Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
2+1 Two Plus One Book
•
ติดตาม
15 มิ.ย. 2020 เวลา 15:39 • บันเทิง
คำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับนักเขียนหลายคนมากๆ ดังนั้นตัวอักษรสีน้ำเงินเลยหยิบเรื่องนี้มาแบ่งปันกันเพื่อช่วยให้เพื่อนๆ นักเขียนหลายคนสามารถเขียนงานได้อย่างไร้ทางตัน
สิ่งแรกที่สำคัญมากเวลาเขียนงานออกมาแล้วถึงทางตันไม่สามารถไปต่อได้ คุณต้องถามตัวเองให้ได้ว่า ตันเพราะอะไร? เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เพื่อนๆ นักเขียนหลายคนมองข้าม เพราะเรามัวแต่จดจ่อที่จะเขียนออกมาให้ได้ เราเลยเครียดกับมันแทน ดังนั้น หาคำตอบให้ได้ว่าทำไมเราถึงรู้สึกว่า .... ตัน ....
เขียนไม่ออก
นักเขียนทุกคนเป็นรวมถึงตัวผู้เขียนคนนี้ด้วย ดังนั้นวันนี้ตัวอักษรสีน้ำเงินจะมาแชร์ประสบการณ์และวิธีแก้เรื่องนี้กัน
เขียนงานไม่ออกเพราะไม่มีอารมณ์เขียน จริงๆ เรื่องนี้คลาสสิกมากสำหรับนักเขียน แม้เราจะขึ้นชื่อว่าเป็นนักเขียนแต่เราไม่ได้มีอารมณ์ทำงานตลอดเวลา แต่บางครั้งด้วยความที่เราเป็นนักเขียนและมันเป็นงานศิลปะ อารมณ์ไม่มาก็ยากที่จะได้ผลงานดีๆ ออกมาได้ แต่รู้อะไรไหม งานเขียนทุกงานไม่ได้จบในครั้งเดียว สุดท้ายเราเขียนงานจบเราก็ต้องตรวจแก้อย่างน้อยสองถึงสามรอบเป็นเรื่องปกติ
ดังนั้นถ้าคุณมีเหตุผลแค่ไม่มีอารมณ์และไม่สามารถหาเหตุผลอื่นมารองรับได้ ก็อย่าใช้อารมณ์ แต่ให้ใช้ความรับผิดชอบในงาน เขียนงานของคุณต่อ พูดง่ายๆ คือ รับผิดชอบงานของคุณ ‘ทำมันซะ’ มันไม่ใช่เพื่อตัวคุณเองเท่านั้น ยังมีนักอ่านอีกหลายคนที่กำลังรออ่านงานของคุณ และคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่า งานเขียนที่คุณกำลังทำอยู่ อาจจะเปลี่ยนชีวิตใครบางคน หรืออาจจะกำลังเป็นความสุขของใครสักคน
ถ้าคุณไม่สามารถใช้อารมณ์เขียนได้ก็ใช้ความรับผิดชอบเขียน สุดท้ายแล้วงานทุกอย่างมันจะถูกแก้ไขอยู่ดี งานเขียนที่คุณจะส่งต่ออาจจะมีคุณค่าสำหรับใครบางคน
เขียนงานไม่ได้เพราะไม่รู้จะไปต่อยังไง อันนี้เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ ซึ่งนักเขียนทุกคนเจอ และต้นตอของปัญหาส่วนใหญ่จะเกิดจากการไม่ได้สร้างเค้าโครงงานให้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่แรก เพราะเค้าโครงงานสำหรับนักเขียนก็เหมือนแผนที่ คุณจะรู้ว่าคุณกำลังจะไปถึงที่หมายได้ยังไงก็ต่อเมื่อคุณได้ร่างแผนที่ขึ้นมา และจุดที่สำคัญที่สุดของแผนที่คือ เป้าหมายหรือที่ที่คุณจะไปให้ถึง นักเขียนบางคนรู้อยู่แล้วว่าจะไปให้ถึงเป้าหมายได้ยังไง แต่อย่าลืมว่าทางไปมันก็มีหลายทางเหลือเกิน ดังนั้นถ้าคุณรู้จุดจบและร่างแผนที่ขึ้นมา คุณก็จะรู้ที่คุณจะไปต่อได้ หรือแม้แต่คุณจะซอกแซกไปตามซอยเล็กซอยน้อยก่อนก็ไม่มีใครว่า เพราะคุณจะไม่หลงทาง ที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อคุณเขียนโครงร่างขึ้นมา คุณจะเห็นหลายอย่างที่อยู่ในนั้นเต็มไปหมด บางจุดที่เราคิด ณ ตอนนั้นว่ามันดี แต่พอคุณกลับมาดูมันอีกครั้งคุณยังสามารถดันมันไปให้สุดได้อีก หรือบางจุดที่อาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติเราก็ยังปรับแก้ได้ นั่นช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานเขียนของเราได้อีกด้วยเช่นกัน
ดังนั้นถ้าคุณรู้ว่างานเขียนของคุณยังขาดเค้าโครงเรื่องเพื่อทำให้เรื่องดำเนินต่อไปได้ ก็ต้องสร้างมันขึ้นมาแล้วปัญหานี้ของคุณจะหายไป แต่ไม่จำเป็นว่าเค้าโครงเรื่องต้องละเอียดยิบ การเขียนเค้าโครงเพื่อการดำเนินเรื่องจนได้หนังสือหนึ่งเล่มมันแล้วแต่ความถนัดส่วนบุคคล บางคนเขียนไม่เขียนก็สามารถทำงานหน้าต่อหน้าได้ บางคนเขียนเค้าโครงแค่ระยะหน้า กลางและหลังก็สามารถทำงานได้แล้ว แต่ในขณะที่บางคนต้องเขียนเค้าโครงให้ละเอียดขึ้นมาหน่อยถึงจะประกอบรูปเล่มงานแล้วพิมพ์งานออกมาได้ นักเขียนแต่ละคนแตกต่าง แต่ถ้าคุณคิดว่า คุณถึงทางตันจนไม่สามารถไปต่อได้แล้ว การลองเขียนเค้าโครงขึ้นมาก็ไม่ได้เสียหายอะไร
ถ้าคุณเขียนงานไม่ออกเพราะไปต่อไม่ได้ ลองฝึกทำเค้าโครงงานออกมาดูแล้วจะรู้ว่าจริงๆ งานเขียนหลายงานที่คุณกำลังกองอยู่มันคืองานเขียนที่ดีและทรงคุณค่ากับผู้คน แต่มันแค่ขาดแผนที่นำทางเท่านั้นเอง
เขียนไม่ออกเพราะรู้สึกเบื่อ เหตุผลคลาสสิคของนักเขียนอีกหนึ่งข้อ บางครั้งนักเขียนก็รู้สึกเบื่อ แม้จะบอกไม่ได้ว่าเราเบื่ออะไร ถ้าคุณรู้สึกแบบนี้ให้รีบย้อนขึ้นไปอ่านย่อหน้าที่สอง พอเราทำงานถึงจุดหนึ่งมันเป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกแบบนี้ไม่ต้องตกใจ แต่ให้ทำใจ และหยิบหนังสือสักเล่มที่เกี่ยวข้องกับงานเขียนของเราขึ้นมาอ่าน บางครั้งเราอาจจะแค่ใช้พลังงานมากเกินไปจนลืมเติมเชื้อไฟบ้างเท่านั้นเอง
ดังนั้นการที่เราลุ่มหลงหมกมุ่นกับงานเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราจะได้งานเขียนที่เยี่ยมยอด แต่ในทางตรงกันข้ามเอาต์พุตที่ดีก็เกิดจากการป้อนอินพุตที่ดีเช่นกัน อย่าเคร่งเครียดกับมันมากจนเกินไป ผ่อนคลายบ้าง จงเป็นนักอ่านชั้นเลิศและเป็นนักเขียนชั้นเยี่ยมที่พร้อมจะส่งต่องานที่ทรงคุณค่าต่อนักอ่าน
ถ้าเบื่อมากให้กลับไปอ่าน ถ้าอ่านพอแล้วค่อยกลับมาเขียน วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้นักเขียนลบความรู้สึกเบื่อหน่ายทิ้งไป แล้วผลิตงานเขียนที่ทรงคุณค่าเพื่อนักอ่านได้อีกครั้ง
สำหรับนักเขียนทางตันมีหลากหลายมากมาย แต่รวบยอดคงมีประมาณนี้ และอยากจะแนะนำเทคนิคอีกนิดๆ หน่อย เผื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นักเขียนบางคน
สถานที่เขียนงาน
สำคัญสำหรับนักเขียนมาก เพราะงานเขียนเป็นงานที่ใช้สมาธิระยะยาว ดังนั้นอยู่ในที่ที่ส่งเสริมสมาธิ
เวลาเขียนงาน
สำคัญพอๆ กับข้อบน เวลาไหนที่คุณว่าคุณมีสมาธิในการทำงานที่สุด หรือถ้าคุณเป็นคนที่มีจิตใจแน่วแน่เวลาไหนก็ได้ ก็ลงมือเลย
เขียนงานไม่ออก
ลงมือทำ
อ่านมาถึงข้อนี้ แค่อยากจะบอกว่า ถ้าคุณเข้าใจทุกข้อแต่ไม่ลงทำ ก็ไม่มีทางที่ผลงานจะเขียนตัวเองได้ เมื่อได้ความคิดให้ชีวิตในงานเขียนไม่ตันแล้ว ลงมือทำกันเถอะ
เขียนและเรียบเรียงโดย ตัวอักษรสีน้ำเงิน
นักอ่านที่หมกมุ่นกับการเขียนหนังสือ
นักอบขนมอินดี้ที่ SoSoBrownie (ร้านขนมออนไลน์)
นักเดินทางที่แบกเป้เพื่อเรียนรู้โลกกว้าง
เพื่อนๆ สามารถเข้ามาพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/blueletterstudio/
TrueID :
https://cities.trueid.net/@14995
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย