ยุ่งชะมัด...กว่าจะเป็นสัตวแพทย์ ตอนที่ 1
หลังจากที่คุยกันเรื่องสัตว์เลี้ยงกันไปพอสมควร หมอเลยอยากจะมาเล่าเรื่องชีวิตวัยเรียน (10กว่าปีที่แล้ว) สนุกๆดูบ้างค่ะ ไม่เคยคิดเลยว่า เด็กผู้หญิงธรรมดาๆ อยู่ในเมือง จะได้มาใช้ชีวิตอะไรแบบนี้
และคิดว่า ถ้าไม่ได้เข้ามาเรียน คงไม่มีประสบการณ์แบบนี้แน่นอน
...
...
มักจะมีคนถามบ่อยๆค่ะ ว่าทำไมถึงมาเป็นสัตวแพทย์...
เชื่อว่า คุณหมอหลายๆคนจะมีเหตุผลอยู่ในใจอยู่แล้ว...
เคยเลี้ยงหมาแล้วหมาตาย... เลยอยากเรียนเพื่อมารักษามันได้...
แม่ชอบเลยส่งมาเรียน...ตามเพื่อนมา...
ที่บ้านมีธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์ เช่น ฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ โรงพยาบาลสัตว์...
และเหตุผลอีกมากมาย...
คิดว่าคนที่มาเรียนและทำตรงนี้ได้ ต้องเป็นคนที่รัก และเมตตาสัตว์แน่นอนค่ะ
...
...
นี่คือภาพที่คิดไว้ ก่อนที่จะเข้ามาเรียนในโรงเรียนสัตวแพทย์...
แต่ความเป็นจริงนั้น....จงลืมภาพสัตวแพทย์ในหัวท่านให้เสียสิ้น!!
...
ย้อนไปสมัยหมอยังเป็นเด็กสาวม.ปลาย ที่ไม่ได้คิดเลยว่าวันนึง จะมีคำนำหน้า สพ.ญ. หรือ DVM กับความรับผิดชอบมากมายที่ตามมากับคำๆนี้
ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดถึงอนาคตอะไรเท่าไหร่ ว่าโตขึ้นอยากทำงานอะไร อยากเป็นอะไร
จนคุณพ่อมาคุย สอนให้เรา ตั้งเป้าหมาย และวางแผน เพื่อที่จะเดินทางให้ไปถึงเป้าหมายนั้น
ทำให้เราได้คิดทบทวน คิดถึงอนาคต ว่าต่อไปเราจะเป็นอะไร ทำอะไร และเลือกที่จะใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง ตามที่เราตั้งใจไว้
...
“ป๊าแม่ หนูสอบติดคณะสัตวแพทย์”
วันนั้น ... รู้เลยว่า ถ้าเราตั้งใจ และพยายามที่จะทำอะไรแล้ว แม้ว่ามันจะเหนื่อย ยาก ลำบาก แต่ก็ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เรียนเก่งอะไร
...
วันที่ตื่นเต้น วันที่ดีใจ วันที่เริ่มกังวล ไม่รู้ว่าเมื่อเรียนแล้ว เราจะต้องเจออะไรบ้าง เพื่อนใหม่ อาจารย์ใหม่ สังคม สภาพแวดล้อมใหม่ ...
กับชีวิตนิสิตมหาวิทยาลัย
แต่ขอบอกเลยว่า ชีวิตนิสิตสัตวแพทย์นั้น โคตรสนุก โคตรมันส์ และไม่คิดเลยว่าจะได้ทำอะไรแบบนี้ และไม่เคยเสียใจเลยกับสิ่งที่เลือก ...
เรียนสัตวแพทย์ ต้องผ่ากบจริงมั๊ย?...
ต้องเรียนกับอาจารย์ใหญ่มั๊ย?...
สัตวแพทย์หญิง อึด ถึก และบึกบึน ล้มวัวด้วยมือเปล่าได้จริงรึเปล่า?...
ติดตามได้หลังจากนี้นะคะ☺️
จากเด็กม.ปลาย สู่ชีวิตนิสิตมหาวิทยาลัย ปี1 วัยใส วัยลั่นล้า วัยfreshy
เป็นช่วงปรับตัว ทุกอย่างล้วนตื่นเต้น สงสัย อยากรู้ ทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่ไปหมด
ใหม่ยันป้าร้านขายข้าว
เราผ่านกิจกรรมต่างๆของคณะ และของมหาวิทยาลัย และเป็นปีเดียวที่จะได้เรียนวิชานอกคณะ ได้เจอเพื่อนๆคณะอื่น รวมทั้งหนุ่มๆคณะอื่นด้วย โดยเฉพาะหนุ่มวิศวะ ก็ยังเป็น 1 ในใจของสาวสัตวแพทย์มาทุกรุ่น
วิชาเด็ดปีแรก เทอมแรกก็เจอ “วิชาผ่ากบ” หรือ Zoology
เรียนทุกอย่างเกี่ยวกับอนาจักรสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ หลายท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า kingdom phylum division โอ้...คำนี้มันนานมากจริงๆ ที่ไม่ได้พูดถึง มันคือชีววิทยาม.ปลายแบบละเอียด เจาะลึกนั่นเอง
กลับมาที่ผ่ากบ
ทำไมต้องผ่ากบ? เราเรียนเรื่องกายวิภาคของสิ่งมีชีวิต ซึ่งกบเป็นตัวแทนที่หาได้ง่าย ตัวเล็ก ราคาถูก และมีอวัยวะภายในคล้ายของคนที่ไม่ซับซ้อน และเข้าใจง่าย
ครั้งแรกที่เจอคือ กบตัวใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก เหมือนถูกขุนให้ตัวอ้วน (อาจไปสบสนกับคางคก) บอกเลยว่าไม่เคยเห็นกบตัวเป็นๆ ใกล้ๆขนาดนี้มาก่อน ทำเอาตื่นเต้นไม่น้อย
เสียงกรี๊ดกร๊าดมากมายในคลาส โดยเฉพาะจากนิสิตชาย😂
จากนั้นที่ต้องทำคือ แช่น้ำแข็งให้กบตาย และเปิดผ่า หรือที่เรียกว่า put to sleep , Euthanasia ในใจไม่เคยทำ และไม่กล้าทำ แต่ก็ต้องทำ เราเรียนรู้จาก 1 ชีวิต เพื่อช่วยเหลืออีกหลายชีวิต หลังจากนั้นก็พากันไปทำบุญให้มัน เลยรู้สึกสบายใจมากขึ้น
เหตุระทึกก็ยังมีต่อ หลังจากแช่แข็งแล้ว นอนนิ่ง คิดว่ากบตายแล้ว เปิดผ่าแล้ว ปรากฎว่า ...
.... หัวใจยังเต้นอยู่เลยค้าบบบพี่น้อง!! .....(ทำอะไรไม่ถูก จับมือเพื่อนแล้วภาวนา สุดท้ายมันก็หยุดเต้นไปเอง)
เราต้องรู้การทำงานของอวัยวะทุกอย่าง กล้ามเนื้อทุกมัด ต้องจำให้ได้ทั้งหมด และการบ้านที่ต้องทำต่อคือ นำกบไปต้ม เพื่อเอากล้ามเนื้อออก ให้เหลือแต่กระดูก และเอากระดูกทั้งหมดนั้น มาต่อให้เป็นตัวกบเหมือนเดิม เหมือนต่อจิ๊กซอว์ และเราต้องจำชื่อกระดูกทุกชิ้นให้ได้ด้วย
กระดูกกบ มีโครงสร้างที่ใกล้เคียงกับของคนค่ะ
งานต่อกระดูกกบไม่ใช่งานที่ง่ายเลย เรียกว่างานช้างก็ได้ เพราะกระดูกทุกชื้น รวมกัน แยกไม่ออกว่าชิ้นไหน เป็นชิ้นไหน ต่อกับตรงไหน ถ้าเกิดหายไปชิ้นนึง ก็ต้องกลายเป็นกบพิการแน่ๆ
แต่ก็ต่อมันสำเร็จจนได้นะคะ จำได้ว่าเอากลับมาต่อที่บ้าน พ่อ แม่ถึงกับงง นี้ฉันส่งลูกไปเรียนอะไรเนี่ย!!!! ตอนส่งงาน ก็ต้องถือกบ ขึ้นรถเมล์ไป พี่คนขับ กระเป๋ารถเมล์ แม้แต่ผู้โดยสารคนอื่นก็มองเป็นสายตาเดียวกัน “นั่นตัวอะไร” เราก็แค่ได้แต่ยิ้มๆ “กบค่า กบค่า”และระวังไม่ให้จิ๊กซอว์ที่ต่อมานั้นพัง ไม่งั้นงานงอกอีกแน่ๆ😅
นอกจากกบแล้วเรายังมีสัตว์อื่นๆอีกด้วย
ปลาหมึก
ถ้าไม่เรียนก็ไม่รู้ว่า ไอไข่ปลาหมึกที่เรากินๆกันเนี่ย จริงๆไม่ใช่ไข่ปลาหมึกจริงๆ
มันคือ Nidamental gland ซึ่งเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ผลิตสารหุ้มไข่ และสารอาหารเลี้ยงตัวอ่อนปลาหมึก ถ้ามาจากตัวผู้ก็คือ อัณฑะปลาหมึกนั่นเอง
ไข่จริงๆ เล็กนิดเดียว ไม่พอกินหรอก นึกถึงน้ำจิ้มซีฟู๊ดแล้วหิวว >w<
กุ้ง
ส่วนที่เราเรียกว่า มันกุ้ง มันคือ ส่วน hepatopancreas เป็นระบบย่อยอาหารของกุ้ง ก่อนที่มันจะกลายเป็นขี้กุ้งนั่นเองค่ะ
แต่ถ้าจะกินให้มันอร่อย ก็อย่าไปคิดมากจริงไหมคะ 555
ถึงตรงนี้ ถ้าใครชอบอยากส่งลูก ส่งหลานมาเรียน มาค่ะ แล้วจะรู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตมากมายบนโลกใบนี้ที่เราไม่เคยรู้จัก ทำให้เราได้เรียนรู้อีกมาก นี่เป็นเพียง 1 วิชาเด็ดๆที่ต้องเรียนเท่านั้น ยังมีสิ่งที่น่าสนุก และเรียนรู้อีกค่ะ
แม้ไม่ใช่คนเก่ง แต่หากเราตั้งใจ และพยายาม เราก็จะไปถึงเป้าหมายได้ ความพยายามไม่เคยทำร้ายใครค่ะ
ตอนหน้า : อาจารย์ใหญ่ที่เป็นสุนัข กับความผูกพันของนิสิตสัตวแพทย์
ติดตามต่อได้นะคะ😁🙏🏻🙏🏻
- 5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
