13 มิ.ย. 2020 เวลา 12:22 • ประวัติศาสตร์
"ตำนานโมเสสในคำภีร์ไบเบิล"
-คำเตือน การเล่าต่อจากนี้จะเป็นการเล่าสไตล์ผู้เขียนเองเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น อาจจะแปลกๆ แต่เนื้อหาและสาระของเรื่องไม่บิดเบือนแน่นอนๆนะครับผม^^
"โมเสส ( Moses )" เป็นศาสดาของชาวยิว
ตามคำภีร์ไบเบิลบอกเอาไว้ว่าเขาเป็นผู้บัญญัติกฎและเป็นผู้เผยพระวจนะ(คำสอนของพระเจ้า)
ให้กับวงศ์วานอิสราเอล
(ชนเผ่าโบราณของอิสราเอล มีทั้งหมด 12 เผ่า)
ในคำภีร์ไบเบิลกล่าวเอาไว้ว่า โมเสสเกิดในชนเผ่าเลวี ( 1ใน12ชนเผ่าที่พูดถึงข้างต้น )
โดยในภาษาของเขา โมเสสแปลว่า"ฉุดขึ้นมา"
โมเสสมีพ่อชื่อว่า "อับราม"
แม่ชื่อ "โยเคเบด" และมีพี่ชายชื่อ "อาโรน"
ก่อนหน้าที่โมเสสจะเกิด ฟาโรห์แห่งอียิปต์เล็งเห็นว่าชาวยิวมีจำนวนมาก จึงต้องที่จะลดประชากรของชาวยิวลง
โดยมีคำสั่งให้นำเด็กทารกชายที่พึ่งเกิดใหม่ไปทิ้งที่แม่น้ำไนล์ แต่ว่าแม่ของโมเสสซ่อนตัวโมเสสเอาไว้
จนเมื่อเวลาล่วงเลยไปถึงเวลาที่ไม่อาจจะซ่อนตัวโมเสสไว้ได้อีกแล้ว แม่ของโมเสสจึงนำตัวโมเสสใส่ในตะกร้าวางไว้ในกอไม้ริมฝั่งแม่น้ำไนล์
( ดีนะไม่โดนเข้งาบไป... )
2
และในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีเล็กๆอยู่บ้าง
เมื่อธิดาแห่งฟาโรห์ลงมาสรงน้ำที่แม่น้ำ ก็มาเจอกับทารกน้อยโมเสสและจากนั้นก็นำไปเลี้ยงดู
และโมเสสก็เติบโตขึ้น
โดยมีแม่(บุญธรรม)เป็นแม่นมของตัวเอง
เมื่อโมเสสโตขึ้น
โมเสสได้เดินทางไปหาพวกพี่น้องของตนเอง
และได้เห็นพวกเขาทำงานกันอย่างหนักหน่วง แต่สิ่งที่สะดุดตาโมเสสที่สุดก็คือ...
มีชาวอียิปต์ผู้หนึ่งกำลังตีคนฮีบรู
ซึ่งเป็นชนเผ่าเดียวกันกับโมเสส โมเสสจึงหาโอกาสเหมาะและฆ่าชาวอียิปต์คนนั้นพร้อมกับซ่อนศพไว้ในทะเลทราย
( ผมชอบนะ มันดูโหดดี )
เมื่อฟาโรห์ทราบเรื่องนี้เข้า
ก็เลยหาเรื่องที่จะประหารโมเสสให้ได้
แต่โมเสสหนีไปที่แผ่นดินมีเดียน
ซึ่งเขาได้นั่งลงที่ริมบ่อน้ำแห่งหนึ่ง และเขาก็ได้พบกับหญิงสาว 7 คนซึ่งเป็นลูกสาวของปุโรหิตชาวมีเดียนคนหนึ่งที่มีชื่อว่า "เรอูเอล" กำลังพากันตักน้ำใส่รางให้ฝูงแกะของผู้เป็นพ่อกิน
และในขณะนั้นเอง มีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเลี้ยงแกะก็ได้มาไล่พวกนางๆไป และด้วยความที่เป็นคนดี พระเอก หล่อเท่ๆ โมเสสจึงทำการลุกขึ้นมาช่วยพวกนางๆตักน้ำใส่รางและให้เหล่าแกะได้กินน้ำกัน
พอทุกอย่างเสร็จ เหล่านางๆก็ได้ทำการขอบคุณขอบใจขอบพระทัยแต๊งกิ้วโมเสส แล้วก็กลับบ้านไปหาพ่อกัน
"มันเกิดอะไรขึ้นกันครับเนี้ย
ทำไมวันนี้กลับกันเร็วนักล่ะ?" ผู้เป็นพ่อเอ่ยถาม
"มีชายชาวอียิปต์คนหนึ่งช่วยเราจากคนเลี้ยงแกะ ทั้งยังตักน้ำให้เรา แถมให้ฝูงแพะแกะกินอีกด้วย" พวกนางตอบกลับไป
"ชายคนนั้นอยู่ไหน ทำไมถึงทิ้งเขาไว้ล่ะ
ไปเชิญเขามาที่บ้านเราสิ"
ว่าจบเหล่าลูกสาวก็พากันไปเชิญโมเสสมาที่บ้าน
และโมเสสก็ตกลงปลงใจอยู่กับเรอูเอล
แล้วเรอูเอลก็ยกลูกสาว1ใน7คนให้ภรรยาของโมเสส เธอมีชื่อว่า "ศิปโปราห์"
และนางก็ได้มีลูกชายกับโมเสสชื่อว่า "เกอร์โชม"
หลายปีผ่านไป ไวเหมือนเครื่องบินเจ็ท
องค์ฟาโรห์ก็สิ้นพระชนม์ ชาวอิสราเอลก็พากันร้องห่มร้องไห้กันเป็นยกใหญ่
อ๊ะๆ เขาไม่ได้คิดถึงฟาโรห์หรอกนะครับ
เขาร้องไห้เพราะต้องการความช่วยเหลือ
พวกเขายังคงอยู่ในสถานะของทาสอยู่เลย
และเสียงร้องไห้นั้นเองก็ดังไปถึงพระเจ้า
พระเจ้ามีพระประสงค์ที่จะช่วยชาวอิสราเอล
จึงวาร์ปไปหาโมเสสเพื่อให้โมเสสช่วยนำชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์ ไปยังดินแดนคานาอัน
ซึ่งเป็นดินแดนที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับอับราฮัมว่าจะยกให้แก่เผ่าพันธุ์ของท่าน
หลังจากที่พระเจ้าแจ้งทุกอย่างให้กับโมเสสทราบ พระเจ้าก็ได้ให้โมเสสทำพิธี3อย่างเพื่อเป็นการยืนยันการรับหน้าที่ของโมเสส
1.พระเจ้าทรงให้โมเสสโยนไม้เท้าของตนลงพื้น
และจู่ๆไม้เท้านั้นก็กลายเป็นงูขึ้นมา เมื่อโมเสสเอามือไปจับที่หางของมัน มันก็กลับกลายเป็นไม้เท้าเหมือนเดิม
1
2.พระเจ้าทรงให้โมเสส สอดมือไว้ที่อก
และเมื่อชักมือออกมา มือนั้นก็กลายเป็นโรคเรื้อน เมื่อสอดมือไว้ที่อกตามเดิมอีกครั้ง มือของโมเสสก็เป็นกลับมาปกติ
3.พระเจ้าทรงให้โมเสสตักน้ำและเทลงบนพื้น
1
และน้ำที่ถูกเทลงพื้นไปก็ได้กลายเป็นเลือดสีแดงสดเต็มไปหมดเลย
พระเจ้าทรงบอกกับโมเสสว่าสิ่งที่ให้โมเสสทำไปนอกจากจะเป็นการรับหน้าที่แล้ว ก็ยังเป็นพลังวิเศษที่มอบให้แก่โมเสสอีกด้วย
แต่ถึงอย่างงั้น โมเสสก็มีข้อต่อรองขอพาอาโรนพี่ชายของตนไปด้วย เพราะตนพูดไม่เก่งแต่พี่ชายพูดเก่ง เกรงว่าชาวอิสราเอลจะไม่ยอมฟัง
พระเจ้าจึงให้อาโรนไปเป็นผู้ช่วยของเขา
โมเสสจึงได้ทำการลาพ่อตา
และเดินทางกลับไปที่อิยิปต์เพื่อทำตามประสงค์ของพระเจ้า และในการเข้าเฝ้าฟาโรห์ในครั้งนี้
โมเสสพระเอกของเรามีอายุ 80 ปี
และอาโรน 83 ปี🔥🔥🔥
เมื่อโมเสสเข้าเฝ้าฟาโรห์ โมเสสได้ทำการทูลขอให้ฟาโรห์ปล่อยชาวอิสราเอลให้ไปนมัสการพระเจ้าในแถบทะเลทราย
ฟาโรห์ทรงมีพระทัยที่แข็งกระด้างและไม่ยอมปล่อยชาวอิสราเอลไปง่ายๆ
โมเสส และ อาโรน จึงได้รับบัญชาจากพระเจ้าให้ใช้ไม้เท้าสร้างภัยพิบัติ 10 ประการใส่อียิปต์
และฟาโรห์ก็ได้ลองดีกับโมเสสและอาโรน...
จนในที่สุด ฟาโรห์และเหล่าข้าราชบริพารก็พากันขับไล่ชาวอิสราเอลออกไปจากอียิปต์ด้วยความกลัวในภัยพิบัติเหล่านั้น
ก่อนหน้าที่ภัยพิบัติข้อสุดท้ายจะเกิดขึ้น พระเจ้าทรงให้โมเสสนำชาวอิสราเอลประกอบพิธีปัสคา
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ความเป็นอิสราเอลไว้
เพราะในคืนนั้นพระเจ้าจะผ่านบ้านต่างๆ และบ้านที่มีเลือดแกะปัสคาป้ายอยู่จะรอดพ้นจากความตายเพราะเป็นชาวอิสราเอล
แต่บ้านของชาวอียิปต์ที่ไม่มีเลือดป้ายอยู่
พระเจ้าจะเอาลูกคนแรกของพวกเขาไปด้วย
และด้วยเหตุนี้พิธีปัสคา จึงเป็นพิธีที่อิสราเอลเฉลิมฉลองถึงเหตุการณ์ความเป็นอิสระในครั้งนี้
และเมื่อเดินทางมาถึงริมทะเลแดง
กองทัพอียิปต์ก็ได้ติดตามชาวอิสราเอลมา
เพื่อตามให้ชาวอิสราเอลกลับไปเป็นทาสตามเดิม
( ฮั่นแน่ ไม่เข็ดก็ไม่บอก )
และในครั้งนี้ พระเจ้าทรงให้โมเสสชูไม้เท้าขึ้นเหนือน่านน้ำทะเลแดง
และแล้วทะเลแดงก็แหวกออกเป็นสองข้าง
ในตอนนี้ ทะเลแดงอันกว้างใหญ่ได้กลายเป็นทางเดินให้กับชาวอิสราเอลเดินข้ามไป
แต่เมื่อกองทัพอียิปต์จะข้ามตามมา
ทะเลก็กลับคืนดังเดิม และถล่มกองทัพอียิปต์ตายกันไปจนหมด
( มีพระเจ้าคอยซัพก็งี้แหละ😆 )
และก็ข้ามผ่านทะเลแดงมาได้สำเร็จ และนี่คือตำนานทะเลแหวก ตำนานที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายของคนทั่วโลกเกี่ยวกับเรื่องราวของโมเสสครับ
โอเคครับ บทความหน้า(ของซีรีย์นี้)
ผมจะมาเล่าต่อจากจุดเดิมกับเรื่องราวเพิ่มเติมของไม้เท้าโมเสสให้อ่านกันนะครับ ฝากติดตามกันด้วยนะครับ
อ้อ และก็ คุณรู้รึเปล่าว่าที่ไทยของเราก็มีนะครับ ทะเลแหวกน่ะ
ทะเลแหวกที่ว่านี่อยู่ที่จังหวัดกระบี่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นับเป็น Unseen of Thailand ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างหนึ่งเลยนะคุณ
โดยที่นี่จะมีเกาะอยู่ 3 เกาะ ซึ่งจะมีหาดทรายเชื่อมติดต่อกัน ได้แก่ เกาะทับ เกาะหม้อ และ เกาะไก่ และเราสามารถเดินข้ามจากเกาะไก่ไปอีกทั้ง2เกาะได้ในช่วงเวลาที่น้ำลด
ในเวลาที่น้ำลดนั้น จะดูเหมือนกับทะเลถูกแหวกออกเป็นสองฝั่งเลยยย
โอเคครับ วันนี้ก็มีเพียงเท่านี้
ถ้าชอบก็อย่าลืมกดไลค์กดเลิฟกดแชร์
คิดเห็นอย่างไรก็แสดงความคิดเห็นคอมเมนต์
ติชมเพิ่มเติมกันได้นะครับ
ฝากติดตามเพจเรื่องเล่าในความมืดด้วยนะครับ จะได้กลับมาเจอกันบ่อยๆ
และก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ
ไม่ได้เป็งหมอ เป็งห่วงงง
สำหรับวันนี้ สวัสดีช่วงค่ำวันเสาร์ครับ🙏🌊
Reference : หนังสือตำนานสะท้านโลก
เรียบเรียงและอื่นๆ : เรื่องเล่าในความมืด
⏳13/6/63✒️
โฆษณา