15 มิ.ย. 2020 เวลา 10:22 • ประวัติศาสตร์
#ประวัติศาสตร์จีนฉบับย่อ_4-4
การเข้ามาของศาสนาพุทธในแผ่นดินจีน
พระพุทธศาสนาเริ่มแผ่เข้าสู่ประเทศจีนช่วงปลายราชวงศ์ฉิน
แต่ประชาชนในยุคนั้นคิดว่าพระในศาสนาพุทธก็คือนักบวชในลัทธิเต๋า
ในรัชสมัยของจักรพรรดิฮั่นหมิงตี้ (ค.ศ. ๕๘ – ๗๕)
พระองค์ได้ส่งราชทูตไปสืบพระศาสนา ณ ประเทศอินเดีย
และได้นิมนต์พระภิกษุชาวอินเดีย ๒ รูปคือ
พระกาศยปมาตังคะ (เกียเฮียะม่อเท้ง) และพระธรรมรักษ์ (เต็กฮวบลั้ง)
มายังนครลั่วหยาง (ลกเอี๋ยง) พระองค์ได้สร้างอารามขึ้น ณ นครลั่วหยาง
พระราชทานนามว่า “วัดแปะเบ้ยี่” หรือ “วัดม้าขาว”
นับเป็นปฐมสังฆารามของจีน
พระกาศยปมาตังคะ ได้ลงมือแปลถ่ายทอดพุทธวจนะออกเป็นภาษาจีน
จนได้ พระสูตร ๔๒ บท พระพุทธศาสนาในเวลานั้น
ยังไม่แพร่หลายเท่าไรนัก ในรัชสมัยของจักรพรรดิจางตี้ (ค.ศ.๗๕ – ๑๐๕)
ภิกษุชาวปาร์เธียชื่ออันสินเกา จาริกมาถ่ายทอดพุทธวจนะ
ออกเป็นภาษาจีนได้ถึง ๙๐ พระสูตร ส่วนใหญ่เป็นคัมภีร์ของฝ่ายสาวกยาน
ครั้นมาถึงยุคสามก๊ก พระธรรมกาลเป็นภิกษุชาวอินเดียจาริกมาประดิษฐาน
สีมาวินัยกรรมเป็นปฐมที่นครลั่วหยาง พร้อมทั้งให้อุปสัมปทาแก่กุลบุตร
และได้แปลปาติโมกข์ออกมาอบรมสั่งสอนกุลบุตรที่ท่านอุปสัมปทาให้ด้วย
ในสมัยราชวงศ์ฮั่น แม้ว่าพระพุทธศาสนาจะเป็นที่เลื่อมใสแต่ก็ยังจำกัดอยู่ในวงแคบคือ ในหมู่ข้าราชการและชนชั้นสูงแห่งราชสำนักเป็นส่วนใหญ่
ยังไม่แพร่หลายในหมู่ประชาชนชาวเมือง เพราะชาวจีนส่วนใหญ่ยังคงนับถือลัทธิขงจื้อและลัทธิเต๋า จนกระทั่งโม่งจื๊อ นักปราชญ์ผู้มีความสามารถยิ่งได้
แสดงหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ให้ชาวเมืองได้เห็นถึงความจริงแท้
อันลึกซึ้งของพระพุทธศาสนาเหนือกว่าลัทธิเดิม กับอาศัยความประพฤติอันบริสุทธิ์ของพระสงฆ์เป็นเครื่องจูงใจให้ชาวจีนเกิดศรัทธาเลื่อมใส
จนทำให้ชาวเมืองหันมานับถือพระพุทธศาสนามากกว่าลัทธิศาสนาอื่นๆ
พระพุทธศาสนาก็เจริญรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ
วัดม้าขาว หรือ ไป๋หม่าซื่อ (สำเนียงจีนกลาง) หรือ แป๊ะเบ๊ยี่ (สำเนียงแต้จิ๋ว) (อักษรจีน: 白馬寺, อังกฤษ: White Horse Temple, พินอิน: Báimǎ Sì) เป็นวัดทางพุทธศาสนาแห่งแรกที่ตั้งขึ้นในประเทศจีน อยู่ที่เมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน
โฆษณา