Blockdit Logo (Mobile)
เรื่องเล่าสงครามเกาหลี
•
13 มิ.ย. 2020 เวลา 10:16
จงตั้งใจสู้ แล้วศัตรูจักนำชัยมาให้เอง
#จดหมายถึงลูกฉบับที่18
กฤต...ลูกรัก
วันที่ 13 มิถุนายน 2563
วันนี้เป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสแดดเช้าอ่อนๆ หลังจากเราสองพ่อลูกไปวิ่งออกกำลังกายกันที่สวนทวีวัฒนารมย์ (สวนหลวง 2) อาบน้ำอาบท่า กินข้าวปลาอาหารเรียบร้อย พ่อรู้สึกคันไม้คันมือ อยากท่องไปในสนามรบสามเหลี่ยมเหล็กต่อ เพื่อติดตามสถานการรบ ว่าแล้วก็มาลงมือกันดีกว่าลูก
จงตั้งใจสู้ แล้วศัตรูจะนำชัยมาให้เอง
จากนี้ไปจะเป็นสถานการณ์ในวันที่ 12-13 มิถุนายน ยังคงยกเครดิตของวิกิพีเดียภาษาอังกฤษมาเป็นข้อมูลต้นเรื่อง แต่จะหาเกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้องมาเป็นผงชูรสเพื่อเพิ่มรสชาตการท่องไปในเทือกเขากุมหว่าให้ได้อารมณ์เหมือนไปนั่งอยู่ในสนามเพลาะเลยทีเดียว..อิอิ (โปรโมตซะหน่อย)
แต่ก่อนจะเริ่มเล่า อยากเอ่ยถึงวีรบุรุษของด่านแฮร์รีในวันที่ 10 มิถุนายน ซักคนหนึ่งก่อน เขาคือ “โอล่า แอล ไมซ์” แห่งกองร้อย K ผู้ปลุกปลอบขวัญและกำลังใจทหารบนด่านแฮร์รีให้ลุกขึ้นสู้ พร้อมบริหารการลำเลียงผู้บาดเจ็บให้พ้นพื้นที่ปะทะ สามารถตรึงกำลังข้าศึกอย่างเหนี่ยวแน่น เพื่อรอกำลังเสริมที่จะมาถึงตอนเที่ยงของวันถัดไป
Ola L. Mize
จากเหตุการณ์นี้ เขาได้เลื่อนยศเป็นจ่าสิบเอก และได้รับเหรียญเกียรติยศ เขาเสียชีวิตเมื่อ 5 มีนาคม 2014 ยศครั้งสุดท้ายพันเอก
เหรียญเกียรติยศ (Medal of Honor)
วันที่ 12 มิถุนายน ได้มีการปรับปรุงกองกำลังรักษาด่านแฮร์รี่ ให้มีสมรรถนะเสริมความแข็งแกร่งในการรักษาป้องกันและต่อต้านการรุกแบบบูรณาการ โดยจัดกำลังรบ กรม ร.15 US. โดยสนธิกำลังกับ กรม ร.5 (เฉพาะกิจ) US.
ความน่าสนใจอยู่ที่ กรม ร. 5 (เฉพาะกิจ) US. เป็นหน่วยที่สร้างขึ้นชั่วคราวตามความจำเป็นของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ โดยมีหลายหน่วยประกอบเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มความแกร่งให้หน่วยทหารราบประกอบด้วย กองร้อยรถถังขนาดเล็ก กองร้อยปืนใหญ่อัตตาจร กองพันทหารช่างสนาม กองร้อยลำเลียงพลยานยนต์ หมวดทหารม้าลาดตระเวน กองสัญญาณกองกำลังป้องกันทางอากาศ หมวดสารวัตรทหาร กองร้อยแพทย์ และหน่วยสนับสนุนอื่น ๆ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในสนามรบ เรียกว่าจัดใหญ่ จัดเต็มกันเลยที่เดียว ประมาณ Ironman mark 4 เชียวล่ะลูก
แล้วในที่สุดก็โดนลองของจากฝ่ายข้าศึก เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน หลังจากกองพันทหารช่างสนามที่ 10 ได้บูรณะและเสริมเครื่องกีดขวางให้มีความกว้าง และช่วงถี่มากขึ้น จากนั้นไม่นานปืนใหญ่ และ ค.ของข้าศึกเปิดฉากยิงก่อนการโจมตีที่ด่านหน้า ซึ่งถูกสวนกลับด้วย ค.ป้องกันของ UN การปะทะกันอยู่ในช่วงเวลาสั้น ๆ ในที่สุดข้าศึกถอนตัวออกจากการต่อสู้เวลา 22:47
จนเวลา 02:08 ข้าศึกโจมตี 3 ทิศทางพร้อมกัน (1)ทางเหนือ (2)ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และ(3)ทางตะวันตกเฉียงเหนือของด่านหน้า] การต่อสู้แบบประชิดตัวเกิดขึ้นเมื่อข้าศึกได้บุกคูน้ำทางลาดชันทางเหนือของด่านหน้า กองร้อย L กรม ร. 15 เป็นหน่วยเสริมในการเข้าปะทะ
และในเวลา 04:50 ข้าศึกทนแรงต้านจากสนามเพลาะไม่ไหว และถูกบังคับให้ถอนตัว หมวดรถถังจาก กองพันรถถังที่ 64 และกองพันทหารราบที่ 1 ถูกส่งไปยังหุบเขาทางตะวันออกของด่านหน้าแฮร์รี่และดำเนินการอย่างประสบความสำเร็จในฐานะกองกำลังยุทธวิธี การดำเนินการทั้งหมดหยุดลงยกเว้นการตอบโต้การใช้ปืนใหญ่ของ UN และการต่อต้านการยิง ค.
พ่อขอขยายความในส่วนของการจัดให้ พัน.ถ. 64 และ ร.พัน.1 US. ออกตีโต้ทางด้านตะวันออกเพื่อผลักดันให้ข้าศึกไม่สามารถย้อนมาตีโอบได้อีก ส่วนด้านตะวันตกไม่ได้จัดกำลังเพราะมี OP ดิ๊ก คอยสนับสนุนอยู่ ทำให้การผลักดันเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ
ลูกจะเห็นได้ว่า เมื่อได้มีการปรับปรุงกำลังรบแล้ว การรับมือกับข้าศึกก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น หลังจากสับเปลี่ยนกำลังให้กองร้อย C กรม ร.5 (เฉพาะกิจ) US. รับผิดชอบด่านแฮร์รี่
ในวันที่ 13 มิถุนายน คืนนั้นเวลาประมาณ 02:55 ปืนใหญ่ข้าศึก และ ค.ได้เปิดฉากยิงก่อนการโจมตีด้วยหน่วยทหารราบข้าศึก ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของด่าน เพื่อแสดงความมุ่งมั่น และก่อกวนกำลังของ UN แต่ถูกทำลายโดย ค. ของ UN
การยิงปืนใหญ่ และ ค. ของข้าศึก ยิงมาเป็นระยะไม่ถี่นัก ส่วนใหญ่ตำแหน่งยิงตกลงมาที่ด่านหน้าและแนวต้าน จนเวลา 04:40 ข้าศึกทำการถอนตัวและยิงทั้งหมดหยุดลง
หากลูกติดตามเรื่องราว จะสังเกตเห็นได้ว่า ทั้งสองฝ่ายต่างมีกลยุทธที่แตกต่างกัน กล่าวคือ กลยุทธเชิงรุกของข้าศึกประดุจสายน้ำป่าที่มีพลังรุนแรง การบุกประชิดดุจห่าฝนที่ทำให้เปียกปอนทั่วพื้นที่ ลีลาการเข้าตีดุจกระแสคลื่นที่เข้ากระทบฝั่ง ลูกแล้วลูกเล่า
ส่วนฝ่าย UN การกลยุทธการตั้งรบดุจเขื่อนใหญ่ที่พร้อมจะกักเก็บพลังของน้ำที่เชี่ยวกราก เมื่อน้ำมากก็มีประตูระบายน้ำเพื่อผ่อนแรง ลดความเกรี้ยวกราดของน้ำลง
การรบเปรียบมหานทีกับเขื่อน
บทสรุปของฉบับนี้ ชี้ให้ลูกเห็นว่า สิ่งใดๆ ทหารคือมนุษย์ที่มีความอดทน อดกลั้น ต่อสภาวะกดดันได้อย่างไร้ขีดจำกัด หากมนุษย์ผู้นั้นได้รับแรงบันดาลใจ มีหัวใจที่เอิบอิ่มไปด้วยอุดมการณ์ความรักชาติ แต่หากมีสิ่งใดมีสั่นคลอนความเชื่อเหล่านั้นของเขาลง ความอดทน อดกลั้น ก็จะมลายลงจนไม่เหลือซากความอดทน อดกลั้นให้เห็นอีกต่อไป
อย่างไรก็ดี แม้มนุษย์จะมีอุดมการณ์อยู่เต็มหัวใจขนาดไหน ก็ย่อมต้องมีการผ่อนคลาย จุดที่ทำให้มนุษย์มีความสั่นคลอนมากที่สุด คือ ความหิว ความง่วง ความเหนื่อย สิ่งเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการดูแลเอาใจใส่
ทหารจีน
นี้คือเหตุผลที่ UN จะต้องสับเปลี่ยนกำลังทหารตามวงรอบเวลา และหลังมีเหตุการณ์ปะทะข้าศึก เพื่อให้กำลังส่วนหน้ามีความสดชื่น และแข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา
เอาล่ะ วันนี้แค่นี้ก่อน เพราะพ่อต้องค้นคว้าข้อมูลมาเติมเต็มในจดหมายฉบับต่อไป หวังว่าคงได้พบเกร็ดข้อมูลดีๆ มาแบ่งปันให้ลูกได้เพลิดเพลินอีก
พ่อรักลูกนะครับ
กบ ธรรมกิจ
โฆษณา