ที่หมู่บ้านจะตักบาตรกันช่วง 6 โมงเช้า วันก่อนพอหลวงตาท่านกำลังให้พร มีเด็กผู้ชายคนนึง อายุประมาณ 7-8 ขวบ แต่งชุดนักเรียนสะพายเป้เดินมาคลุกเข่าลง น้อมศีรษะพนมมือไหว้หลวงตาอย่างไม่เคอะเขินหรือเก้กัง หลังตักบาตรเสร็จก็ถามแม่ เด็กคนนี้ใช่คนเดียวกับที่เราเคยเห็นไหม คราวก่อนที่เห็นน้องกำลังร้องไห้ น้ำมูกน้ำตาไหล สองมือถือจานรองถุงอาหารหวานคาวรอตักบาตรหลวงตา พรางได้ยินคุณป้าพูดว่า นิ่งซะลูก ไม่ต้องร้องไห้ พ่อแม่เอ็งตีมาอีกแล้วใช่ไหม แล้วรถมอร์ไซด์ขายของของของพ่อแม่เด็กคนนี้ก็ขับผ่านมาพอดีโดยไม่ได้พูดอะไร ตอนนั้นเราเห็นเพียงเท่านั้น จนมาเจอกิริยาที่เด็กผู้ชายคนนี้ที่คลุกเข่าลงน้อมกราบหลวงตา เลยถามที่มาที่ไปจากแม่ แม่เล่าให้ฟังว่า พ่อแม่ของเด็กมักลงโทษเด็กด้วยความรุนแรง ต่อว่าด่าทอ และสนใจแต่ทำมาหากิน ลูกมีจิตกุศลอยากออกมาตักบาตรตอนเช้าก็จะโดนต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง เพราะจะต้องรีบออกไปทำมาหากิน และเด็กก็เคยกล่าวกับหลวงตาว่า หลวงตาครับ วันนี้ผมไม่ได้มาตักบาตรนะครับ จนคุณลุงคุณป้าขาประจำตักบาตรแถวนั้นรับรู้ทั่วกันก็บอกกันว่า เด็กคนนี้มีจิตเป็นกุศล อ่อนน้อมถ่อมตน ชอบทำบุญตั้งแต่เด็ก แต่น่าเสียดายที่พ่อแม่เด็กกลับไม่เห็น ซ้ำยังต่อว่าลูกตนเองเสียอีก
เป็นตัวอย่างให้พึงระลึกในใจว่า แม้เลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกทำได้ และการกระทำของเรา ไม่ว่าจะทางความคิด คำพูด การกระทำล้วนนำพาให้ชีวิตเราสูงขึ้นหรือต่ำลงได้ เลือกทำได้ในชีวิตนี้เท่านั้น
มีอีกหลายรูปแบบชีวิตที่พิสูจน์ให้เห็นชัดว่า...
เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรม เป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
เราไม่ได้เกิดมาเพื่อย่อท้อต่อผลกรรมจากอดีต แต่เราได้รับโอกาสแห่งการเกิดครั้งนี้จากผลกรรมของการทำดีที่สั่งสมนานแสนนานอย่างพากเพียรด้วยเช่นกัน จงอย่าท้อต่อการทำดี จงใช้โอกาสการเกิดครั้งนี้ให้มีความหมายสำคัญต่อชีวิตต่อไปในภายหน้าด้วย
แม้เกิดมามืด ก็ไปสว่างได้
แม้เกิดมาสว่าง ก็ไปมืดได้
แม้เกิดมามืด ก็มืดต่อไปได้
แม้เกิดมาสว่าง ก็สว่างต่อไปได้
ดังชื่อพระนิพนธ์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ว่า ชีวิตนี้น้อยนัก แต่สำคัญนัก 🙏🏾🙏🏾🙏🏾
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
