11 มิ.ย. 2020 เวลา 06:43 • กีฬา
ซิโต้ มิญญังโก เจ้าพ่อค้ายาแห่งสเปนที่มีปาโบล เอสโกบาร์ เป็นไอดอล ถึงขั้นทำทีมฟุตบอลแบบเอสโกบาร์
ลูกชาวประมง เจ้าพ่อค้ายา เจ้าของทีมฟุตบอล ทั้งหมดคือสิ่งที่ชายผู้นี้เป็น ชีวิตของเขาสามารถเป็นทั้งหมดนี้ได้อย่างไร เชิญติดตามได้เลยครับ
ปาโบล เอสโกบาร์ ราชายาเสพติดแห่งโคลอมเบีย นอกเหนือจากเรื่องราวในมุมมืดของเขาแล้ว อีกมุมหนึ่งของเขาคือ ‘ผู้ให้’สำหรับผู้คนในเมืองเมเดยิน เขาสร้างโรงพยาบาล โรงเรียน ที่อยู่อาศัยให้ผู้คนในเมืองนั้น ไม่ว่าสิ่งต่างๆ ที่เขาทำนั้นจะหวังผลประโยชน์อะไรแอบแฝง แต่สำหรับคนในเมืองเมเดยินแล้ว เขาเป็นดั่งพระเจ้าที่ประทานสิ่งต่างๆ แก่พวกเขา
นอกเสียจากเงินทอง หรือสิ่งก่อสร้างต่างๆแล้ว เขายังสนับสนุนทีมฟุตบอลอีกสองทีมอย่าง แอตเลติโก นาซิอองนาล และ เดปอร์ติโบ เมเดยิน แม้ว่าเงินที่เขาทุ่มลงไปในฟุตบอลนั้น จะเป็นอีกหนึ่งหนทางในการฝอกเงินของเขา แต่ทว่ามันได้สร้างให้ทีมของเขาประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะ นาซิอองนาล ที่ทยานสู่บัลลังแชมป์ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ในปี 1989
อีกทั้งเงินที่เขาทุ่มลงไปในฟุตบอล ยังงอกงามไปถึงการสร้างนักเตะระดับสตาร์มากมาย ที่ก้าวขึ้นมา เป็นขุมกำลังสำคัญที่พาโคลอมเบียไปฟุตบอลโลกปี 1994 อย่าง เรเน่ ฮิกิต้า , อันเดรส เอสโคบาร์ และ คาร์ลอส วัลเดอราม่า ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุครุ่งเรืองของฟุตบอลโคลอมเบียนั้น ล้วนมีส่วนมาจากเงินในธุกิจสีเทาของเอสโกบาร์ และแก๊งค์ค้ายาเสพติดอิ่นๆ ที่เข้าไปเกี่ยวพันกับทีมฟุตบอลในโคลอมเบีย
ทว่าอีกซีกโลกหนึ่ง ณ เมืองกัมบาโดส แคว้นกาลิเซีย ประเทศสเปน เมืองชายฝั่งทะเลแห่งนี้ ได้กลายเป็นศูนย์กลางนำเข้าโคเคน ที่แพร่กระจายมายังยุโรปในช่วงปลายยุค 80 ซึ่งมาจากน้ำมือของชายที่มีชื่อว่า โฆเซ รามอน ปราโด หรือ ‘ซิโต้ มิญญังโก’
ไม่เพียงเท่านั้นหลายสิ่งหลายอย่างที่ชายผู้นี้ทำ ได้คล้ายคลึงกับสิ่งที่ปาโบล เอสโกบาร์ ทำอย่างน่าคิดตามว่า เขาเรียนแบบเอสโกบาร์หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามทำให้ตนเองมีภาพลักษณ์ที่ดี สร้างและให้หลายสิ่งหลายอย่างกับผู้คนในเมือง อีกทั้งยังเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลตามแบบเอสโกบาร์อีกเสียด้วย
ซิโต้ เกิดที่เมืองกัมบาโดส ในครอบครัวที่มีอาชีพเป็นชาวประมง ทำให้เขานั้นช่ำชองในเรื่องการขับเรือเป็นที่สุด ทว่าความสามารถในการขับเรือของเขานั้น กลับเป็นหนทางให้เขาเข้าสู่โลกธุรกิจสีเทา โดยเริ่มจากลักลอบขนบุหรี่ผิดกฎหมาย เขาทำงานนั้นอยู่พักใหญ่ก่อนจะถูกตำรวจจับได้ในที่สุด ทำให้เขาต้องเข้าไปอยู่ในคุกเป็นเวลานานถึงแปดเดือน ชีวิตในคุกนั้นไม่ได้ทำให้เขาสำนึกผิดแต่อย่างใด แต่กลับกลายเป็นว่าการถูกจับครั้งนั้น ทำให้เขาได้พบกับหนทางครั้งใหม่ในโลกธุรกิจสีเทา
เขาได้รู้จักกับชายชาวโคลอมเบีย ที่เป็นหนึ่งในแก๊งค์เมเดยินของปาโบล เอสโกบาร์ และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจใหม่ของเขา หลักจากออกจากคุกเขาเริ่มธุรกิจนั้นในทันที โคเคนที่ถูกลักลอบนำเข้าสู่สหรัฐอเมริกา ทำเงินได้หลายล้านดอลลาร์ให้เอสโกบา พวกเขายินดีที่จะขยายธุรกิจไปยังยุโรป และกาลิเซียก็เป็นทางผ่านที่ดี ในการนำเข้าโคเคนจำนวนมากสู่ดินแดนยุโรป ซิโต้เริ่มลักลอบขนโคเคนเข้าสู่เสปน ก่อนจะแพ่กระจายไปยังหลายประเทศในยุโรป ธุรกิจของเขาโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซิโต้ ทำเงินได้อย่างมหาศาลจากการนำเข้าโคเคนสู่ยุโรป เงินสกปรกจำนวนมากจำเป็นจะต้องได้รับการทำให้มันกลายเป็นเงินที่ได้มาอย่างถูกกฎหมาย ซิโต้ต้องการฟอกเงินพวกนั้น และสโมสรฟุตบอลก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวในการนำเงินมาลงทุน เพื่อแปลเปลี่ยนเงินเหล่านั้นให้กลายมาเป็นเงินที่ขาวสะอาด
ฟุตบอลคือสิ่งที่เขาฝันมานาน วัยเด็กเขาเคยฝันอยากจะเป็นนักฟุตบอล แต่เขาไม่สามารถเดินตามฝันนั้นได้ แต่ในวันนี้เขามีเงินมหาศาลและมันมากพอที่จะซื้อฝันเล็กๆให้ตัวเอง การเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลจึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นไม่น้อย ที่จะเติมเต็มความฝันให้แก่ตัวเขาเอง อีกทั้งฟุตบอลยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเขาต่อสายตาผู้คนในเมืองเสียด้วย ซิโต้ในวัย 31 ปี เข้าซื้อทีม ยูเวนตุส กัมบาโดส (Juventud Cambados) ทีมเล็กๆ ในเมืองกัมบาโดส บ้านเกิดของเขา ซึ่ง ณ ตอนนั้นทีมของเขาอยู่ใน Regional Preferred ลีกระดับที่ 5 ของสเปนเท่านั้น
“เขาตื่นเต้นมากที่ได้เป็นประธานสโมสรฟุตบอลในเมืองของเขา เขายังรู้ด้วยว่าวิธีนี้เขาจะได้รับความเคารพจากผู้คนที่นั่น และภาพลักษณ์ที่ดียิ่งขึ้น” นาโช่ คาร์เรเตโร่ ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวของซิโต้กล่าว
เขาทุ่มเงินอย่างหนักหน่วงเพื่อให้สโมสรแห่งนี้ ไปอยู่ในลีกระดับที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาต้องการเปลี่ยนยูเวนตุส กัมบาโดส จากทีมเล็กๆ ในเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรอยู่เพียง 13,000 คน ให้ก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในแคว้นการิเซียได้อย่าง เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา และเซลต้า บีโก้
บ้านของเขาอยู่ติดกับสนามของทีม เมื่อมีเกมการแข่งขันเขามักจะเดินไปยังสนามพร้อมกับเหล่าแฟนบอล เพื่อไปดูทีมที่พวกเขารัก เขาทำตัวเองให้เป็นที่รักของผู้คนในเมือง เป็นคนจิตใจดี เป็นผู้ให้
“คุณจะต้องเห็นเขาที่นั่นบนอัฒจันทร์ในชุดสูทสีขาวของเขา ที่ลายล้อมไปด้วยผู้คนที่รักเขา” ตัวแทนตำรวจบอกกับ El Español “จากนั้นคุณจะเห็นเขาลงไปที่ห้องล็อกเกอร์เพื่อทักทายผู้เล่นของเขา ผมจำได้ทุกรายละเอียด” คำบอกเล่าของตำรวจ ที่เล่าถึงซิโต้กับทีมฟุตบอลของเขา
เขาซื้อรถบัสคันใหม่ให้กับทีม จ้างหมอนวดประจำทีม มีลูกบอลใหม่เอี่ยม และเสนอเงินเดือนมหาศาล พร้อมกับโบนัสอีกมากมาย เพื่อดึงดูดใจให้ผู้เล่นฝีเท้าดีมาสู่ทีม เขามักจะมาพร้อมถุงพลาสติกสีดำที่มีเงินสดอยู่เต็มถุง เขาชื้อทุกอย่างด้วยเงินสดที่เขาได้มันมาจากการขายโคเคน
“มันเหมือนกับการเผชิญหน้ากับเรอัล มาดริด” ผู้เล่น Vista Alegre คนหนึ่งกล่าว “ไม่มีทีมไหนเป็นแบบพวกเขา พวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม ผมจำได้ว่าไปเล่นที่นั่นในกัมบาโดส พวกเขามีรองเท้าใหม่เอี่ยม พวกเขาได้เซ็นสัญญาผู้เล่นที่เล่นระดับดิวิชั่นสอง ผู้เล่นของพวกเขาสัมผัสลูกบอลกันได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีใครเล่นแบบนั้น พวกเขาเป็นผู้เล่นที่น่าทึ่ง มันเป็นอีกระดับกับทีมของเรา”
พวกเขาใช้เวลา 3 ปีในการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ เซกุนด้า บี ลีกระดับที่ 3 ของสเปนในปี 1989 ก่อนที่ฤดูกาลใหม่ในเซกุนด้า บี จะเริ่มขึ้น พวกเขาเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมในช่วงพรีซีซั่นที่ปานามา และเวเนซุเอลา พร้อมกับมีเกมอุ่นเครื่องกับสโมสรท้องถิ่นในประเทศนั้นๆ พวกเขาออกทัวร์ช่วงพรีซีซันราวกับว่าเป็นทีมในระดับลาลีก้า
เงินจำนวนไม่น้อยที่ซิโต้จ่ายไปเป็นค่าเดินทาง ค่ากินอยู่อย่างหรูหรา ให้กับทีมของเขาในการพรีซีซั่น แบบที่ไม่เคยมีทีมไหนในระดับเซกุนด้าทำได้อย่างพวกเขา ไม่เพียงเท่านั้น ซิโต้ยังจ่ายเงินในการสร้างสนามใหม่ ที่มีพื้นสนามที่เต็มไปด้วยหญ้าสีเขียวสวยงาม ต่างจากเดิมที่พื้นสนามแทบจะมีแต่ดิน เพื่อเป็นรังเหย้าของพวกเขาสำหรับใช้แข่งในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง
เงินจำนวนไม่น้อยที่เขาทุ่มลงไปกับทีมของเขา สร้างทีมจากระดับสมัครเล่นจนเข้าสู่ลีกอาชีพ และวันที่พวกเขาไม่มีทางลืมได้ลงก็คือ การมีโอกาสได้เล่นใน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว จากการบุกไปเยือน เรอัล มาดริด กาสตีย่า เรียกได้ว่าพวกเขามาไกลแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว ซึ่งมันก็เป็นเพราะเงินสกปรกจำนวนมาก ที่ซิโต้ทุ่มมันลงมาสู่ทีม เพื่อแปลเปลี่ยนเงินเหล่านั้นให้เป็นเงินสะอาดนั่นเอง
แต่ทว่ายิ่งธุรกิจของซิโต้ใหญ่ขึ้นเท่าใด เขาก็ยิ่งกลายเป็นอาชญากรตัวร้ายมากขึ้นเท่านั้น โคเคนจำนวนหลายตันที่ถูกลักลอบขนเข้ามาในสเปน กระจายไปยังหลายประเทศในยุโรป ได้ทำลายผู้คนนับหมื่นนับแสนคนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยานรกนั้น เขาถูกหมายหัวจากตำรวจสเปน และยุโรป เพื่อยุติปัญหานี้เสียที ก่อนที่มันจะรุกรามไปสู่คนจำมากกว่านี้
 
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นโลกสมมุติในภาพยนตร์ หรือโลกแห่งความจริงก็ตาม ตัวร้ายไม่อาจสามารถอยู่รอดจนถึงตอนจบได้อย่างมีความสุข เฉกเช่นเดียวกันกับชีวิตของซิโต้ เขาไม่อาจรอดพ้นการจับกุมของตำรวจได้ ซิโต้ถูกจับได้ในปี 1990 จากกการพยายามลักลอบขนโคเคน 2.5 ตันในสเปน เป็นจุดจบของตัวร้ายทุกตัวที่ไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะจบด้วยการถูกจับ หรือจบด้วยความตาย ที่สุดท้ายแล้วพวกเขาไม่อาจหนีพ้นได้ ไม่ว่าวันใดก็วันหนึ่งจุดจบนั้นก็ต้องมาถึงในสักวัน
และการถูกจับของซิโต้นั้นทำให้ยูเวนตุส กัมบาโดส ผลงานจมลงเลื่อยๆ เมื่อเงินจำนวนมหาศาลที่เคยมีนั้นหายไปจากการถูกจับของซิโต้ ทำให้พวกเขาสามารถยืนหยัดในเซกุนด้า บี ได้เพียงสามฤดูกาล ก่อนจะตกชั้นไปในที่สุด เท่านั้นยังไม่พอผลงานของทีมนั้นมีแต่จะจมลงเลื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันพวกเขาตกไปอยู่ในลีกระดับที่ 7 ของสเปน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ยูเวนตุส กัมบาโดส สามารถก้าวขึ้นไปถึงเซกุนด้า บี ได้ ก็เพราะเงินสกปรกของซิโต้ ที่เขาทุ่มมันลงมาสู่สโมสรแห่งนี้ เพื่อเป็นหนทางหนึ่งในการฟอกเงิน ไม่ว่าเขาจะรักฟุตบอลจริงๆ หรือเพียงแค่ต้องการเรียนแบบปาโบล เอสโกบาร์ แต่ทว่าเงินที่ได้มาอย่างสกปรกนั้น มันเป็นเงินที่เพียงแต่รอวัน ที่มันจะสลายหายไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง
เงินเหล่านั้นอาจจะมากซะจนชวนให้หลงไหลที่จะได้ครอบครองมัน แต่เชื่อเถอะครับ ว่าเงินสกปรกเหล่านั้นต่อให้มีมันมากเท่าไหร่ ก็ไม่อาจใช้มันได้อย่างมีความสุข
Writer : ฐกฤต กล่ำพันธ์ดี
#ฟุตบอล
โฆษณา