11 มิ.ย. 2020 เวลา 13:54 • ข่าว
ละคอนถาปัดจุฬากับตั้วศรัณยู
Cr.คมชัดลึก
เมื่อวาน(10ตค63)ได้ทราบข่าวตั้ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง เสียชีวิตด้วยมะเร็งตับก็รู้สึกใจหาย แม้ผมจะไม่ได้รู้จักตั้วเป็นการส่วนตัว แต่ก็เป็นแฟนละครถาปัดจุฬาฯ ตั้งแต่ตั้วเริ่มแสดงในขณะเป็นนิสิตปี 2522 เพราะผมเข้าเรียนที่จุฬาฯในปี2521
ละครถาปัดจุฬาฯเริ่มมีขึ้นในปี 2517 โดยนิสิตคณะสถาปัตย์จุฬาฯ ชั้นปีที่ 3 ขึ้นชั้นปีที่ 4 จะเป็นแม่งานหลัก เป็นกิจกรรมที่โดดเด่นมากของคณะหลังจากยุค “ลูกทุ่งถาปัด” ผมได้มีโอกาสชมละครถาปัดในช่วงปี 2519-2527 ขณะที่กำลังเรียนอยู่ที่รร.เตรียมอุดมศึกษา ต่อเนื่องคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ เป็นกิจกรรมอันดับ 1 ในดวงใจของผมทีเดียวในขณะที่เรียนอยู่ในรั้วจามจุรี จนเมื่อจบไปทำงานแล้วและในวัยเกษียณก็ยังมีโอกาสกลับมาชม “ละครถาปัด”เมื่อเร็วๆนี้และก็ประทับใจในความตลกแบบ “สุภาพ สะอาด และใช้ความคิด”เหมือนเดิม
ในยุคแรกๆมีนิสิตจุฬาฯที่ร่วมในละครถาปัดและเติบโตมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงมากมาย อาทิเช่น ปัญญา นิรันดร์กุล ศรัณยู วงศ์กระจ่าง ประภาส ชลศรานนท์ ภิญโญ รู้ธรรม และกลุ่มซูโม่สำอางค์ทั้งหมด เป็นความยิ่งใหญ่ของคณะๆหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่สามารถจัดกิจกรรมและมีศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่ในสาขาวิชาชีพที่คณะจัดสอน
ละครถาปัดจุฬาฯ มีเอกลักษณ์มหัศจรรย์เป็นของตนเอง คือไม่ต้องพึ่งพาความมีชื่อเสียงของนักแสดง ไม่พึ่งพาอุปกรณ์แสงสีเสียงที่ยิ่งใหญ่อลังการ ไม่พึ่งพาสถานที่ใดๆ ในยุคแรกแสดงใต้ถุนตึกไม่ติดแอร์ตามมีตามเกิดด้วยซ้ำ
แล้วอะไรทำให้ละครถาปัดจุฬาฯ โดดเด่นจนผู้ชมติดกันงอมแงม ระยะแรกก็เป็นนิสิตจุฬาฯด้วยกันเอง ต่อมาก็ลุกลามออกไปสู่คนภายนอกอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง สิ่งที่พิเศษเหนือใครก็คือ เป็นละครตลกที่เป็นธรรมชาติ ธรรมดามากๆ นิสิตทำกันเองไม่ได้มีวิชาการอะไรที่ชัดเจนของภาควิชาการแสดง หรือที่เกี่ยวกับนิเทศศาสตร์แต่อย่างใด นิสิตทุกคนมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ ใครถนัดอะไรก็เลือกทำอันนั้น ตัวละครก็เช่นกัน ใครคิดว่าเหมาะก็ลองเสนอตัวดู ฝึกซ้อมกันดู เลือกกันเอง การเขียนบทนี้สุดๆไปเลย ทันสมัยทันเหตุการณ์มากๆ แล้วตลกกันแบบหัวเราะงอหายลืมเป็นลืมตายกันทีเดียว หักมุมในบทบาทหรือเนื้อหาที่นึกไม่ถึง เป็นละครตลก ที่สะอาด ใช้จินตนาการ และคาดไม่ถึง
ตัวอย่างเช่น ในตอนหนึ่งของละคร เป็นฉากที่จะต้องเข้าตีเมืองแห่งหนึ่ง กองทัพที่จะเข้าตีเมืองก็ตั้งวงล้อมเมืองไว้ พอตกเย็นก็หุงหาอาหารกินกันเพื่อเอาแรงไว้ตีเมืองข้าศึก พออิ่มหนำสำราญแล้ว แม่ทัพก็สั่งให้ทหารทุกคนทุบหม้อข้าวหม้อแกงทิ้งให้หมดแล้วประกาศว่า “พรุ่งนี้เราจะไปกินข้าวกันในเมืองที่เราตีได้” เหมือนในประวัติศาสตร์ตอนพระเจ้ากรุงธนบุรีจะเข้าตีเมืองจันทบุรี เพื่อให้ทหารทุกคนมีความมุ่งมั่นและไม่มีทางเลือก ต้องตีเมืองข้าศึกให้ได้
หลังจากนั้น ในโรงละครก็ดับไฟทั้งหมด แล้วบรรยายว่า ในเช้าวันรุ่งขึ้นกองทัพก็ยกพลเข้าโจมตีเมืองข้าศึกอย่างดุเดือด มีเสียงการต่อสู้ ทั้งเสียงดาบ เสียงม้า เสียงปืนดังอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เสียงการต่อสู้จะสงบลง แล้วไฟก็ค่อยๆเปิดสว่างขึ้นทีละน้อย ผู้ชมส่วนใหญ่ก็คาดว่าจะได้เห็นภาพกองทัพเข้าไปยึดเมืองสำเร็จ แต่เสน่ห์ของละครถาปัดจุฬาฯอยู่ตรงนี้ครับ คือการหักมุมแบบคาดไม่ถึง ภาพที่ปรากฎต่อสายตาผู้ชมรวมทั้งผมด้วย ก็คือ ทหารทุกคนกำลังนั่งล้อมวงกันปะหม้อปะกะทะ เพื่อจะทำการหุงหาอาหารทานกัน หัวเราะขำกันต่อเนื่องจนผู้แสดงต้องบอกว่าให้หยุดหัวเราะได้แล้ว จะได้แสดงฉากต่อไปได้
ละครปีแรก(2517) คือ เรื่อง ลืมบอกแม่ และ คอยรถเมล์ ที่ดีมากจนต้องมีภาค 2 คือ โรมิโอจูเลียต (2517-2518) และที่ดีสุดๆจนต้องมีถึง 3 ภาค และแสดงกันเป็นร้อยรอบก็คือ สามก๊ก (2519-2520) ผมได้มีโอกาสชมสามก๊กขณะที่นุ่งขาสั้นเรียนอยู่ที่รร.เตรียมอุดมศึกษา พญาไท ที่รั้วติดกันกับคณะสถาปัตย์จุฬาฯ จนมาถึงปี 2562 เรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
ตั้วเป็นคนดีที่ทุกคนรัก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ น้อง แม้กระทั่งฝ่ายที่เห็นแตกต่างทางการเมือง ทุกคนก็มาเขียนโพสต์ถึงตั้วในทางที่ดีทุกคน คุณสนธิ ลิ้มทองกุล คุณณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ คุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ก็เขียนถึงตั้วในทางที่ดีกันทุกคน
ขอให้คนดีได้ไปอยู่ในที่ที่ดีตลอดไปด้วยครับ
Ref.ประสบการณ์ผู้เขียน
โฆษณา