11 มิ.ย. 2020 เวลา 12:19 • ปรัชญา
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี
บทเรียนจากผู้นำในสามก๊ก
เตียวหุย
เล่าปี่แม้จะรู้แจ้งกระจ่างในกลอุบายของโจโฉ แต่ก็ยินยอมทำตามอุบายยกทัพไปรบกับอ้วนสุด
การจะยกทัพไปรบกับอ้วนสุดนั้นจำเป็นจะต้องมี
ผู้อยู่ดูแลรักษาเมืองชีจิ๋ว กวนอูขออาสารับหน้าที่
รักษาเมืองชีจิ๋ว เล่าปี่ไม่เห็นด้วยเพราะกวนอูเป็น
ทั้งที่ปรึกษา และทหารเอกในกองทัพชอบที่จะ
ตามเล่าปี่ไปด้วย ทุกคนในที่ประชุมต่างเงียบสงบ
จ้องมองหน้ากัน เตียวหุยเห็นได้ทีจึงกล่าวขึ้นด้วย
เสียงอันดังว่า ในเมื่อพี่ใหญ่กับพี่รองไม่อยู่ข้าจะ
ขอทำหน้าที่รักษาเมืองเอง กวนอูส่ายหน้าแย้งว่า
น้องเล็กเจ้ามักเสพสุราพาเพลินให้ทำงานใหญ่
่รักษาเมืองนั้นไม่ได้ เตียวหุยจึงว่าหากพี่ใหญ่กับ
พี่รองยังไม่สบายใจ ไม่ไว้ใจในตัวข้าจะขอทำสัญญาว่าข้าจะงดดื่มสุราตลอดระยะเวลาที่
เตียวหุยบังคับโจป้าดื่มสุรา
รักษาเมืองชีจิ๋ว เล่าปี่เห็นท่าทีเตียวหุยยืนยัน
ขันแข็งก็ไม่อยากขัดใจ ยินยอมให้เตียวหุยรักษา
เมืองชีจิ๋ว โดยมีตันเต๋งเป็นผู้ช่วยว่าราชการ
เตียวหุยดีอกดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่นชิ้นใหญ่
คำนับขอบคุณเล่าปี่ ก่อนเล่าปี่จะเคลื่อนทัพก็
กำชับกับเตียวหุยว่าน้องเล็กเจ้าจงตั้งใจรักษา
เมืองอย่าได้ดื่มสุราเมามายเป็นอันขาด เตียวหุย
ก็รับปากเล่าปี่ ว่าพี่ใหญ่จงวางในในตัวข้าเถิด
เมื่อเล่าปี่ กวนอูยกทัพไปรบกับอ้วนสุด เตียวหุย
แต่งตั้งให้ตันเต๋งดูแลขุนนางฝ่ายพลเรือน
เตียวหุยดูแลขุนนางฝ่ายทหาร เตียวหุยแรกๆเมื่อ
ทำหน้าที่รักษาเมืองชีจิ๋วก็งดดื่มสุราตามสัญญาที่
ให้ไว้กับเล่าปี่ แต่เมื่อคืนวันผ่านไปความอยากก็มากขึ้น เตียวหุยอยากดับกระหายความอยาก
ตั้งใจว่าจะจัดงานปาร์ตี้สักคืนหนึ่งหลังจากว่าง
เว้นไปนาน จึงจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ข้าวปลา
อาหาร สุรามากมายเลี้ยงดูขุนนางในเมืองชีจิ๋ว
ในงานปาร์ตี้คืนนั้นเตียวหุยเมาปลิ้นด้วยฤทธิ์สุรา
เดินชนจอกกับขุนนางคนแล้วคนเล่า จนมาถึง
โจป้าเตียวหุยรินสุราใส่จอกให้โจป้าดื่ม โจป้า
ไม่อยากดื่มแต่ก็ขัดมิได้จึงจำใจดื่ม เตียวหุยก็
เดินชนจอกกับขุนนางคนแล้วคนเล่าจนมาถึง
โจป้าอีกครั้งหนึ่ง โจป้าจอกแรกไม่เป็นไรจอก
ต่อไปไม่เอาแล้ว จึงกล่าวปฏิเสธเตียวหุยว่า
โจป้าขอร้องเตียวหุย
ข้าแก่แล้วอย่าให้ดื่มอีกเลย เตียวหุยบังคับ
เพียงใด โจป้าก็ไม่ดื่มเตียวหุยหงุดหงิดจึงสั่ง
ทหารให้เอาตัวโจป้าไปโบย โจป้าอ้อนวอนขอร้อง
เตียวหุยว่า หากท่านไม่เห็นแก่ข้าไม่เป็นไร แต่จง
เห็นแก่หน้าลูกเขยข้าเถิด เตียวหุยถามว่าผู้ใดเป็นลูกเขยท่าน โจป้าจึงว่าลิโป้คือลูกเขยของข้า
เตียวหุยเมื่อได้ยินชื่อลิโป้ก็โกรธสุดขีด จึงว่า
ตอนแรกข้าว่าจะล้อท่านเล่น แต่เมื่อท่านขู่ข้า
ด้วยลิโป้เช่นนี้ก็ถูกโบยเสียเถิด แล้วสั่งทหารให้
นำตัวโจป้าไปโบยร้อยที โจป้าถูกโบยเพียง
ห้าสิบทีก็สลบไป ขุนนางต่างพากันร้องขอชีวิต
โจป้า เตียวหุยเกรงใจจึงสั่งให้หยุดโบย โจป้า
เมื่อตื่นขึ้นก็โกรธเตียวหุยมากเขียนหนังสือไปฟ้อง
ลิโป้ที่เมืองเสียวพ่ายให้ยกทัพมายึดเมืองชีจิ๋ว
ลิโป้
โดยโจป้าจะทำการอยู่ข้างใน ลิโป้เมื่ออ่านหนังสือ
ของพ่อตาก็โกรธยกทัพไปเมืองชีจิ๋ว โจป้าเปิด
ประตูให้ลิโป้พาทหารเข้าไปยึดอย่างง่ายดาย
ขณะลิโป้พาทหารเข้าไปในเมืองเตียวหุยกำลัง
มึนเมารู้ตัวเมื่อสาย เมืองชีจิ๋วถูกลิโป้ยึดเรียบร้อย
เตียวหุยพาทหารสิบหกคนหนีไปหาเล่าปี่ เล่า
ความทั้งปวงให้เล่าปี่ฟัง กวนอูจึงว่าครอบครัวของพี่ใหญ่ล่ะ เตียวหุยร้องไห้สะอึกสะอื้นบอกว่าอยู่
1
ข้างในเมือง เล่าปี่ยืนสงบนิ่ง เตียวหุยทั้งเกรงใจและละอายใจที่ผิดสัญญาทำได้เพียงร้องไห้
เตียวหุยชักกระบี่จะเชือดคอ เล่าปี่ กวนอูเข้าห้ามไว้ แล้วว่าไม่เป็นไรน้องเล็ก ข้าไม่ถือโทษหรอก
เตียวหุยสารภาพผิด
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
การดื่มสุราของมึนเมา ย่อมผิดศีลห้าข้อหนึ่ง
แต่การผิดศีลข้อนี้มีโทษใหญ่หลวงกว่าศีล
ข้ออื่นยิ่งนัก เพราะหากผิดศีลข้อนี้แล้วก็จะขาดสติ ทำให้ผิดศีลอีกสี่ข้อได้อย่างง่ายดาย ศีลห้า
ยังรักษาไม่ได้ชีวิตนี้จะมีความสุขได้อย่าง
ดังนั้นควรคิดพิจารณาให้ดีต่อการดื่มสุรานะครับ
ขอบคุณเนื้อหาบางตอนจาก
สามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน)
สามก๊กฉบับนายทุน
ขอบคุณภาพประกอบเนื้อหาจาก
สามก๊ก 1994
ถ้าชอบก็กดไลค์ 👍 ถ้าใช่ก็กดแชร์ 🔄 แต่ถ้าอยากดูแลกันอย่าลืมกดติดตามนะครับ 💓
โฆษณา