14 มิ.ย. 2020 เวลา 06:49 • ปรัชญา
ถ้าคุณอยากเป็นคนฉลาด สิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดก็คือ ต้องรู้จัก"ดื่มเหล้าให้เป็น"
คุณอยากเป็นคนที่ฉลาดไหม? นี่เป็นคำถามที่เราทุกคนล้วนอยากตอบคำว่า ใช่ จริงไหม?
ว่าแต่ แล้วเราจะเริ่มต้นจากอะไรดีล่ะ?
1.อ่านหนังสือ How to
2.เรียนคอร์สสัมนาทั้ง Offline และ Online ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน
3.อยู่/ฟัง/เรียนรู้คนที่ประสบความสำเร็จ
4.ลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองรักและถนัด
5.รู้จักสร้าง Connection จากคนที่มีความรู้และประสบการณ์
5 ข้อนี้เป็นสิ่งที่นักพัฒนาตัวเองมักจะทำอยู่เป็นประจำไม่มากก็น้อยในบางข้อหรือทั้งหมด แต่มันมีอยู่สิ่งหนึ่งครับที่เป็นได้ทั้งการสร้าวและทำลายชีวิตเราได้ นั่นก็คือ การดื่มเหล้านั่นเอง
เหล้าสามารถสร้างและทำลายชีวิตของเราได้อย่างไร Near us จะอธิบายให้ฟังครับ
ก่อนอื่นเรามาดูสถิติการดื่มเหล้าของคนไทยกันซักเล็กน้อยกันก่อน
จากการรายงานของสำนักงานสถิติฯ เผยผลสำรวจพฤติกรรมการดื่มสุรา พ.ศ. 2560 ได้เปิดเผยว่า จำนวนประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปทั้งสิ้น 55.9 ล้านคน เป็นผู้ที่ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรอบปีที่แล้วประมาณ 15.9 ล้านคน(28%)โดยจำแนกออกมาเป็น 2 ส่วนได้แก่
ส่วนที่ 1 จำแนกตามความสม่ำเสมอของการดื่มแอลกอฮอล์(ใน 28%)
ผู้ที่ดื่มสม่ำเสมอ 6.98 ล้านคน(12%)
ผู้ที่ดื่มนานๆครั้ง 8.91 ล้านคน (15.9%)
ส่วนที่ 2 จำแนกตามเพศและอายุ
กลุ่มอายุ 25-44 ปี มีอัตราการดื่มสูงที่สุดอยู่ที่ 36%
กลุ่มอายุ 20-24 ปี และ 45-49 ปี มีอัตราการดื่มสุราใกล้เคียงกัน (33.5% และ 31.1% ตามลำดับ)
กลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีอัตราการดื่มสุราอยู่ที่ 15.2%
กลุ่มเยาวชนที่มีอายุ 15-19 ปี มีอัตราการดื่มสุราต่ำสุดอยู่ที่13.6%
สรุปได้ง่ายๆก็คือ ใน 100 คน จะมีคนที่ดื่มเหล้าเฉลี่ยอยู่ที่ 28 คน นั่นเองครับ
หลังจากที่เราได้รู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการดื่มเหล้าของคนไทยแล้ว คราวนี้Near us จะมาชี้ให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของการดื่มเหล้าครับ
ข้อดีของการดิ่มเหล้า คือ ทำให้สมองและร่างกายผ่อนคลาย
การดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยทำให้ร่ายกายเครื่องทำให้อารมณ์ดีขึ้นและจะช่วยลดความฟุ้งซ่านจากความเครียดในชีวิตจริง การดื่มเหล้าจะทำให้เรากล้าที่จะระบายสิ่งที่เราไม่กล้าพูดออกมาให้กับคนที่เรารู้สึกว้วางใจได้ และมันจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
นายแพทย์ สุกมล วิภาวีพลกุล หัวหน้าแผนกจิตเวช ประจำโรงพยาบาลพญาไท 2 ได้เผยว่า ในภาวะมึนเมา เคลิบเคลิ้ม คลื่นสมองจะลดความถี่ลง จาก Beta (เครียด ฟุ้งซ่าน) มาเป็น Alpha (ผ่อนคลาย) และ Theta (สลึมสลือ) แล้วก็ Delta (หลับสนิท)
1
2.ทำให้เข้าสังคมและสร้าง Connection ได้ง่ายขึ้น
อย่างที่ได้บอกในข้อแรกแล้วว่าการดื่มเหล้าจะทำให้สมองผ่อนคลาย เพราะฉะนั้นสังคมทั่วโลกจึงนิยมการดื่มเหล้าเพื่อสังสรรค์กันในงานปาร์ตี้ หากว่าคุณได้ร่วมดื่มกับเพื่อนๆและคนแปลกหน้าด้วยการดื่มเหล้ากับคนในสังคมเพื่อเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดี มันก็ทำให้คุณได้สร้างConnection+Relationship ได้ไม่เบาเลย แถมทำให้คุณได้ผ่อนคลายด้วย มีแต่ได้กับได้ครับ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เหล้าเป็นเพียวแค่สิ่งที่ช่วย"ผ่อนคลาย"แต่ไม่ได้ช่วย"แก้ปัญหา"นะครับ คุณต้องแยกแยะระหว่าง 2 สิ่งนี้ให้ดี เพราะถ้าคุณนำมารวมกัน มันจะเป็นเพียง"ข้ออ้างเพื่อหนีปัญหา" เท่านั้นเอง
ข้อเสียของการดิ่มเหล้า คือ ทำให้สมองเสื่อม
แม้ว่าข้อดีของการดื่มเหล้าจะทำให้สมองผ่อนคลายลง แต่ถ้าคุณยังเอาเหล้ามาเป็น"ข้ออ้างเพื่อหนีปัญหา" ล่ะก็ สมองของคุณก็จะมี"ข้ออ้างที่จะปล่อยให้ตัวเองตาย" เหมือนกันครับ
โรงพยาบาล สมิติเวช ได้เผยว่าภาวะสมองเสียหายจากแอลกอฮอล์จะทำให้เกิดอาการทั้ง 2 ระยะ ได้แก่
1.อาการในระยะเฉียบพลัน: สูญเสียการควบคุมตัวเอง สูญเสียความจำระยะสั้นในด้านความคิด การใช้เหตุผลลดลง เสียการควบคุมการเคลื่อนไหวทรงตัวได้ไม่ดี ถ้าได้รับแอลกอฮอล์ในปริมาณมากทำให้กดการหายใจ ระดับความรู้สึกตัวลดลงได้
2.อาการในระยะยาว: บุคลิกภาพและอารมณ์แปรปรวน ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ นำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม มีภาวะความจำเสื่อม(อัลไเมอร์) มีปัญหาการเรียนรู้และจดจำ ทำให้ความจำเละเลือน จำผิดจำถูก
สมองปกติ(ด้านซ้าย)กับสมองอัลไซเมอร์(ด้านขวา)
ซึ่งส่วนใหญ่ภาวะสมองเสื่อมมักจะเกิดจากการดื่มเหล้าจนมึนเมาเป็นระยะเวลานานๆทำให้ร่างกายเกิดการสะสมสารพิษจากแอลกอฮอล์ครับ แต่ปริมาณแอลกอฮอล์ที่สามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสมองนะครับ คือให้ไม่เกิน 3 วันใน 1 สัปดาห์ โดยปริมาณการดื่มไม่เกิน 14 ดื่มมาตรฐาน (7 pints of beer หรือ เบียร์ 4 ขวด, 1 pint of beer เทียบเท่ากับปริมาณแอลกอฮอล์ 8 กรัม) ต่อสัปดาห์ในผู้หญิง และ 21 ดื่มมาตรฐานในผู้ชาย
และนอกจากโรคสมองเสื่อมแล้ว ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิด
1.อุบัติเหตุทางรถยนต์และท้องถนน
2..โรคกลุ่ม NCD ซึ่งเป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งต่างๆ โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ถุงลมโป่งพอง โรคไตเรื้อรัง โรคอ้วนลงพุง โรคตับแข็ง เป็นต้น
สรุปก็คือ
1.การดื่มเหล้าเป็นการสร้าง Connection+Relationship ไดีดี ใครที่ยังไม่เคยลองดื่มก็ควรลองเอาไว้บ้าง เพราะในยามที่เราต้องเข้าสังคมเพื่อการเฉลิมฉลองในความสำเร็จทางการเงินและธุรกิจ ส่วนใหญ่เขาดื่มกันทั้งนั้น
2.การดื่มเหล้าเป็นเพียวแค่สิ่งที่ช่วย"ผ่อนคลาย"แต่ไม่ได้ช่วย"แก้ปัญหา" เราต้องรู้จักแก้ปัญหาด้วยการเข้าไปแก้ปัญหาด้วตัวเองหรือเป็นทีมก็ได้ ไม่ใช่มาดื่มเหล้าและอ้างว่าเป็นการแก้ปัญหาทั้งที่ในใจลึกๆกำลังหนีปัญหาอยู่
3.การดื่มเหล้าที่มากเกินไปจนทำให้มัวเมาเป็นการทำลายการพัฒนาตัวเองทั้ง 5 ข้อที่ได้กล่าวเอาไว้ในข้างต้นบทความอย่างสิ้นเชิง ทางที่ดีคือเก็บตังค์แล้วดื่มแต่พอเหมาะดีกว่า เพราะมันจะมีประโยชน์อะไรที่คุณจะพัฒนาและทำลายสมองไปพร้อมๆกัน?
4.ต้องรู้จัก"ฉลาดดื่ม"ด้วยการมีหลักการของตัวเองและหาข้ออ้างที่สังคมเขาฟังขึ้นว่าทำไมคุณถึงดื่มเหล้าน้อยและไม่เคยเมาเลย ไม่เช่นนั้น คุณจะหลงไปกับคำว่า"พวกมากลากไป" ได้ง่ายมากครับ
โฆษณา