14 มิ.ย. 2020 เวลา 17:23 • ความคิดเห็น
อย่าปล่อยให้ทุกข์เล็กๆ กลายร่างเป็น ทุกข์ร้าย ทำลายชีวิตของเรา
เฮ้อ......เสียงแบบนี้ น่าจะเป็นอาการ ที่เรียกกันว่า ถอนหายใจ
โดยส่วนใหญ่แล้ว คนเรามักจะถอนหายใจ กัน 2 รูปแบบ
1.ถอนหายใจ ด้วยความโล่งใจ ปลอดโปร่ง เป็นอิสระ
แสดงถึง ความผ่อนคลาย สบายใจ
เป็นความสุข ในแบบที่ใครๆ ก็ปราถนา
2.ถอนหายใจ ด้วยความเหนื่อยหน่าย อัดอั้น
อุดอู้ หดหู่ ท้อแท้ สิ้นหวัง เหนื่อยใจ
ซึ่งแบบนี้คือ ปัญหา ที่บ่งบอกถึง ความทุกข์
ที่มันกำลัง บีบคั้น กดดัน บดขยี้ จิตใจ
สร้างความรู้สึกด้านร้าย ได้แก่ ความขุ่นมัว
เศร้าหมอง ความโกรธ ร้อนรน กระวนกระวายใจ
หรือ อ้างว้าง ว้าเหว่ ซึมเซา
ในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น หนีไม่พ้นอยู่แล้ว เรื่องที่เกี่ยวข้อง กับความสุข และ ความทุกข์ ที่หมุนเวียน ผลัดเปลี่ยน กันเข้ามา
ถ้าเป็น ความสุข ที่มาได้บ่อยๆ ก็เป็นเรื่องดี
แต่ถ้าเป็น ความทุกข์ ที่มาเยี่ยมเยียนอยู่บ่อยๆ
หรือ อย่างบางคน ก็รู้สึกว่าตัวเอง มีความทุกข์
แทบจะตลอดเวลา .............อันนี้น่ากลัวมาก
หากปล่อยไว้เนิ่นนาน ไม่ได้แก้ไข จะทำให้
ความรู้สึกด้านร้ายต่างๆ ที่มาพร้อมกับ ความทุกข์
สามารถเข้ามายึดครองพื้นที่ ในความคิด และ จิตใจ
ของเราอยู่เสมอๆ จนเคยชิน
ต่อไปอาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ร้ายแรง
ถึงขั้นคอขาดบาดตาย
เราอาจกลายเป็นคน หดหู่ ซึมเศร้า สิ้นหวัง ท้อแท้ เบื่อหน่ายชีวิต
หรือ เป็นคน เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจ มีอารมณ์รุนแรง
ก็อาจเป็นได้
ดังนั้น หากใครที่ยังรู้สึกมีความทุกข์ อยู่บ่อยๆ
แม้จะเป็นทุกข์ขั้นเล็กน้อย แค่ขัดหู ขัดตา ขัดใจ
ทำให้ หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน ขุ่นมัว ไม่สบอารมณ์ หรือ
ทำให้เบื่อหน่าย ผิดหวัง อ้างว้างว้าเหว่ ซึมเซาก็ตาม
เราก็ไม่ควรปล่อยให้ ความรู้สึกด้านร้าย แบบนี้
สงบหายไปเฉยๆ โดยไม่คิดแก้ไขอะไร
เพราะแท้จริงแล้ว มันไม่ได้หายไปไหนเลย.......
เพียงแต่มันหลบเข้าไปสะสมกองกำลังฝ่ายร้าย
ตั้งออฟฟิศ อยู่ในจิตใจ ของเรานั่นเอง
ถ้าเราปล่อยให้มัน ชุมนุม สุมหัวกันไป เนิ่นนานเข้า
มันก็จะสั่งสมพลังมากพอ ที่จะทำ StartUp
ให้กับตัวเรา
ทำให้เรากลายเป็นคนที่ สุขได้ยาก ทุกข์ได้ง่าย
เมื่อเราเจอกับเรื่องอะไรที่ ไม่ชอบใจ ไม่พอใจ
แม้เพียงนิดเดียว พวกมัน ก็จะแสดงตัว แสดงพลัง ของมัน ออกมา
ครอบงำ ความคิด และ จิตใจของเรา
ชักใยควบคุม ความคิดของเรา
แสดงออกมาเป็น ความโกรธ ความฉุนเฉียว หงุดหงิด งุ่นง่าน หัวร้อน อดรนทนอะไรไม่ได้ เอาแต่ใจตัวเอง ห้ามขัดใจ
หรือ ไม่ก็ทำให้เรา เศร้าซึม เก็บตัว เบื่อหน่ายสังคม ไม่รักตัวเอง
หากเราไม่คิดแก้ไขอะไร มันก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน
เหมือนอย่างบางคน ที่เพียงแค่สบตากัน ก็อาจมีโทษถึงตาย
ขับรถปาดหน้ากันเพียงเล็กน้อย ก็อาจได้กลับบ้านเก่าโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น เราจึงจำเป็นจะต้องเร่งรีบ แก้ไข อย่างเร่งด่วน
เริ่มตั้งแต่ ความทุกข์ เล็กๆน้อยๆ ที่เราเจอบ่อยๆ
ซึ่งทำให้เราสะสม ความรู้สึกด้านร้าย เหล่านี้
ซึ่งการแก้ไขนี้ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากลำบากหรือสุดวิสัยเกินกว่า สติ และ ปัญญา ของเราแต่อย่างใด
หลักสำคัญ....คือเราควรรู้จักหยิบยกเอา
คุณสมบัติวิเศษ ที่มนุษย์ทุกคน มีอยู่ในตัวเอง
มาฝึกหัดใช้งาน ให้ชำนาญ ให้เชี่ยวชาญ
เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต่อชีวิต
ซึ่งคุณสมบัติวิเศษในตัวเราก็คือ สติ และ ปัญญา ของเรา
ปัญญา (ถ้าฝึกใช้เป็น) คือ อาวุธวิเศษ
ที่ใช้ปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระ หลุดพ้น
จากปัญหา และ ความทุกข์ ์ในทุกรูปแบบ
สติ คือ เครื่องมือ ที่ใช้เหนี่ยวรั้ง ความคิด
ไว้ให้ ปัญญา เข้ามาทำงาน จัดการปัญหา
ปัญหาทุกอย่าง ที่อยู่ภายใต้ขอบเขต ของกำลัง
สติ และ ปัญญา ของเรา ทั้งหมด
เราสามารถ ลงมือแก้ไข จัดการกับมันได้เสมอ
ขึ้นอยู่กับว่า เราจะยอมลงมือทำการ คิดอ่าน
หาวิธีแก้ไขมันหรือเปล่าเท่านั้น
เมื่อเราต้องเจอกับปัญหา หรือ ความทุกข์
ถ้าเราปล่อยตัว ไม่ฝึกให้มีสติ คอยควบคุม
ตัวปัญหา จะแย่งบทบาท ชักพาเอา
ความคิดของเรา ให้เตลิดไป ติดจมกับ ความทุกข์
ถูกบีบคั้น กดดัน ทำให้ ความคิด มีแต่ความรู้สึกด้านร้าย
ตีบตัน อัดอั้น อุดอู้ ฟุ้งซ่าน และ สมองตื้อ
เราจึงอาจกระทำสิ่งที่เสียหาย ออกไป เป็นโทษ
เป็นพิษเป็นภัย แก่ตัวเอง และ ผู้อื่น
เพราะความคิด เรามีแต่ สิ่งร้ายๆ ครอบงำอยู่
ตัวอย่างของคนที่ขาดสติ จนก่อความรุนแรง
ความเสียหาย ต่างๆ มีให้เห็นมากมายจนขี้เกียจนับ
ในกรณีที่เรา มีการฝึกสติ เมื่อเจอกับปัญหา
สติ สามารถ เหนี่ยวรั้ง ความคิดเอาไว้ได้ เปิดช่อง
ให้ปัญญาเข้ามาทำงาน ในความคิด
ปัญหา จะถูก ปัญญา จับตรึง ชำแหละ แยกแยะ
วิเคราะห์ สืบสาวหาเหตุปัจจัย หาต้นตอ หาวิธี แก้ไข
เมื่อปัญญาทำงาน ความคิด ก็สามารถทำงานได
้อย่างไหลลื่น เป็นระบบ คล่องตัว รวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพ กลับมาเกื้อหนุนให้ ปัญญา ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างมีให้เห็นมากมาย คนที่เอาชีวิตรอดได้
ในยามคับขัน จากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ ภัยพิบัติ
ถูกโจรปล้น ถูกทำร้าย ฯลฯ
เพียงเพราะเขามีสติ แม้ไม่กี่วินาที ความคิดไม่เตลิด
ปัญญาเข้ามาทำงานได้ ก็เอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ที่เลวร้าย ต่างๆได้ ทันท่วงที
ต่อไปเมื่อเราเจอกับ ปัญหา ความทุกข์ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่
ขอเพียงเราฝึกให้มีสติ ดึงความคิด ให้ปัญญาทำงาน
ไม่ปล่อยให้ไหลไปตามอารมณ์ ตามปัญหา อย่างที่ผ่านมา ความทุกข์ก็จะถูกแก้ไขได้โดยง่าย
เราจะกลายเป็นคนที่ ทุกข์ได้ยาก สุขได้ง่าย
มีความปลอดโปร่ง โล่งเบา สบาย มีจิตใจ สดชื่น ร่าเริง เบิกบาน ผ่องใส เป็นคุณสมบัติที่ดีประจำตัว
ทำให้เหล่าบรรดาสิ่งเลวร้าย ต่างๆ ที่เคยสร้างออฟฟิศ สุมหัวกัน อยู่ในจิตใจเรา
ก็ไม่สามารถมีอิทธิพล เพราะถูกลดอำนาจ
ลดบทบาทลง จนไม่เหลือกำลัง
ความคิด ก็ไหลลื่น คล่องตัว มีประสิทธิภาพ
เกื้อหนุนต่อการ ฝึกฝนพัฒนา สติ และ ปัญญา
ให้ขยายขอบเขต มีความละเอียดลึกซึ้ง คมชัด
และ เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
สามารถรองรับการแก้ปัญหาที่ใหญ่ และ ยุ่งยาก ซับซ้อน ได้มากยิ่งขึ้น เราจะกลายเป็นคนที่ เก่งกล้าสามารถ และ เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
จากนี้ต่อไป เชื่อว่า การถอนหายใจ ในแต่ละครั้งของเรา
จะมีแต่ความปลอดโปร่ง โล่งเบา สบายอก สบายใจ
เพราะมีแต่ความสุข เป็นอิสระ สามารถหายใจได้อย่างเต็มปอด ทำให้สดชื่น มีความกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า
ส่งผลทำให้ร่างกาย ทำงานได้อย่าง มีพละกำลังเข้มแข็งต่อไป
สำหรับ เรื่องทีเกี่ยวข้องโดยตรง กับ
สติ และ ปัญญา โดยละเอียดนั้น
จะนำมาแสดง เพิ่มเติม ในบทความต่อๆไป
โฆษณา