17 มิ.ย. 2020 เวลา 03:00 • ความคิดเห็น
ช่วงสาย ๆ มีเรื่องเล่า เป็นเรื่องราวในชีวิตของเราเอง ที่ตัดสินใจเขียนบท
ความนี้ขึ้นมาเพราะหวังว่าจะเป็นกําลังใจให้กับใครหลาย ๆ คน
เมื่อก่อนฐานะที่บ้านค่อนข้างดีในระดับหนึ่ง ไม่ได้รวยมากแต่พอมีกิน มีใช้
พ่อทําธุรกิจที่ไปได้สวยเลยในตอนนั้น แต่สิ่งพวกนี้มันไม่แน่ไม่นอนหรอก
เพราะวันหนึ่งที่เศรษฐกิจกําลังแย่ ธุรกิจของพ่อก็ได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ
ตอนนี้เราเป็นเด็กอายุ 18 ที่กําลังจะเข้ามหาวิทยาลัย รับรู้ปัญหาทุกอย่างที่
บ้านมาโดยตลอด พ่อแม่ไม่ได้ปกปิดถึงปัญหาที่กําลังเจอ ถ้าลูก ๆ ถามพ่อ
แม่ก็จะบอก แต่ไม่เคยแสดงความกังวล หรือสิ้นหวังให้ลูกได้เห็น
เลย...
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้นะ ปัญหาใหญ่ขนาดนี้ทําไมพ่อกับแม่ถึงไม่มีทีท่าว่า
กังวลกับมัน
ลูก : แม่ทําไมแม่ดูไม่เครียด ไม่กังวลบ้างเลย
แม่ : พ่อบอกกับแม่ว่า ไม่ต้องเครียดหรอก เพราะเดี๋ยวลูก ๆ ก็จะช่วยบ้านเราให้ดีขึ้นเอง พอลูก ๆ เรียนจบมีงานทําทุกอย่างก็จะดีขึ้น
...ตอนนั้นที่ฟังแม่พูดก็แอบนํ้าตาซึม ลูก ๆ เป็นความหวังของพ่อแม่
แอบสัญญากับตัวเองในใจว่า แม่รอหนูหน่อยนะ
แม่พูดต่ออีกว่า พ่อให้แม่คิดแบบนี้ แม่เลยนอนหลับสนิทในทุก ๆ คืน
ตอนนี้มหาวิทยาลัยก็ใกล้จะเปิดเรื่องเงินจึงสําคัญมาก ๆ แอบเกรงใจพ่อที่
ต้องขอเงิน แต่พ่อก็บอกกับเราว่า ลูกไม่ต้องกังวล พ่อมีให้ลูกเสมอ พ่อหา
ให้ได้ เท่าไหร่ก็ได้ บอกพ่อมาเลย
...นาทีนั้นคือกลั้นนํ้าตามาก ๆ ไม่อยากให้พ่อเห็น
สัญญากับตัวเองเลยว่าต้องทําให้พ่อแม่สบายขึ้นกว่าเดิมให้ได้
เราเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกเรื่องความรัก ปากแข็งหน่อย ๆ ถ้าพ่อแม่
มาเห็นบทความที่หนูเขียน ก็ขอบอกผ่านบทความนี้เลยว่า หนูจะประสบ
ความสําเร็จนะคะ (กลั้นนํ้าตาไม่ไหว)
บ้านไหน หรือใครที่กําลังเจอปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องใด อย่าสิ้นหวัง
เลยนะคะ ให้คิดว่ายังมีคนอื่นที่เจอปัญหาหนักกว่าเราและผ่านมันไปได้
เราเองก็ต้องผ่านไปได้นะ
โฆษณา