12 มิ.ย. 2020 เวลา 16:45 • ท่องเที่ยว
TRIP #2
ไหว้พระเมืองสายน้ำแห่งมังกร... ฉะเชิงเทรา
ฉะเชิงเทรา หรือ แปดริ้ว อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพนัก การเดินทางสะดวก มีคนจีนอาศัยอยู่มาก จึงมีสถานที่ศักดิ์สิิทธิ์ให้ทั้งคนไทยและคนจีนได้กราบไหว้หลายแห่ง แต่ละแห่งก็เดินทางห่างกันไม่ไกล เรียกว่าเที่ยวกันอย่างสบายๆ แต่ถ้าโอ้เอ้นักก็เดินทางกลับถึงบ้านค่ำหน่อย
ไกด์ตี๋เล็กขอแนะนำสถานที่น่าสนใจเรียงตามลำดับเส้นทางจะได้ไม่เปลืองน้ำมันรถ และแนะนำให้ใช้ GOOGLE MAP นำทาง ผมว่าการแนะนำด้วยข้อความว่าใช้ถนนเส้นใด เลี้ยวยังไง อยู่ตรงไหน คนขับและคนนำทางดูยากครับ ขับตามจีพีเอสไปเลย ถึงแน่นอน กะเวลาได้ด้วยว่าจะถึงกี่โมง จะได้วางแผนการใช้เวลาแต่ละที่ได้ด้วย
เวลาที่ควรออกเดินทางในการไปเที่ยวแต่ละครั้งผมว่าถ้าใกล้อย่างนี้ออกสัก 7 โมงเช้าน่าจะดี เร็วไปก็ต้องตื่นเช้าเร่งรีบเตรียมตัว ออกสายนักเดี่ยวรถติด เอาเป็น 7 โมงล้อหมุนเลยนะครับ
พร้อมแล้วออกเดินทาง.....
ขอให้ท่านและครอบครัวมีความสุขและประทับใจกับการเดินทางในครั้งนี้ครับ...ไกด์ตี่เล็ก
สักการะสังเวชนียสถานจำลอง
แห่งที่ 1 วัดชมโพธยาราม
สักการะสังเวชนียสถานทั้ง 4 ที่ได้จำลองมาจากอินเดีย คือ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน
สามารถนำรถเข้าไปจอดในวัดได้เลย ไม่เสียค่าจอดรถ
เสิร์ช Google MAP คำว่า "วัดชมโพธยาราม"
แห่งที่ 2 วัดโสธรวรารามวรวิหาร
กราบหลวงพ่อโสธร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถหลังใหม่ใช้เงินในการสร้างมากกว่าพันล้าน สวยงามยิ่งใหญ่อลังการ
องค์จริงจะอยู่ในโบสถ์หลังใหม่ สามารถเข้าไปกราบไหว้ได้ แต่ปิดทองไม่ได้
ผู้หญิงหากสวมกระโปรงหรือกางเกงขาสั้น จะมีผ้าคลุมให้ยืมด้านหน้าโบสถ์
คนส่วนใหญ่จะเข้าไปกราบไหว้และปิดทองหลวงพ่อองค์จำลองในศาลาใกล้ๆ กัน
การจอดรถ แนะนำให้ขึ้นไปจอดในอาคารจอดรถของวัดดีกว่า ดูปลอดภัย ไม่เสียค่าจอด แต่อาจจะเต็มในวันหยุดสำคัญ หรือหากท่านเคยไปมาแล้ว แนะนำให้เลี้ยวตรงศาลาหลังเก่าทางขวามือ เข้าไปจอดด้านหลังใกลักับศาลเจ้าก็ได้ ลานกว้าง ไม่เสียเงินเช่นกัน
แห่งที่ 3 เจ้าแม่กวนอิมลอยน้ำ สถานสงเคราะห์การกุศล ฉะเชิงเทรา
วันหนึ่งได้รับแจ้งเหตุพบศพคนตายลอยน้ำมาติดริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง เจ้าหน้าที่รีบรุดไปตามจุดที่แจ้ง ไม่พบศพคนตายแต่กลายเป็นองค์เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ ทำด้วยเซรามิค เมื่อนำขึ้นจากน้ำมา เป็นที่น่าแปลกที่น้ำหนักขององค์เจ้าแม่หนักไม่น้อยกว่า 40 ก.ก. แต่ไฉนถึงลอยน้ำได้ แล้วลอยมาจากไหน ไม่มีใครเห็นเลยหรือ จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่สถานสงเคราะห์ฯ
ซึ่งมีผู้คนมากราบไหว้ขอพรแล้วได้ดังที่บนบานขอกันมาก จึงเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มาก
การจอดรถ สามารถจอดรถได้ภายในบริเวณสถานสงเคราะห์ได้เลย ไม่เสียค่าจอด
แห่งที่ 4 วัดอุภัยผาติการาม
กราบไหว้หลวงพ่อโต ซำปอกง
ขับรถตรงมาอีกประมาณไม่ถึงกิโล ก็จะถึง วัดอุภัยผาติการาม ซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อโต (ซำปอกง) ซึ่งมีอยู่สามองค์ในประเทศไทย คือที่ วัดพนัญเชิญ อยุธยา วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ และที่วัดแห่งนี้
สามารถจอดรถได้ในบริเวณวัดได้เลย
แห่งที่ 5 วัดจีนประชาสโมสร (เล่งฮกหยี่)
ขับรถตรงมาจากวัดอภัยผาติการามอีกประมาณ 1 กิโล ก็จะถึง วัดจีนประชาสโมสรนี้ ชื่อวัดนี้ได้รับพระราชทานนามจากรัชกาลที่ 5
กล่าวกันว่าประเทศไทยมีฮวงจุ้ยที่ดีดังเป็นมังกร โดยหัวของมังกรอยู่ที่กรุงเทพฯ คือที่ตั้ืงของวัดเล่งเน่ยยี่ เยาวราช ส่วนท้องของมังกรคือที่วัดเล่งฮกยี่แห่งนี้ ส่วนที่เป็นหางมังกรคือ วัดมังกรบุปผาราม (เล่งฮัวหยี่) จันทบุรี
ที่วัดเล่งฮกยี่นี้ ท่านสามารถซื้อธูปเพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ หนึ่งมัดที่ได้มา ท่านจะจุดแล้วไปไหว้แต่ละจุดที่มี ซึ่งเป็นการวัดดวงว่าท่านจะโชคดีหรือไม่ โดยดูว่าธูปที่ได้มานั้นสามารถปักได้ครบทุกจุดที่กำหนดหรือไม่ (เรื่องนี้ทางวัดไม่ได้กำหนด แต่มีไกด์คนไหนไม่รู้ริเริ่มก็เลยเป็นการเอาอย่างกันไป)
สิ่งสำคัญในวัดนี้ที่ท่านจะพลาดไม่ได้คือ
เทพประจำทิศทั้งสี่ที่ตั้งอยุ่หน้าประตูด้านในทั้งซ้ายและขวา ภายในสานเป็นไม้ไผ่และปิดกระดาษ (เปเปอร์มาเช่) นำมาจากเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน น้ำหนัก 50 ก.ก.
กราบขอพรจากเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไช่ซิงเอี้ย) โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของวัดช่วยแนะนำว่าควรจะไหว้ยังไง นำกระเป๋าตังค์ไปรองรับโชคลาภกลับไปยังไง เมื่อขอพรแล้ว ให้ไปตีระฆังมงคลที่ตั้งอยู่ตรงข้้าม
กราบพระสำเร็จ คืออดีตเจ้าอาวาสของวัดนี้ สองรูปที่มรณภาพโดยนั่งสมาธิละสังขารไปและสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย โดยสังขารจริงจะอยุ่ในตู้กระจก ทางวัดได้จำลองไว้ทีหน้าตู้กระจกเพื่อให้คนได้ปิดทอง ขอพรกันได้
กราบเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้สักอายุกว่าสองร้อยปี ซึ่งจะมีมังกรอยุ่ที่ฐาน ทางวัดจะมีเจ้าหน้าที่แนะนำว่าถ้าาลูบตรงไหนจะช่วยบันดาลทางด้้านใดบ้าง
การจอดรถ สามารถจอดรถได้ในบริเวณวัด ไม่เสียค่าจอดรถ
แห่งที่ 6 ตลาดร้อยปี บ้านใหม่ (ฮอลลี่วู้ดเมืองไทย)
ตลาดบ้านใหม่ เป็นชุมชนเก่าแก่ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำบางปะกงมานับร้อยปี เป็นเรือนไม้สองชั้นยาวตลอดริมแม่น้ำ โดยจะมีตลาดบนกับตลาดล่าง หรือบางคนเรียกตลาดใหม่ กับตลาดเก่า
เป็นที่พักอาศัยของคนในชุมชน เปิดร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ เดิมตลาดนี้เงียบเหงาลงไปเพราะลูกหลานเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ หรือถิ่นอื่นๆ เมื่อมีการฟื้นฟูอนุรักษ์วิถีชุมชน ทำให้ตลาดแห่งนี้ฟื้นขึ้นมาอย่างคึกคัก ทุกเสาร์อาทิตย์และวันหยุดจะมีคนมาเที่ยวกันมากมาย
ท่านสามารถเดินเที่ยวชมบ้านเก่า ชม ชิมและะเลือกซื้อสินค้า ของกิน ขนม ของที่่ระลึกต่างๆ ได้ตลอดทางเดินยาวกว่ากิโล หรือจะแวะทานอาหารกลางวันที่ตลาดนี้เลยก็ได้ เพราะได้เวลาพอดี มีร้านอาหารที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ "ร้านป้าหนู" มีอาหารอร่อยหลายอย่าง แต่คนจะเยอะมาก ต้องรอโต๊ะและรออาหารพอสมควร แต่ถ้าอยากลองชิมแล้ว รอนิดหน่อยก็ทำให้ความอยากมีมากขึ้น ขอแนะะนำ ก๋วยเตี๋ยวปลากะพง
ไม่ค่อยได้เห็นที่ไหนมาก่อน
ยังมีร้้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารตามสั่งสามอนงค์เตาถ่าน กุ้ยช่ายก็อร่อย ขนมอะลอจี้ รู้จักกั้นมั้ยครับ
แต่ผมมักจะไปกินขนมผัดกาดที่หน้าตลาด อร่อยดี มีบางคนซื้อเฉพาะแป้งกลับบ้านไปทำเองที่บ้านก็มี
คนจะเยอะมาก เวลาเดินก็ต้องระมัดระวังทรัพย์สินของท่านด้วยนะครับ
ตลาดบ้านใหม่อยู่ก่อนถึงวัดจีนประชาสโมสร เมื่อท่านจอดรถไหว้พระที่วัดแล้ว สามารถเดินมาเที่ยวที่ตลาดนี้ก่อน แล้วค่อยย้อนกลับไปขึ้นรถที่วัดก็ได้ เพราะแถวตลาดไม่มีที่จอดรถ นอกจากบางท่านนำรถเข้าไปจอดในวัดเทพนิมิตร (วัดนี้มีพระนอนที่ประดับด้วยกระจกสีสวยงาม และเคยถ่ายทำเรื่องแม่นาค ฉบับทราย เจริญปุระ)
แห่งที่ 7 วัดสมานรัตนาราม
วัดสมานรัตนาราม เป็นวัดที่ได้รับการพัฒนาจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนมาเที่ยวกันมากในทุกๆ วัน
ท่านจะได้กราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ทุกองค์ในวัดเดียว ไม่ว่าจะเป็นพระพิฆคเนศวร์ หลวงพ่อโสธรองค์จำลอง ราหูองค์โต พระศิวลี เจ้าแม่กวนอิม เรียกว่ามีทุกเทพแหละ ไปที่เดียวไหว้ครบ
เรื่องการจอดรถไม่ต้องห่วง มีพื้นที่ให้จอดรถมากมาย มีตลาดขายของฝากด้วย
แห่งที่ 8 วัดหัวสวน (โบสถ์สแตนเลสทั้งหลัง)
วัดหัวสวน อยู่ไม่ไกลจากวัดสมานฯ ใช้ถนนสาย 304 ตัววัดอยู่ริมถนนทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าซอยไปไม่ไกลก็ถึงวัด
เป็นวัดเล็กๆ ตัวพระอุโบสถบุด้วยสแตนเลสทั้งหลัง เมื่อต้องกับแสงแดดทำให้เกิดแสงระยิบระยับ ดูสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง
ภายในอุโบสถมีพระประธานที่สวยงาม และกำแพงภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังที่ใช้วิธิแอร์บัช พ่นสีเป็นภาพสวยงาม (เหมือนลายภาพข้างรถบัสพัดลม)
แห่งที่ 9 วัดโพธิ์บางคล้า (ค้างคาวแม่ไก่นับพันตัว)
กราบศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
วัดโพธิ์ บางคล้า จะอยุ่ในตัวเมืองบางคล้า มีป้ายบอกตลอดทาง ที่วัดแห่งนี้ตามประวัติศาสตร์ว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินได้มาพักทัพอยู่ที่วัดแห่งนี้ เมื่อตอนยกทัพหนีออกจากอยุธยามา
จึงมีศาลหรือวิหารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายในประดิษฐานรูปปั้นของพระองค์
ภายในวัดจะมีค้างคาวแม่ไก่มาอาศัยอยุ่บนต้นไม้ทั่วบริเวณวัด แต่ละตัว ตัวใหญ่ บางทีดูก็น่ากลัว ที่น่ากลัวกว่าคือ เวลาเดินผ่านให้ระวังให้ดีจะโดนขี้ค้างคาวตกใส่หัวพอดี
ค้างคาวแม่ไก่นี้ก็แปลก ชาวบ้านบอกว่า ทุกวันมันก็จะออกบินไปหากินทีอื่น ทั้งที่บางคล้า มีชื่อเสียงเรื่องมะม่วง แต่ค้างคาวนี้ไม่เคยมากัดกินมะม่วงของชาวบ้านเลย และเวลามีงานประจำปี ค้างคาวพวกนี้ก็จะไปอยุ่ที่อื่น จนเมื่องานจบถึงกลับมา และมีเรื่องเล่าว่า เมื่อตอนอดีตเจ้าอาวาสท่านได้มรณภาพ ค้างคาวที่ออาศัยเกาะกิ่งไม้ ก็จะดูสงบเงียบ มีหลายตัวที่ตกลงมาตาย
สามารถจอดรถได้ที่ลานจอดรถหน้าวัด
แห่งที่ 10 วัดปากน้ำโจโล้ (พระอุโบสถสีทองทั้งหลัง)
แห่งที่ 10 ชมโบสถ์สีทองอร่ามสวยงามยิ่ง
วัดปากน้ำโจโล้ อยู่ไม่ไกลจากวัดโพธิ์ ตั้งอยุ่ริมแม่น้ำบางปะกง สิ่งน่าสนใจของวัดนี้คือพระอุโบสถที่ทางสีทองอร่ามทั้งภายในและภายนอก สวยงามยิ่งนัก วัดนี้เดิมเป็นที่ตั้งของกองทัพพม่า เมื่อพระเจ้าตากสินได้ยกทัพมา สามารถมีชัยจนไล่กองทัพพม่าไปได้ พระเจ้าตากสินจึงได้สร้างเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์ ปัจจุบันวัดนี้ได้รับการบูรณะได้สวยงาม น่าไปชมยิ่ง
การจอดรถ จอดได้ภายในวัดได้สะดวกสบาย กว้างขวางพอ
แห่่งที่ 11 ร้านของฝาก ตั้งเซ่งจั้ว
ขากลับจากวัดปากน้ำโจโล้ จะต้องผ่าน ร้านตั้งเซ่งจั้ว ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องขนมเปี๊ยะ มีหลายรสหลายแบบให้ท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝาก เค้ามีให้ท่านได้ลองชิมดูก่อน ถูกใจแล้วเลือกซื้อหากันได้
สำหรับอาคารร้านค้านี้ก็มีความสวยงามในสไตล์แบบจีน
สามารถชมข้อมูลของร้านนี้ได้ที่
การจอดรถ สามารถจอดริมถนนสาย 304 บริเวณหน้าร้านได้เลย
โฆษณา