16 มิ.ย. 2020 เวลา 08:54 • ประวัติศาสตร์
• การล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน
ฉบับเข้าใจง่าย ตอนที่ 1
กลุ่มชนเผ่าอารยชนบุกทำลายกรุงโรม
ราวศตวรรษที่ 3 จักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร เริ่มเสื่อมอำนาจลง กองทัพโรมันแตกแยกออกเป็นก๊กเป็นเหล่า และแต่ละฝ่ายต่างก็เลือกผู้นำของพวกตน ให้เป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ของโรมัน
4
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง ดินแดนของจักรวรรดิโรมัน ก็ถูกรุกรานโดยชนเผ่าต่าง ๆ จากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ชนเผ่าเหล่านี้รู้จักกันในชื่อ "ชนเผ่าเยอรมัน" (Germanic Tribes) ซึ่งชาวโรมันได้เรียกชนเผ่าเยอรมันนี้ว่า "พวกอนารยชน" (Barbarian) ซึ่งหมายถึง กลุ่มคนที่ไร้อารยธรรม
1
แผนที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มชนเผ่าอารยชน ในดินแดนของจักรวรรดิโรมัน
กลุ่มชนเผ่าเยอรมัน เป็นกลุ่มชนเผ่าที่พูดภาษาตระกูลเจอร์มานิก (Germanic languages) หรือภาษาเยอรมันโบราณ
ในปี 284 ขุนศึกโรมันนามว่า "ไดโอคลีเชียน" (Diocletian) ได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิของโรมัน พระองค์ทรงจัดระเบียบกองทัพใหม่ รวมทั้งขยายขนาดกองทัพ เพื่อป้องกันการรุกรานจากพวกอนารยชน
จักรพรรดิไดโอคลีเชียน
จักรพรรดิไดโอคลีเชียนรู้ดีว่า จักรวรรดิโรมันมีขนาดที่ใหญ่เกินไป เกินที่คนคนเดียวจะปกครองได้ ดังนั้นพระองค์จึงได้แบ่งดินแดนของจักรวรรดิโรมันออกเป็น 2 ส่วน คือ โรมันตะวันตก (Western Roman Empire) กับโรมันตะวันออก (Eastern Roman Empire)
1
แผนที่การแบ่งดินแดนจักรวรรดิโรมันออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนตะวันตก (สีส้ม) เป็นของจักรพรรดิแม็กซิเมียน และส่วนตะวันออก (สีเขียว) เป็นของจักรพรรดิไดโอคลีเชียน
โดยจักรพรรดิไดโอคลีเชียน จะทรงปกครองในส่วนของโรมันตะวันออก ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงไบแซนทิอุม (Byzantium)
1
ในขณะที่โรมันตะวันตก ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโรม (Rome) จะมีจักรพรรดิซึ่งเป็นอดีตขุนศึกโรมันนามว่า "แมกซิเมียน" (Maximian) ปกครอง
จักรพรรดิแม็กซิเมียน
ทั้งจักรพรรดิแมกซิเมียน และจักรพรรดิไดโอคลีเชียน ต่างก็มีผู้ช่วยในการปกครองและบริหารบ้านเมือง ที่เรียกว่า "ผู้แทนพระองค์" (Deputy)
รูปแกะสลัก จักรพรรดิแม็กซิเมียน แห่งโรมันตะวันตก (ซ้าย) ทรงสวมกวดจักรพรรดิไดโอคลีเชียน แห่งโรมันตะวันออก (ขวา)
หลังจากที่จักรพรรดิไดโอคลีเชียน แห่งโรมันตะวันออกสละอำนาจ ก็เกิดการต่อสู้แย่งชิงอำนาจกัน จนในปี 312 นายพลคอนสแตนติน (Constantine) ก็สามารถปราบปรามขุนศึกคนอื่น ๆ และขึ้นมาเป็นจักรพรรดิแห่งโรมันตะวันออกได้สำเร็จ
1
จักรพรรดิคอนสแตนติน
ต่อมาพระองค์ก็ได้ทำการรวมจักรวรรดิโรมันทั้ง 2 ส่วน ให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งหนึ่ง
2
จักรพรรดิคอนสแตนติน ได้ทรงย้ายเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมัน จากกรุงโรมไปยังที่กรุงไบแซนทิอุม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลดำ กรุงไบแซนทิอุมในเวลาต่อมา จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "กรุงคอนสแตนติโนเปิล" (Constantinople) เพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดิคอนสแตนติน
นอกจากนี้ในยุคสมัยของพระองค์ ศาสนาคริสต์ก็ได้ถูกประกาศให้เป็นศาสนาประจำของจักรวรรดิโรมัน ทำให้นับแต่นั้นมา ศาสนาคริสต์ก็ได้รุ่งเรืองและถูกเผยแพร่ไปทั่วทวีปยุโรป
ยุคสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ถือได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองสุดท้ายของจักรวรรดิโรมัน เพราะหลังจากสิ้นสุดสมัยของพระองค์ เค้าลางหายนะก็ได้ปรากฏขึ้น จนนำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันในเวลาต่อมา
1
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา