13 มิ.ย. 2020 เวลา 09:48 • บันเทิง
The Adjustment Bureau (2011):
ดูแล้วเล่าตอนที่ 5 (จบ)>>>>>ละเอียดแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว
Cr. www.behance.net
“คุณคิดว่าคุณจะได้เจอท่านประธาน แล้วเปลี่ยนโชคชะตาคุณ หรือเขียนชะตาคุณเองได้หรือ” ทอมป์สันถามทั้งคู่ ทอมป์สันยืนยันว่าพวกเขาแบบนั้นไม่ได้หรอก
แฮรี่เดินขึ้นมาพร้อมยื่นซองจดหมายให้ทอมป์สัน ๆ เปิดอ่าน เขาตอบแฮรี่ว่าเขาเข้าใจ แล้วเดินผละจากไป แฮรี่บอกคู่รักทั้งสองว่าแม้แต่ทอมป์สันก็มีเจ้านายเหนือเขาขึ้นไป
Cr. Netflix
เดวิดประหลาดใจ เขาถามแฮรี่ว่าแฮรี่คือท่านประธานหรือ แฮรี่ปฎิเสธด้วรอยยิ้ม เขาบอกว่า เดวิดอาจเคยพบท่านประธานแล้วในรูปร่างของผู้ชายหรือผู้หญิง ทุกคนเคยพบท่านประธานทั้งนั้นเพราะท่านมาในรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันสำหรับทุกคน มนุษย์จึงแทบไม่รู้เมื่อเผชิญหน้ากับท่าน
เดวิดถามว่านี่คือบททดสอบหรืออย่างไร แฮรี่บอกทุกอย่างคือบททดสอบทั้งนั้น เป็นบททดสอบสำหรับทุกคน แม้กระทั่งกับเจ้าหน้าที่ใน TAB แฮรี่บอกว่าในเมื่อเดวิดเดิมพันชีวิตในการอยู่คู่กับเอลีซ ๆ ก็เดิมพันเช่นกันเพื่อเดวิดเมื่อเธอตัดสินใจตามเดวิดเปิดประตูที่เกาะลิเบอร์ตี้ มันสร้างแรงบันดาลใจให้แฮรี่ และดูเหมือนท่านประธานก็เกิดแรงบันดาลใจนั้นด้วย
จดหมายในซองที่แฮรี่ถือคือแผนการที่ถูกปรับเปลี่ยนจากแผนเดิมของเดวิด ท่านประธานเขียนแผนใหม่ให้กับเขา แล้วแฮรี่ก็หยิบหมวกของเขาคืน
Cr. www.morefamousquotes.com
ทั้งคู่ออกจากอาคารสำนักงานปรับเปลี่ยน แฮรี่อธิบายเป็นการสรุปในขณะที่ทั้งคู่เดินบนถนนผ่านผู้คน ผ่านชายใส่หมวก และแม้แต่ผ่านตัวเขาเองว่า… คนส่วนใหญ่เดินตามชะตาลิขิตที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่กล้าเดินออกนอกเส้นทาง แต่นาน ๆ ครั้ง คนอย่างเดวิดกับเอลีซจะผ่านมา ต่อสู้กับอุปสรรคที่องค์กรพวกเขาวางขวางไว้…มนุษย์มีพรสวรรค์และมีอิสระที่จะทำตามความต้องการของตัวเอง แต่ถ้าไม่ต่อสู้เพื่อแลกมันมา ก็จะไม่ได้มัน และนั่นคือแผนที่แท้จริงของท่านประธานที่หวังว่าสักวัน TAB จะไม่ต้องเขียนแผนให้ แต่มนุษย์จะเป็นผู้เขียนแผนที่เหมาะสมด้วยตัวเอง
จบครับ…ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องสั้นปี 1954 ของฟิลลิป เค. ดิก กำกับการแสดงและบทภาพยนต์โดยจอร์จ โนลฟี แสดงโดยแมท เดม่อน เอมิลี่ บลันท์
แอนโทนี แม็คกี จอห์น สแล็ตเทอรี่ และเทอร์เรนซ์ สแตมป์ ออกฉายในปี 2011 ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีทีเดียว แม้ว่าหนังจะมีข้อให้สงสัยหลายจุดที่ไม่ได้อธิบายรายละเอียด แต่ใครจะสนละครับ นี่ก็ไม่สนเหมือนกันเพราะผู้กำกับเล่าเรื่องได้ดีผ่านบทสนทนาที่อัดแน่นด้วยข้อมูล การแสดงที่มีพลังของทุกคน และเคมีที่ดีมาก ๆ ของแมท เดม่อนกับเอมิลี บลันท์
บทภาพยนตร์ตีความออกมาได้ดีถึงพระเจ้าและเหล่าเทวดาในรูปแบบโครงสร้างองค์กร ผู้ปกครองและมีอำนาจสูงสุดคือท่านประธานที่อาจเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ หรือเป็นใครสักคนก็ได้ที่คุณเคยพบมาก่อน เช่นเดียวกับการบริหารองค์กรหรือหน่วยงาน บางครั้งแต่ละหน่วยก็แค่ทำงานของตัวเองไปตามคำสั่งในซองจดหมาย ตามสมุดเล่มดำโดยไม่รู้เบื้องหลัง รู้แค่เป้าหมายเบื้องหน้า แต่ละหน่วยงานมีผลงานที่ต้องทำให้ถึงเป้าและไม่มีการแชร์ข้อมูลที่ดี เช่นที่ริชาร์ดสันมาบ่นกับแฮรี่ว่าเขาไม่น่ารับงานที่ไม่อาจสำเร็จได้เพราะแผนกข้อมูลบอกว่าไปค้นเจอแผนเดิมมีมาก่อนเป็นสามสิบปีที่ถูกวางให้เดวิดและเอลีซเป็นคู่ของกันและกัน
การทำงานที่ไม่คำนึงถึงผู้อื่นนอกแผนที่จะได้รับผลกระทบ หลักของเรื่องคือการพาเดวิดก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีให้ได้ เพราะพ่อของเขาและพี่ชายไม่อาจเข้าถึงเป้านั้นได้ เดวิดคือความหวังคนที่สามของครอบครัว และไม่ว่าจะด้วยวิธีใดแผนที่หรือชะตาชีวิตของเดวิดต้องเป็นไปตามนั้น เอลีซก็แค่เบี้ยตัวหนึ่งที่มาช่วยในครั้งแรก และกลายมาเป็นก้างชิ้นใหญ่ในครั้งต่อ ๆ มาที่ต้องถูกเขี่ยออก
โชคดีที่เดวิดดื้อรั้นและซื่อสัตย์กับใจของตัวเอง แต่เขาก็เสียศูนย์ไปช่วงหนึ่งเพราะเขาคิดถึงความต้องการของเอลีซมากกว่า บางครั้งการไม่ถามคนรักว่าต้องการอะไรกันแน่เป็น free will ที่ตัวเองตัดสินใจคนเดียวว่ามันดีที่สุดแล้ว โดยคิดว่าตัวเองกำลังหยิบยื่นสิ่งที่ดีที่สุดให้คนรัก (free will but not fair)
Free will ที่น่าชื่นชมคือการตัดสินใจสู้เพื่อแย่งเอลีซกลับมา การพูดความจริงและอธิบายให้เอลีซรู้เหตุผลที่เหนือธรรมชาติ และ free will ของเอลีซคือการตัดสินใจทุ่มสุดตัวทั้งที่ยังเข้าใจอะไรไม่เต็มร้อย เธอตัดสินใจเพราะรักและเชื่อเดวิด เธอจึงพร้อมจะลุยไฟไปในที่ที่เธอไม่เข้าใจ แต่เธอเต็มใจไป…กับเขา
ชอบที่แฮรี่บอกว่ามนุษย์มีสิทธิ์ฝืนลิขิตที่พระเจ้าเขียนให้มา และพร้อมสู้กับขวากหนามทุกอย่างที่ท้าทายพวกเขา มุ่งมั่นโดยไม่โทษโชคชะตาแล้วปล่อยให้มันพาเราไปที่ไหนก็ไม่รู้ ถึงจะไปไม่ถึงจุดหมายแต่เราก็ได้สู้ในสิ่งที่เราเห็นว่าดีงามคู่ควรจนสุดกำลัง เหมือนซีรีส์เรื่องลูซิเฟอร์ตอนหนึ่งที่ลูซิเฟอร์พูดไว้ มนุษย์มีทางเลือกจะชั่วด้วยตัวเอง อย่ามัวแต่โทษซาตานอยู่เลย ประตูนรกไม่ได้ล็อคเอาไว้และมนุษย์ก็แค่เลือกว่าจะเดินเข้าหรือเดินออก
ดังนั้นเมื่อเจอบททดสอบที่คิดว่ายาก ก็อย่าท้อแท้ ขอเพียงมุ่งมั่นก็ไม่ต้องมาเสียดายภายหลัง ใช้ชีวิตกับปัจจุบันให้ดีเหมือนอีกนกับจองแทอึล (ยังอินอยู่) ประกาศิตฟ้าหรือจะสู้กำลังใจที่เข้มแข็งของคน ดังนั้นรักแท้ไม่แพ้ประกาศิตฟ้า แผนที่เขียนไว้เดิมก็เปลี่ยนได้ถ้าเราใจถึงพอ
และสำหรับพระเจ้าหรือท่านประธาน อาจเป็นเพื่อนเอลีซที่ศาลากลางที่บอกเดวิดว่าเอลีซอยู่ห้องน้ำหญิงก็ได้ หรืออาจเป็นบาร์เทนเดอร์สาวในร้านเหล้าก็ได้ หรือแม้แต่อาจเป็นแฮรี่ในห้วงขณะที่มาคุยเพื่อบอกทั้งคู่ว่าแผนของทั้งคู่ถูกเปลี่ยนแล้วก็ได้ แม้กระทั่งคุณเองอาจเป็นท่านประธานของชะตาชีวิตตัวเองก็ได้เช่นเดียวนะครับเพราะคุณสามารถเลือกทางเดินชีวิตของคุณเองได้กันทุกคน (อันนี้อ้างอิงจากที่ฝรั่งเขาคาดเดากันเหมือนกระทู้ซีรีส์ที่ในพันทิปมีนะครับ)
และสุดท้ายความบังเอิญที่พระเจ้าไม่ได้สร้างก็มีอยู่จริง หวังว่าการเล่าหนังเรื่องนี้คงจุดประกายบางอย่างให้ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ จนกว่าจะพบกันใหม่ อวยพรให้ท่านมีความสุขกับหนังดี ๆ ที่ท่านเลือกชม และมีสุขภาพแข็งแรงพร้อมมีการตัดสินใจที่อิสระ ถูกต้อง สวยงาม และไม่ทำให้ใครเดือดร้อนกันครับ
Cr. www.quotemaster.com
โฆษณา