14 มิ.ย. 2020 เวลา 03:58 • ปรัชญา
สนทนาประสาจิตจักรวาล
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงว่า
1.กรรมใครก่อ คนนั้นต้องรับผิดชอบในผลกรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีกรรมชั่ว
2.ใครทำผิดบาปอย่างไร้สำนึก จะทำให้จิตวิญญาณนั้นหลงมิติหรือ "ป่วย"
เมื่อตายไปจิตวิญญาณจะไม่อาจหลุดพ้นได้
ต้องถูกส่งไปลงนรก เพื่อชำระจิตและปรับสมดุลดุจเดิม ก่อนที่จะส่งกลับมาเกิดในภพภูมิใหม่ ตามวิถีแห่งกรรมที่กระทำไว้ในอดีตนั้น ว่าจะไปตกยังภพภูมิไหน
ดังนั้น
ใครจะหลุดลง หลุดหล่น หลุดลอย หรือว่าใครจะหลุดพ้น ก็เป็นเรื่องเฉพาะตนของรูปธรรมนั้น ท่านจงอย่าไปใส่ใจเลย
3.การเชื่อในพระเจ้าว่า
พระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง
ทรงเป็นผู้เริ่มต้นและสิ้นสุดในทุกสรรพสิ่ง
ทรงเป็นพระผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณมนุษย์
ล้วนเป็นความจริงที่ยอมรับได้ เพราะเชื่อตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า ทุกๆสิ่งล้วนเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับทุกๆสิ่งนั้นย่อมดับตามไปด้วย
ดังนั้น
ดวงจิตธรรมญาณแก่นแท้ของมนุษย์แต่ละคน รวมทั้งทุกสรรพสิ่งในจักรวาลอันไพศาลนี้ จึงอุบัติขึ้นมาได้เพราะมีผู้สร้าง หรือมีผู้เป็นเหตุแห่งการเกิด ไม่มีสิ่งใดเกิดเองได้ด้วยความบังเอิญแน่นอน
1
ด้วยเหตุนี้เอง
การเชื่อในพระเจ้าของพวกเรา การยอมรับในพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของเรา จึงมิใช่ผู้ที่ฝักใฝ่ลัทธิเทวนิยมแต่ประการใด
4.พระผู้เป็นเจ้ามิใช่เทวะที่บางศาสนาบางลัทธิ สมมติให้เป็นเทพเทวดาทั้งหลาย ในสวรรค์มายาหรอกท่าน
เพราะรูปธรรมจิตวิญญาณของเทพเทวดานั้น เป็นผู้ที่ทิ้งกายสังขารจากการเป็นมนุษย์แล้ว ก็ยังมิอาจหลุดพ้นคือนิพพานได้ จึงได้แต่หลุดลอยเท้งเต้งอยู่ในระบบเอกภพนี่แหละ โดยมนุษย์ทั้งหลายเข้าใจว่าที่นั่นเป็น #แดนสวรรค์
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
จิตวิญญาณที่หลุดลอยอยู่ในสวรรค์มายานี่ต่างหาก ท่านจึงจะสามารถเรียกพวกเขาว่า #เทวะ ได้
สำหรับ #พระเจ้าหรือพระบิดา นั้น ทรงต่างกันกับพวกเทวะหรือเทวดาอย่างสิ้นเชิง
พระบิดามิได้เป็นเทวะผู้หลงมิติอยู่ในสวรรค์มายา แต่พระองค์ทรงเป็นรูปธรรมทางพลังงาน ที่ดำรงอยู่ตรงจุดศูนย์กลางสนามพลังงานสากล ที่มีเอกภพเป็นสนามพลังงานระบบหนึ่ง ซึ่งพระองค์ทรงกำหนดสร้างขึ้นไว้ ทับซ้อนอยู่บนสนามพลังงานขนาดใหญ่ ที่เป็นรูปธรรมทางพลังงานของพระองค์เองต่างหาก
อีกทั้งพระองค์ก็มิเคยเกิดเป็นมนุษย์มาก่อน โอกาสจบสิ้นอายุขัยแล้วหลงมิติไปเป็นเทวดา จึงยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย
เรามีความเห็นว่า พวกที่ฝักใฝ่ในลัทธิเทวะนิยมนั้น น่าจะเป็นพวกที่ฝักใฝ่ใน #บุญนิยม มากกว่า
พวกฝักใฝ่ในลัทธิบุญนิยมก็คือพวกที่ เน้นการทำบุญเบื้องล่างเอาไปสร้างเบื้องบน ทำบุญหลายหนได้กุศลหลายครั้งมากกว่านะ
มุ่งทำบุญเบื้องล่างแล้วเอาไปสร้างเบื้องบน โดยหวังว่าเมื่อตายแล้วจิตวิญญาณจะได้ไปสวรรค์ การทำบุญจึงเป็นการสร้างวิมานเอาไว้ให้ตนเมื่อตาย มิได้บำเพ็ญปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นแต่อย่างใด
เพราะเหตุนี้ไง
จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่บวชนานแล้วนิพพานไม่ได้
4.ดังนั้น
การยอมรับในพระเจ้า การเชื่อในพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ จึงมิใช่เป็นการฝักใฝ่เทวะนิยมแต่ประการใด
แท้แล้วเป็นการแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ผู้นั้น ไม่เนรคุณต่อพระบิดาผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของตน ไม่เลอะลืมผู้ให้โอกาสตนเองได้มาเกิดเป็นมนุษย์ ไม่เป็นลูกทรพีต่อผู้บังเกิดเกล้า ด้วยการสามหาวก้าวล่วงทันที ที่ได้ยินคำว่า "พระเจ้า" โดยไม่หยิบเอาปัญญามาพิจารณา
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
20-09-2017

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา