื้อนที่มาจากประจำเดือน) บวกกับผ้าเช็ดตัวที่สะอาด แต่เมื่อผ่านการตรวจสอบ ผลกลับออกมาว่า เคยชุ่มเลือดมาก่อน เหมือนมีคนใช้ผ้าผืนนั้นเช็ดทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุ
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การหาศพของ Helle เพื่อมัดตัว Richard ตำรวจกุมขมับเพราะไม่รู้จะไปหาที่ไหน จนเมื่อเจ้าหน้าที่ไล่ดูรายละเอียดการใช้จ่ายของ Richard พวกเจ้าหน้าที่พบว่า Richard ซื้อตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ในวันที่ 17 พฤศจิกายน ( 2 วันก่อน Helle หายตัวไป) และในช่วงระยะเวลาเดียวกันนี่เอง เจ้าหน้าที่พบว่า Richard เช่าเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีราคาค่าเช่าถึง 900 ดอลลาห์ด้วยกัน พวกเขาตามสืบจนรู้ว่า เครื่องจักรชิ้นใหญ่อันนั้น คือเครื่องย่อยไม้นั้นเอง เมื่อรู้เช่นนั้นพวกเขาถึงกับขนลุกและพอจะเดาเหตุการณ์ออก โชคดีที่พอเรื่องเป็นข่าว พยานสำคัญอีกปากก็ออกมาให้ปากคำ พยานคนนั้นคือ Joseph Hine Joseph ทำงานเป็นลูกจ้างทั่วไปของเมือง Southbury เมืองที่ติดกับ Newtown Joseph เล่าว่า คืนที่หิมะตกหนักนั้น เขาได้รับมอบหมายให้ไปกวาดหิมะจากถนนที่อยู่ข้างๆแม่น้ำ โดยขณะที่ Joseph ต้องไปกวาดถนนนั้น มีพายุหิมะเข้าและหิมะตกอย่างหนัก แต่ Joseph สังเกตเห็นชายคนนึง กำลังย่อยไม้อยู่ในบริเวณข้างแม่น้ำที่เรียกว่า Lake Zoar ในใจตอนนั้น Joseph คิดว่าแปลก ใครจะมาบ้าทำอะไรแบบนี้ตอนนี้ เวลานี้ (ณ เวลานั้นเป็นตอนกลางคืน) Joseph ไม่ได้สนใจอะไรมากนักและทำงานต่อ จนเมื่อข่าวเริ่มดังขึ้นและ Joseh พอจะปะติดปะต่อเรื่องได้ เลยตัดสินใจเข้ามาให้ปากคำกับตำรวจ
แน่นอนตำรวจพุ่งไปที่บริเวณดังกล่าวทันที พวกเขาเห็นเศษไม้เป็นจำนวนมาก ปะปนไปกับเศษขยะทั่วบริเวณข้างๆแม่น้ำ หนึ่งในเจ้าหน้าที่เขี่ยนู้นดูนี่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบเศษกระดาษ ซึ่งน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของซองจดหมาย เพราะพลาสติกใสที่ปะหน้าซองยังอยู่ และเมื่อเขาพลิกดู หน้าซองนั้นจ่าหน้าชื่อและที่อยู่ของผู้รับว่า “Miss Helle L. Crafts 5 Newfield Lane, Newtown, Connecticut” ด้วยเหตุนี้เองจึงเกิดการระดมกำลังค้นหาหลักฐานทั้งทางน้ำและทางบก พวกเขาพบหลักฐานมากมาย เช่น เศษชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์หลายสิบชิ้น เศษชิ้นเนื้อ ฟันมนุษย์สองซี่ นิ้ว 1 นิ้ว และเส้นผมเป็นกระจุกมากกว่า 2,000 กระจุก ซึ่งล้วนแล้วแต่ผ่านการทดสอบว่าเป็นของ Helle นอกจากนี้หน่วยประดาน้ำยังพบเลื่อยที่อยู่ในแม่น้ำ ซึ่งน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตัดร่างของ Helle ก่อนนำเข้าสู่เครื่องย่อยไม้
ในที่สุด:
ตำรวจและทีมอัยการเชื่อว่า Richard ทนไม่ได้ที่ Helle จะฟ้องหย่า Richard วางแผนจะฆ่าเธอโดยเริ่มตั้งแต่การซื้อตู้แช่มาตั้งแต่วันที่ 17 รีบพาลูกๆและพี่เลี้ยงฝ่าพายุหิมะไปบ้านน้องสาวและเช่าเครื่องย่อยไม้เพื่อมาใช้ในวันที่ 19 (วันที่ Helle จะต้องกลับมาบ้าน) ทีมอัยการระบุว่า Richard น่าจะใช้ของแข็งตีเข้าที่หัวของ Helle เอาร่างเธอไปใส่ไว้ในตู้แช่ ก่อนที่จะนำศพเธอไปย่อยสลายข้างแม่น้ำ โดยเครื่องย่อยไม้ Richard ยังเคยบอกน้องเขยของตัวเอง ตอนที่เห็นข่าวนักประดาน้ำไปงมหาศพของ Helle ว่า “ให้พวกเจ้าหน้าที่ดำน้ำหาไปเหอะ หายังไงก็ไม่เจอหรอก เพราะศพนะหายไปแล้ว!”
Richard ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีในที่สุด หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่มัดตัวเขาไว้ไม่หลุดคือ เลื่อยที่เจอในแม่น้ำ ข้างๆบริเวณที่พบชิ้นส่วนของ Helle นั้นเอง ฟันของเลื่อยมีทั้งเศษเนื้อ ผม ของ Helle และยังมีใยผ้าสีน้ำเงิน ซึ่งทีมตำรวจพบว่าเป็นใยผ้าแบบเดียวและสีเดียวกับพรมที่บ้านของ Helle กับ Richard ตัวเลื่อยนั้นแม้จะโดนขูดเอาเลข Serial number ออก แต่เจ้าหน้าที่สามารถกู้เลขดังกล่าวกลับมาได้ และเลขนั้นก็ตรงกันกับใบเสร็จที่ร้านค้าออกให้กับ Richard ในตอนที่เขาไปซื้อเลื่อยดังกล่าว ณ วันที่ 9 มกราคม ปี 1981 หลายปีก่อน Helle หายตัวไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เจอใบเสร็จดังกล่าวตอนไปค้นบ้าน Richard หรอกนะคะ Keith Mayo เป็นคนให้ใบเสร็จดังกล่าวกับตำรวจเอง เพราะตอนที่ Helle จะฟ้องหย่า Richard แล้วจ้าง Keith ให้ตามสืบเรื่องชู้สาวของเขานั้น Helle รวบรวมเอกสารส่วนตัวของ Richard ใส่ลงในกล่องแล้วเอาไปให้กับ Keith เป็นเรื่องน่าทึ่งที่เอกสารดังกล่าว กลายมาเป็นหลักฐานมัดตัว Richard ในที่สุด และมีคำพิพากษาให้ Richard รับโทษจำคุก 99 ปีในคุก ซึ่งก็แน่นอน Richard ยังยืนยันจนถึงทุกวันนี้ว่าตัวเองบริสุทธิ์และไม่ได้เป็นคนฆ่า Helle
ส่วน Keith นั้นหลังจากเรื่องจบ เขาได้ยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนให้สอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ เมือง Newtown ว่าทำไมพวกเจ้าหน้าที่ไม่ทำงานของตัวเอง ความไร้ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก และไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชนชนได้ <<<แจ๋วไหมละคะ
น่าเสียดายที่ Keith จากไปจากอุบัติเหตุรถชนเมื่อมีอายุได้แค่ 40 กว่าปี ไม่งั้นเขาน่าจะทำงานช่วยเหลือคนอื่นได้อีกมากโข
เรื่องของ Helle ยังถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในเรื่องแรกของทีวีซีรี่ชื่อดัง The Forensic File ในชื่อตอนว่า “The Disappearance of Helle Crafts”
โฆษณา