Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Psychiczin
•
ติดตาม
13 มิ.ย. 2020 เวลา 03:19 • ครอบครัว & เด็ก
5 สัญญาณอันตราย ที่พ่อแม่ทุกคนต้องอ่าน
=========================
"อยากรู้จริงๆ ว่าคนแบบนี้ เติบโตมายังไง"
เป็นวลีที่เรามักได้ยินกันอยู่เสมอ เมื่อเห็นข่าวของคนที่ทำสิ่งที่เลวร้าย อย่างไม่น่าเชื่อว่า สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์จะทำได้ และที่หนักขึ้นไปอีกคือ ไม่สำนึกในความผิดของตัวเอง
ศาสนาทุกศาสนา สอนให้คนมีเมตตามีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ศาสนาเป็นสิ่งขัดเกลาจิตใจให้มีคุณธรรม ละเว้นการทำบาป การทำความชั่ว
แล้วทำไม??
อะไรเป็นสาเหตุให้ผ้าขาวตั้งแต่เกิด เปลี่ยนไป
5 สัญญาณอันตราย ที่พ่อแม่ทุกคนต้องอ่าน / PsychicZin
ศาสตราจารย์ ฮีเธอร์ เออร์วิน นักจิตวิทยาอาวุโสจากคลินิก R.E.A.D. กล่าวว่า “โรคจิต ไม่ได้ปรากฏออกมาให้เห็นทันที สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงขวบปีแรกของเด็กๆ เป็นสิ่งสำคัญ ต่อกลไกการคิดของสมองที่กำลังเติบโตขึ้น จนกลายเป็นโครงสร้าง ของระบบความคิด"
ตัวอย่าง..ถ้าในช่วงอายุ 6 เดือนแรก เด็กร้องไห้แล้วไม่มีใครดูแล ไม่มีใครคอยป้อนนมตอนหิว ไม่มีใครคอยช่วย ไม่ได้รับอ้อมกอด สมองของเด็กก็จะจดจำและตระหนักได้ว่า การแสดงความรู้สึกนั้น ไม่ใช่สิ่งสำคัญ
จิตสำนึกที่ดีของเด็กๆ ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ตั้งแต่วัยแบเบาะ จนถึงวัย 5 ขวบ จะก่อตัวขึ้นอย่างมีภูมิคุ้มกันพอประมาณ ที่จะพอป้องกันจากเหตุร้ายที่พบเจอ
พ่อแม่ จึงเป็นผู้ที่ต้องดูแลทั้งร่างกาย และจิตใจของเด็กๆ เป็นผู้สร้างโครงสร้างความคิดของสมอง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี สังเกตพฤติกรรม สอนและให้คำแนะนำที่ถูกต้องเมื่อเด็กทำผิด
แต่หากสังเกตพบว่าเด็กๆ มีความคิดหรือพฤติกรรมที่สวนทาง ไม่ยอมรับคำสอน หรือมีพฤติกรรมนิยมความรุนแรง ไม่ควรคิดว่า "เดี๋ยวโตก็คิดได้เอง" อย่าลืมว่าโครงสร้างความคิดนั้น ได้ก่อเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งจริงๆ แล้วต้องบอกว่า ตั้งแต่แรกเกิดด้วยซ้ำ การพาเด็กที่มีพฤติกรรมนั้นไปพบจิตแพทย์เด็ก เป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อทำการแก้ไขได้ทันท่วงที
5 สัญญาณอันตราย ที่พ่อแม่ทุกคนต้องอ่าน / PsychicZin
5 สัญญาณเตือนจากลูก ที่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ห้ามมองข้าม ก่อนจะสายเกินไป
เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคน ล้วนหวังให้ลูกๆ ของตนเองเติบโตอย่างมีสุขภาพจิตที่ดี แต่บางครั้ง เรื่องบางเรื่อง เราอาจไม่ทันคาดคิด ว่าจะเป็นสาเหตุ ที่ทำให้พฤติกรรมของเด็กๆ ตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงกับการเกิดอาการทางจิตที่ผิดปกติ หรือแม้แต่ในเด็กบางคน เขาอาจมีพฤติกรรมเสี่ยงนี้ซ่อนอยู่ตั้งแต่เกิดด้วยซ้ำ
ฟรอยด์(Sigmund Freud,1856-1939) จิตแพทย์ ชาวออสเตรีย ผู้สร้างทฤษฎีจิตวิเคราะห์(Psychoanalytic Theory) เขาอธิบายว่า จิตของคนเรามี 3 ส่วน คือ จิตสำนึก(conscious mind)จิตกึ่งรู้สำนึก(preconscious mind)และจิตไร้สำนึก (unconscious mind)
จิตไร้สำนึก (Unconscious mind) ฟรอยด์เชื่อว่า จิตส่วนนี้เปรียบเสมือนก้อนนํ้าแข็งที่อยู่ใต้นํ้า มีอิทธิพลมากต่อพฤติกรรมของมนุษย์ กระบวนการจิตไร้สำนึกนี้ หมายถึง ความคิด ความกลัว และความปรารถนาของมนุษย์ ซึ่งผู้เป็นเจ้าของเก็บกดไว้โดยไม่รู้ตัว จิตไร้สำนึกของแต่ละคนจะแสดงพลังออกมาแตกต่างกัน มีทั้งในรูปแบบความฝัน กิริยาอาการต่างๆ ที่ทำโดยไม่รู้ตัว
มาดูกันว่า 5 พฤติกรรมใดบ้างของเด็กๆ ที่ผู้ปกครองควรเฝ้าระวัง
5 สัญญาณอันตราย ที่พ่อแม่ทุกคนต้องอ่าน / PsychicZin
1. โกหกโดยไม่มีความรู้สึกสำนึกผิด
การโกหกในเด็ก สำหรับบางคนอาจคิดว่าเป็นเรี่องธรรมดา พ่อแม่หลายคนคิดว่า มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่จริงๆ แล้ว มันอาจไม่ธรรมดาอย่างที่คิด
มาดูตัวอย่างกัน
เด็กคนที่ 1 โกหกคุณแม่ ว่าไม่ได้กินขนมส่วนของน้อง ทั้งๆ ที่กิน
หากเด็กโกหกด้วยเหตุผลไม่อยากถูกแม่ทำโทษ กลัวแม่โกรธ กลัวแม่รักน้อยลง เด็กจะแสดงอาการพิรุธอย่างเห็นได้ชัด ที่เราเรียกกันว่า “โกหกไม่เนียน” พ่อแม่บางคนอาจนึกขำด้วยความเอ็นดู
กรณีนี้ถือว่าเป็นอารมณ์ในระดับปกติของเด็ก ที่ปกป้องตนเอง แต่พ่อแม่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องช่วยเด็กให้เปลี่ยนพฤติกรรมนี้ ฝึกเขาให้ยอมรับความจริง และไม่ทำความผิดอีก (ไม่แย่งขนมน้อง และไม่โกหก) แต่ถ้าเด็กไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ยังคงแย่งขนมน้องกิน พ่อแม่ต้องหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะอาจไม่ใช่แค่เรื่องการอยากกินขนม แต่อาจเป็นสาเหตุอื่น
การโกหกในระดับที่ไม่ร้ายแรง อาจไม่ค่อยได้รับความใส่ใจนักในบางครอบครัว เด็กบางคนอาจเลิกพฤติกรรมนี้ได้เองเมื่อโตขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคน ลองคิดดูว่า ถ้าเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่การงานดี แต่โกหกจนชินเป็นนิสัย รู้สึกว่าการโกหกเป็นธรรมดา สังคมรอบข้างเขาจะเป็นอย่างไร
เด็กคนที่ 2 โกหกคุณพ่อ ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ หลังจากเอารถของเล่นที่พ่อซื้อให้พี่ชาย ไปทิ้งขยะ
การแสดงออกด้วยความมั่นใจโดยไม่ได้มีความรู้สึกสำนึกผิดใดๆ เป็นสัญญาณ “อันตราย” ที่พ่อแม่จะมองข้ามไปไม่ได้โดยเด็ดขาด
และถ้าเด็กแสดงอาการโกรธ เหวี่ยงแแรง ตีโพยตีพายอย่างรุนแรง เด็กบางคนส่งเสียง “กรี๊ดๆๆ” เมื่อถูกจับได้ว่าทำผิด พฤติกรรมนี้อาจไม่ใช่เกิดจากความผิดที่เขาได้ทำหรือปกปิดไว้ แต่เพราะเขารู้สึกโกรธที่เขา “พ่ายแพ้” เมื่อการโกหกของเขาถูกจับได้นั่นเอง ในกรณีนี้ เด็กจะหาโอกาสทำพฤติกรรมแบบนี้ในครั้งต่อไป เพื่อชดเชยความรู้สึกที่พ่ายแพ้ไปครั้งก่อนนั่นเอง
5 สัญญาณอันตราย ที่พ่อแม่ทุกคนต้องอ่าน / PsychicZin
2. ทารุณกรรมสัตว์
เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นที่รู้จักอย่างมากในสหรัฐอเมริกา ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ก็เริ่มจากการชอบทารุณกรรมสัตว์ในวัยเด็ก เขาทำร้ายเหยื่อของเขา ในรูปแบบเดียวกับที่เขาเคยใช้ทำร้ายสัตว์
และอีกหลายๆ เคสที่เรารับรู้จากข่าว…. (แค่นึกก็ยังรู้สึกสลดใจ)
การทารุณกรรมสัตว์ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนอย่างหนึ่งของโรคจิตเภทในวัยเด็ก การสร้างความเข้าใจให้เด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญ พ่อแม่ควรปลูกฝังจิตสำนึกส่วนดี เช่น สัตว์เป็นชีวิตหนึ่งเหมือนกับเรา เราเจ็บเป็น เขาก็เจ็บเป็น เราต้องการความรัก เขาก็เช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นสัตว์เลี้ยง พวกเขาเป็นเพื่อน เป็นสมาชิกในครอบครัว ที่ควรให้ความรักและการดูแล เป็นความสุข ไม่ควรรังแกให้พวกเขาเจ็บปวด ห้ามบีบคอแมว ห้ามดึงหางแมว ห้ามกระชากสายจูงสุนัข ไม่ควรเตะสุนัข ห้ามบีบนก เป็นต้น
ถ้าสร้างความรู้สึกรักสัตว์ให้เกิดขึ้นกับเด็กๆ จิตใจของเด็กจะถูกหล่อหลอมด้วยความอ่อนโยน เมตตา ให้ความสำคัญกับชีวิตอื่น นอกเหนือจากตัวเอง เขาจะเติบโตขึ้นโดยรู้จักการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เข้าใจผู้อื่น
จากทฤษฎีการเรียนรู้ของฮัลล์ (Hull’s Systematic Behavior Theory) มองธรรมชาติของมนุษย์ในลักษณะที่เป็นกลาง คือ ไม่ดี – ไม่เลว การกระทำต่างของมนุษย์เกิดจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายนอก พฤติกรรมของมนุษย์เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้า (stimulus response) การเรียนรู้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง
ดังนั้น ถ้าพ่อแม่ปล่อยให้เด็กทำร้ายสัตว์ หรือแม้แต่ฆ่าสัตว์ โดยที่ไม่มีใครว่ากล่าวตักเตือน ไม่มีการสร้างความเข้าใจให้ถูกต้อง เพราะจิตของพ่อแม่ติดอยู่กับความคิดว่า “เด็กก็คือเด็ก จะไปรู้อะไร เดี๋ยวโตขึ้นก็รู้เอง” ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กพัฒนาพฤติกรรมก้าวร้าวนี้ต่อไปในอนาคต อาจกลายเป็น ความรู้สึกมีความสุขเมื่อได้ทำร้ายคนหรือสัตว์ หรือในรายที่รุนแรง ที่เปลี่ยนจากการทำร้ายเป็นการฆ่า ดังตัวอย่าง เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ฆาตกรต่อเนื่อง นั่นเอง
5 สัญญาณอันตราย ที่พ่อแม่ทุกคนต้องอ่าน / PsychicZin
3. ชื่นชอบการเผาสิ่งของ
การชอบเผาสิ่งของ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่เป็นอาการอย่างหนึ่งที่เรียกว่า ไพโรมาเนีย (Pyromania) คนที่มีอาการนี้จะเผาสิ่งของต่างๆ แม้แต่เผาบ้าน เมื่อเผาแล้วจะรู้สึกพึงพอใจเมื่อได้เห็นสิ่งที่ตนเผาค่อยๆ ไหม้สลายไป โดยมีความยั้งคิด ไม่คำนึงถึงผลเสียหายใดๆ ทำเพราะอยากทำ ทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือเพื่อแสดงการตอบโต้ โกรธและการต่อต้าน
ข่าวการ “เผา” มีเข้ามาให้เราได้รับรู้กันเป็นระยะ ทั้งนี้ ต้องแยกระหว่าง ความประมาทของผู้เป็นพ่อแม่ และการกระทำเพราะจิตของเด็กเอง
ลูกจะมีพฤติกรรมเลียนแบบพ่อแม่ และอยากรู้อยากลอง กรณีลูกเล่นไม้ขีดไฟ แล้วลามไปไหม้สิ่งของนั้น ต้องยอมรับว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของพ่อแม่ ที่ไม่เก็บให้พ้นมือเด็ก ไม่สร้างความเข้าใจให้เด็กที่จะแยกแยะสิ่งที่เป็นอันตราย
เด็กที่มีการคิดที่ผ่านกระบวนการวางแผน เพื่อเตรียมสิ่งที่เป็นอุปกรณ์เผาทำลายสิ่งของ คน หรืออื่นๆ เป็นเรื่องที่อันตราย พ่อแม่ควรรีบพาเด็กไปพบจิตแพทย์เด็ก โดยสามารถปรึกษากับ พัฒนาสังคมประจำจังหวัด เพื่อให้การช่วยเหลือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็ก
5 สัญญาณอันตราย ที่พ่อแม่ทุกคนต้องอ่าน / PsychicZin
4. ชอบทำร้ายคนอื่น
การทะเลาะและแกล้งกันของเด็กๆ อาจดูเป็นเรื่องธรรมดา เด็กเล่นกันก็ต้องมีทะลาะกัน พ่อแม่จึงไม่ค่อยใส่ใจมากนัก ทะเลาะกันแล้วเดี๋ยวก็ดีกัน
แต่...พฤติกรรมชื่นชอบการเห็นคนอื่นถูกทำร้าย โดยเฉพาะจากฝีมือผู้กระทำนั้น จะแตกต่างจากการทะเลาะกันโดยทั่วไปของเด็ก เด็กที่ชอบการรังแก หรือทำร้ายผู้อื่น แล้วรู้สึกมีความสุขนั้น ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการได้รับการลงโทษที่ร้ายแรงมาก่อน หรือเห็นภาพการทำร้ายกันในครอบครัว่ พ่อทำร้ายแม่ พ่อแม่ทำต้อตัวเขา จิตของเด็กเหล่านี้จะเรียนรู้ว่า การใช้กำลังที่เหนือกว่าเท่านั้นที่จะชนะ พวกเขารู้สึกมีความสุขที่ได้มองคนอื่นเจ็บปวด เพื่อชดเชยความรู้สึกที่เขาเคยเจ็บปวด
การทำร้ายนั้น ไม่เพียงแค่การทำร้ายทางกายให้เจ็บปวดเท่านั้น ในบางเคส จิตของเด็กที่แสดงออกถึงความผิดปกติ จะรังแกผู้อื่นด้วยการทำลายสิ่งของที่ถ้าคนอื่นนั้นสูญเสียไปจะทุกข์ใจ ยิ่งทุกข์เท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกมีความสุข ลองนึกดูนะคะว่า ถ้าเติบโตมาอยู่ในสังคมสถานที่ทำงาน แล้วคอยทำลายผู้อื่น จะวุ่นวายขนาดไหน
5 สัญญาณอันตราย ที่พ่อแม่ทุกคนต้องอ่าน / PsychicZin
5. ไม่เปิดเผยความรู้สึกทางอารมณ์
เด็กๆ ที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคจิตในลักษณะนี้ จะไม่แสดงอารมณ์ให้คนอื่นเห็นง่ายๆ ว่าพวกเขากลัวอะไร อะไรเป็นจุดอ่อนของพวกเขา พวกเขาจะไม่รู้สึกเครียดแบบเด็กในวัยเดียวกัน ไม่มีความรู้สึกกดดันจากความถูกผิดตามกฏสังคม เหมือนพวกเขาอยู่ในโลกความคิดของตนเองเท่านั้น รวมถึงไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นด้วย
อย่างไรก็ตาม จิต ความคิด พฤติกรรมที่แสดงออก มีความสัมพันธ์กัน และปรับเปลี่ยนพัฒนาได้
คาร์ล โรเจอร์ส(CarlRogers) นักจิตวิทยาตามแนวคิดกลุ่มมนุษย์นิยม (The Humanistic Perspective) ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับ มาสโลว์(Abraham Maslow)
คาร์ล โรเจอร์ส(CarlRogers) ศึกษาปัญหาพฤติกรรมของคนไข้จากคลินิกของเขาเอง ซึ่งเขามีความเห็นว่า “บุคคลมีความสามารถที่จะทำการปรับปรุงชีวิตของตนเองเมื่อมีโอกาส มิใช่จะเป็นเพียงแต่เหยื่อ ในขณะที่มีประสบการณ์ในสมัยที่เป็นเด็ก หรือจากแรงขับของจิตใต้สำนึก แต่ละบุคคลจะรู้จักการสังเกตสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา โดยมีแนวทางเฉพาะของบุคคล กล่าวได้ว่า เป็นการรับรู้สภาพสิ่งแวดล้อมซึ่งมีความสำคัญมาก”
5 สัญญาณอันตราย ที่พ่อแม่ทุกคนต้องอ่าน / PsychicZin
เด็กเปรียบเสมือนผ้าขาว พ่อแม่ คนใกล้ชิด จึงต้องคอยดูแล ให้คำแนะนำ เพื่อให้โครงสร้างทางความคิดในสมองของเด็ก เป็นโครงสร้างที่ถูกต้อง ดีงาม มีความสุขบนบรรทัดฐานที่ถูกต้องเหมาะสม
ข้อมูลอ้างอิง (Reference) :
1.
https://petmaya.com/7-signs-that-a-child-will-be-a-psychopath
2.
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:UnuwxcKmqPkJ:www.educ-bkkthon.com/blog/apsornsiri/wp-content/uploads
ติดตาม PsychicZin ได้อีก 2 ช่องทางนะคะ
https://web.facebook.com/psychiczin/
https://psychiczin.maggang.com/
บันทึก
9
13
9
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย