Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ooc
•
ติดตาม
15 มิ.ย. 2020 เวลา 21:57 • ประวัติศาสตร์
Grand Duchess Elizabeth Feodorovna’s Emerald Tiara เทียร่าของโฉมงานอันดับหนึ่งแห่งยุโรป
“ตัวเรือนทำจากเงินและทองคำประดับเพชร มรกต 7 เม็ดวางเด่นเป็นสง่า ลวดลายของเทียร่าถูกออกแบบมาให้ดูคล้ายทรงเลขาคณิต โดยแอบซ่อนดอกลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ (Lily of the Valley) สัญลักษณ์แห่งความรักและความโชคดีไว้ข้างใน”
ทั้งหมดนี้คือคำบรรยายลักษณะของเทียร่าที่แกรนด์ดยุกเซอร์เกย์ อเล็กซานโดรวิชแห่งรัสเซีย สั่งทำขึ้นใหม่เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแต่งงานแด่เจ้าสาวที่สวยที่สุดในยุโรป มรกต 7 เม็ดที่ประดับบนเทียร่า เป็นของดูต่างหน้าซารีน่ามาเรีย - พระมารดาของพระองค์ที่เพิ่งสิ้นพระชนม์ไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน
เจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งเฮ็สเซินและไรน์- เจ้าสาวที่กำลังเดินทางมาเข้าพิธีในฤดูหนาวของปี 1884 เป็นเจ้าหญิงเยอรมันโดยกำเนิด เธอเป็นหลานสาวของควีนวิกตอเรียผู้ยิ่งใหญ่ พระมารดาของพระองค์คือเจ้าหญิงอลิซแห่งสหราชอาณาจักร ส่วนพระบิดาของพระองค์คือลูทวิชที่ 4 แกรนด์ดยุกแห่งเฮ็สเซินและไรน์ ทรงเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเจ้าหญิงอเล็กซานดร้า - ซึ่งต่อมาจะสมรสเป็นพระมเหสีของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2
เจ้าหญิงเอลิซาเบธ หรือ เอลล่า ได้รับเสียงชื่นชมจากนักประวัติศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งในหญิงที่งามที่สุดในยุคสมัย พระองค์เติบโตมาในบ้านที่เข้มงวดและเคร่งศาสนา เจ้าหญิงอลิซผู้เป็นมารดาลงมือเย็บผ้าให้ลูกๆ ด้วยพระองค์เอง ในขณะที่เอลล่าแม้จะมียศเป็นเจ้าหญิงก็ถูกสอนให้ใช้ชีวิตอย่างอ่อนน้อม พระองค์ต้องทำความสะอาด กวาด/ถู บริเวณบ้านตั้งแต่เด็ก และเมื่อเจ้าหญิงอลิซสิ้นพระชนม์ไปด้วยวัยเพียง 35 เจ้าหญิงวิกตอเรียและเจ้าหญิงเอลล่าซึ่งเป็นลูกสาวสองคนแรก ก็ต้องรับหน้าที่สำคัญเป็นทั้งแม่และพี่สาวของน้องๆ อีก 4 คนที่เหลือ
ควีนวิกตอเรีย ผู้มีศักดิ์เป็นสมเด็จยายเข้ามาดูแลชีวิตของหลานๆ อย่างใกล้ชิดหลังการเสียชีวิตของลูกสาว พระองค์สนพระทัยเอลล่าเป็นพิเศษเพราะทรงเป็นเจ้าหญิงที่สวยโดดเด่นกว่าพี่น้อง หนึ่งในเจ้าชายที่ตกหลุมรักเอลล่าอย่างถอนตัวไม่ขึ้นคือเจ้าชายวิลเฮล์มแห่งปรัสเซีย (ต่อมาคือไกเซอร์วิลเฮล์มที่ 2) ขณะที่วิลเฮล์มยังเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยบอนน์ (Bonn University) ทรงเคยเดินทางมาเยี่ยมบ้านของเจ้าหญิงเอลล่าซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องหลายครั้ง (พระมารดาของเจ้าชายวิลเฮล์มคือเจ้าหญิงวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร ผู้มีศักดิ์เป็นพี่สาวของเจ้าหญิงอลิซ) ว่ากันว่าการมาเยี่ยมญาติเป็นแค่ข้ออ้าง เพราะที่จริงแล้วเจ้าชายรัชทายาทแห่งปรัสเซียกำลังตกหลุมรักลูกสาวคนสวยของน้าอลิซ – เจ้าหญิงเอลล่า อย่างถอนตัวไม่ขึ้น วิลเฮล์มขอเอลล่าแต่งงานในปี 1878 แต่ได้รับการปฎิเสธ เจ้าชายผู้หยิ่งทะนงทรงประกาศกร้าว จะหาเจ้าหญิงที่เหมาะสมมากกว่ามาเข้าพิธีแต่งงานให้ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว – สาวผู้โชคดี(?) ของเจ้าชายวิลเฮล์มคือเจ้าหญิงเอากุสตา วิกตอเรีย ธิดาฟรีดริชที่ 3 ดยุกแห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์
เจ้าชายปรัสเซียไม่ใช่คนเดียวที่ถูกหักอก เอลล่ายังเป็นที่หมายปองของชายสูงศักดิ์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลอร์ดชาร์ล มอนทากิว ลูกชายของดยุกแห่งแมนเชสเตอร์ และ เฟรเดอริกที่ 2 แกรนด์ดยุกแห่งบาเดิน คนหลังนี้ควีนวิกตอเรียเชียร์ขาดใจ กระทั่งเขียนจดกมายให้หลานสาวกล่าว่า “ดยุกคนนี้เป็นคนดีและมั่นคง เขาจะมอบชีวิตแต่งงานที่ปลอดภัยและมีความสุขให้หลานได้” อย่างไรก็ดี เจ้าหญิงเอลล่าปฎิเสธการแต่งงานอีกครั้ง ท่ามกลางความผิดหวังของควีนวิกตอเรียและจักรพรรดินีออกุสตาแห่งปรัสเซีย (ผู้มีศักดิ์เป็นสมเด็จย่าของเฟรเดอริก)
ผู้คว้าหัวใจของเอลล่าไปได้ในท้ายสุด คือชายหนุ่มที่มาไกลจากรัสเซีย แกรนด์ดยุกเซอร์เกย์แห่งราชวงศ์โรมานอฟ ชายหนุ่มพูดน้อยที่ดูเคร่งขรึมจริงจังตลอดเวลา เซอร์เกย์กับเอลล่ารู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก ซารีน่ามาเรีย พระมารดาของแกรนด์ดยุก มีตำแหน่งโดยกำเนิดเป็นเจ้าหญิงแห่งเฮ็สเซินและไรน์ทำให้ทรงเดินทางกลับบ้านที่เยอรมันบ่อยครั้งโดยมักพาเซอร์เกย์กับพอล ลูกชายสองคนสุดท้องตามเสด็จมาด้วย แม้ว่าเซอร์เกย์จะมีทีท่าสนใจเอลล่า แต่ก็ทรงไม่กล้าแสดงออก กระทั่งพระบิดาและพระมารดาของพระองค์จากไปในเวลาใกล้เคียงกัน ความเศร้าของเซอร์เกย์ทำให้ทั้งสองมีโอกาสได้เปิดใจ ว่ากันว่าหนึ่งในเหตุผลที่เซอร์เกย์ตัดสินใจขอเอลล่าแต่งงาน เพราะเจ้าหญิงมีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกับมารดาของพระองค์เป็นอย่างมาก เอลล่าเดินทางไปรัสเซียพร้อมความผิดหวังของควีนวิกตอเรีย สำหรับราชินีผู้ยิ่งใหญ่ รัสเซียเป็นดินแดนห่างไกลที่เต็มไปด้วยอันตราย ไม่ใช่ที่ที่สาวน้อยเปราะบางแบบเอลล่าควรไปอยู่เลยสักนิด
เอลล่าหรือแกรนด์ดัชเชสเอลิซาเบธ เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย (พระยศหลังแต่งงาน) ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้คนมากมาย แกรนด์ดยุกคอนสแตนติน คอนสแตนติโนวิช แต่งกลอนบรรยายถึงก้าวแรกที่เจ้าหญิงเดินทางมาถึงว่า ‘สะกดใจทุกสายตา’ เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูบอฟ เรียกเอลล่าว่า ‘เป็นเหมือนแม่คนที่สอง คอยช่วยเหลือเกื้อกูลในช่วงเวลาที่ยากและเลวร้ายที่สุดในชีวิต’ ราชินีมาเรียแห่งโรมาเนีย บรรยายแกรนด์ดัชเชสว่า ‘สวยงามอ่อนโยนและชวนฝัน’ แม้แต่เอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำรัสเซียก็เขียนก็ไว้ในบรรทึกความทรงจำเล่าว่าแกรนด์ดัชเชสเอลล่านั้น ‘ทำให้หัวใจเขาพองโต’
เซอร์เกย์และเอลล่าไม่มีทายาทร่วมกัน ทั้งสองรับลูกๆ ของน้องชาย - แกรนด์กยุกพอล มาเป็นบุตรธรรม แกรนด์ดัชเชสมาเรีย และแกรนด์ดยุกดิมิทรี เพิ่งเสียแม่ไปได้ไม่นาน แกรนด์ดยุกพอลผู้เป็นพ่อก็แต่งงานใหม่กับสตรีสามัญชนทำให้โดนตัดขาดและเนรเทศออกจากราชวงศ์ เซอร์เกย์และเอลล่าเลี้ยงมาเรียและดิมิทรีประหนึ่งลูกของตน แต่แล้วเรื่องเศร้าก็เกิดขึ้นในปี 1906 เมื่อเซอร์เกย์ถูกลอบสังหารโดยคณะปฎิวัติ นักฆ่าถูกจับในทันทีและพิธีศพถูกจัดขึ้นหลังจากนั้น แกรนด์ดัชเชสมาเรีย - ลูกสาวบุญธรรมของทั้งสอง บรรยายว่า ผู้คนต่างพากันร้องไห้ แม้แต่นักบวชก็พร่ำสวดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา แต่แกรนด์ดัชเชสเอลล่านิ่งสงบ เธอคุกเขาอยู่ข้างร่างของสามี ปราศจากน้ำตา แต่มีสีหน้าที่แข็งแกร่งแม้ซีดเผือด
หลังความตายของสามี เอลล่าบริจาคชุดเครื่องเพชรและทรัพย์สินมีค่าทั้งหมด แม้แต่แหวนแต่งงานก็ไม่ทรงเก็บไว้ ทรงบวชเป็นแม่ชีในศาสนจักรรัสเซียออร์โธด็อกซ์ และถูกปลงพระชนม์โดยพรรคบอลเชวิคหลังการปฎิวัติ แต่ได้รับการยกย่องให้เป็นนักบุญในศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ในภายหลัง
สำหรับเทียร่าที่ทรงได้รับเป็นของขวัญ เอลล่าได้มอบต่อให้กับแกรนด์ดัชเชสมาเรียเพื่อเป็นของขวัญแต่งงานของลูกสาวบุญธรรมกับเจ้าชายวิลเลียมแห่งสวีเดน ชีวิตแต่งงานของทั้งสองพระองค์ไม่ราบรื่น มาเรียหย่าขาดและกลับมารัสเซียในช่วงที่ไฟแห่งการปฎิวัติกำลังโหมกระหน่ำ เธอได้นำเทียร่าติดตัวออกจากรัสเซียได้สำเร็จอีกครั้งโดยใช้บัตรแสดงตัวตนว่าทรงเป็นคนสัญชาติสวีเดน
มาเรียขายเทียร่าไปในภายหลัง ชีวิตหลังการปฎิวัตินั้นไม่ง่าย แกรนด์ดัชเชสจากราชวงศ์ที่ล่มสลายบันทึกว่าเธอนั้น “ไม่เคยถือเงินสดมาก่อน ไม่เคยรู้ว่าการเซ็นเช็คหมายถึงอะไร พอรู้ราคาของเสื้อผ้าและเครื่องประดับ แต่กลับไม่รู้ว่าไข่ไก่ ขนมปัง และนมหนึ่งขวดมีราคาเท่าไหร่แน่” ผู้ที่รับซื้อเทียร่าไป คือกษัตริย์อเล็กซานเดอร์แห่งเซอร์เบีย ทรงซื้อเทียร่าองค์งาม เพื่อเป็นของขวัญแต่งงานให้เจ้าสาวของพระองค์ - เจ้าหญิงมาเรียแห่งโรมาเนีย (ทำให้เทียร่าองค์นี้มีอีกชื่อเรียกคือ Yugoslavian Emerald Tiara)
เทียร่ามรกตได้เป็นประจักษ์พยานของการล่มสลายอีกครั้ง หลังราชวงศ์เซอร์เบียถูกขับไล่ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กษัตริย์ปีเตอร์ (ลูกชายของอเล็กซานเดอร์และมาเรีย) ทรงลี้ภัยไปสหรัฐฯ และเป็นเชื้อพระวงศ์ยุโรปองค์แรกที่ถถูกฝังในแผ่นดินของโลกใหม่ พระองค์ได้ขายเทียร่าไปแล้วก่อนหน้า ให้กับบริษัท Van Cleef & Arpels บริษัทเครื่องเพชรและอัญมณีสัญาชาติฝรั่งเศส ปัจจุบันเทียร่าของแกรนด์ดัชเชสเอลิซาเบธ ยังถูกเก็บไว้ แต่ได้มีการนำมรกตออก โดยใส่ของทำเลียนแบบลงไปแทน ไม่มีใครรู้ว่ามรกตทั้ง 7 เม็ดหายไปไหน เทียร่าองค์นี้ยังถูกเก็บไว้กับบริษัท และมีการนำออกมาให้ยืมใช้ในบางครั้ง สำหรับเซเลบริตี้และเศรษฐีที่ยินดีจะจ่ายหนัก เพื่อลองสวมน้ำหนักของเทียร่าแห่งประวัติศาสตร์
ปล ในภาพเป็นเทียร่าที่ทำจำลองขึ้นมาโดยพิพิธภัณฑ์ Royal Exhibitions ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ
References
http://arrayedingold.blogspot.com/2011/07/most-beautiful-princess-elizabeth.html
http://fiveminutehistory.com/a-tale-of-two-sisters/
http://www.unofficialroyalty.com/july-18-daily-featured-date/#:~:text=The%20couple%20married%20on%20June,Petersburg%2C%20Russia.&text=Instead%2C%20she%20was%20represented%20by,as%20Grand%20Duchess%20Elizabeth%20Feodorovna
.
https://jenniwiltz.com/tiara-tuesday-grand-duchess-elizabeth-feodorovnas-emerald-tiara/?fbclid=IwAR0KzbUoj_-_uE083AsKuBJpN2dk7ir3sTtnQXR-uX2BjFkh6Qm8DF8V2Vs
http://royalwatcherblog.com/2017/03/12/yugoslavian-emerald-tiara/?fbclid=IwAR1e2YzNpV2Y9M4-X7aWHPYWWBbTpM9peRBLmE2ipp9b0Jvn_BscaBA_qjo
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย