17 มิ.ย. 2020 เวลา 08:43 • ประวัติศาสตร์
• การล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน
ฉบับเข้าใจง่าย ตอนที่ 2
1
ในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน (Constantine) ถือได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองสุดท้ายของจักรวรรดิโรมัน
จักรพรรดิคอนสแตนติน
และเมื่อพระองค์สละอำนาจในปี 324 จักรวรรดิโรมันก็มิอาจกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกเลย จักรพรรดิโรมันองค์หลัง ๆ ก็ล้วนอ่อนแอและไม่มีประสิทธิภาพ
เวลาผ่านไปจนกระทั่งในราวปี 370 ทวีปยุโรปได้ถูกรุกรานโดยกลุ่มชนเผ่าเร่ร่อนจากเอเชียกลาง ชนเผ่าเหล่านี้รู้จักกันในชื่อ "ชาวฮัน" (Huns)
ชาวฮัน เป็นกลุ่มชนเผ่านักรบจากเอเชียกลาง เชื่อกันว่าพวกเขาเป็นบรรพบุรุษของชาวมองโกล
พวกฮันได้บุกโจมตี และรุกรานไปทั่วทั้งดินแดนยุโรป การรุกรานในครั้งนี้ ยังได้ทำให้กลุ่มชนเผ่าเยอรมัน ซึ่งถือว่าเป็นศัตรูเก่าแก่ของโรมัน ต้องอพยพโยกย้ายเข้าไปในดินแดนของจักรวรรดิโรมันมากยิ่งขึ้น
เรียกได้ว่าในช่วงเวลานั้น ดินแดนจักรวรรดิโรมัน ต่างก็เต็มไปด้วยชนเผ่าเยอรมัน รวมไปถึงชาวฮันที่ได้บุกเข้ามารุกรานอีกด้วย
เมื่อชาวฮัน (เส้นสีเขียว) บุกเข้ามาในทวีปยุโรป ก็ได้ทำให้ชนเผ่าเยอรมัน (หรือพวกอนารยชน ที่ชาวโรมันเรียก) อพยพเข้ามาในดินแดนของโรมันมากยิ่งขึ้น
การสู้รบระหว่างทหารโรมันกับชาวฮัน
ขณะนั้นกำลังทหารและกองทัพของโรมัน ต่างก็ไร้ประสิทธิภาพ ทำให้กองทัพโรมันไม่อาจชนะกองทัพพวกชนเผ่าเร่ร่อนอย่างชาวฮันได้ (ถึงขนาดที่ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาในกรุงโรม ต้องออกมาเจรจากับผู้นำของชาวฮันเลยทีเดียว)
สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 1 (Pope Leo I) ทรงเจรจากับแอตติลา (Attila) ผู้นำของชาวฮัน เพื่อขอความเมตตาและสงบศึกระหว่างกัน
ด้วยเหตุนี้ ทำให้โรมันถึงกลับต้องยินยอมให้กลุ่มชนเผ่าเยอรมัน ซึ่งชาวโรมันเคยดูถูกว่าเป็น "พวกป่าเถื่อน ไร้อารยธรรม" เข้ามาตั้งถิ่นฐาน และมาเป็นพลเมืองของโรมันได้
โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ พวกเขาจะต้องเข้าร่วมกับกองทัพโรมัน เพื่อต่อสู้กับพวกฮัน
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 4 การรุกรานของพวกฮันก็ยุติลง แต่จักรวรรดิโรมันเองก็ไม่อาจฟื้นตัวได้อีก
จนกระทั่งในราวปี 395 ดินแดนจักรวรรดิโรมันก็แตกออกเป็น 2 ส่วนอย่างถาวร คือจักรวรรดิโรมันตะวันตก ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโรม และจักรวรรดิโรมันตะวันออก ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล
จักรวรรดิโรมันแตกออกเป็น 2 ส่วนอย่างถาวร คือ โรมันตะวันตก (สีแดง) และโรมันตะวันออก (ม่วง)
นับแต่นั้นมา คลื่นของชนเผ่าเยอรมันหลากหลายเผ่า ต่างก็ถาโถมเข้ามาในดินแดนของจักรวรรดิโรมัน จนทำให้โรมันไม่สามารถควบคุมการอพยพได้อีกต่อไป
กรุงโรมศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ได้ถูกกลุ่มชนเผ่าเยอรมันบุกรุกรานหลายต่อหลายครั้ง อาทิ ชาววิซิกอท (Visigoths) ในปี 410 และชาวแวนดัล (Vandal) ในปี 455
1
ท้ายที่สุดจุดอวสานของจักรวนรโรมันก็มาถึง ในปี 476 ผู้นำของชาววิซิกอทที่มีชื่อว่า "โอดัวเชอร์" (Odoacer) ได้บุกทำลายและเผากรุงโรมจนย่อบยับ
กรุงโรมถูกชนเผ่าวิซิกอท เผาทำลายจนพินาศ
โอดัวเชอร์ได้สถาปนาตนเองเป็นกษัตริย์ของอิตาลี และขับไล่จักรพรรดิองค์สุดท้ายของโรมันคือ จักรพรรดิโรมุลุส เอากุสตุลุส (Romulus Augustulus) นับเป็นจุดจบอันน่าเศร้าใจ ของจักรวรรดิที่มีความยิ่งใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกยุคโบราณ
จักรพรรดิโรมุลุส เอากุสตุลุส จักรพรรดิองค์สุดท้ายของจักรวรรดิโรมัน (ตะวันตก)
โอดัวเชอร์จับกุมตัวจักรพรรดิโรมุลุส เอากุสตุลุส
การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก นับเป็นจุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์อารยธรรมตะวันตกในยุคโบราณ แม้ว่าจักรวรรดิโรมันตะวันตกจะล่มสลายไป แต่จักรวรรดิโรมันตะวันออก ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล จะยังคงดำรงอยู่ยาวนานอีกนับพันปี ในนาม "จักรวรรดิไบแซนไทน์" (Byzantine Empire)
1
จักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือจักรวรรดิไบแซนไทน์ จะดำรงอยู่จนถึงปี 1453 ก่อนที่จะพ่ายแพ้ให้กับจักรวรรดิออตโตมัน
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา