18 มิ.ย. 2020 เวลา 10:37 • ไลฟ์สไตล์
ในชีวิตคุณมีเรื่องอะไรที่เป็นความภูมิใจสูงสุด
บ้าง
สำหรับแม่ลูกสี่อย่างดิฉัน แน่นอน ในฐานะที่เกิดมาเป็นผู้หญิง เป็นเพศแม่ การได้ทำหน้าที่แม่ถือ
เป็นความภูมิใจสูงสุด..
เช่นเดียวกับผู้หญิงอีกหลายๆคน
แต่นอกจากความเป็นแม่แล้ว...หน้าที่การงานเป็นอีกประการหนึ่งที่นำพาความภาคภูมิใจมาให้
มันมากับความทุ่มเท ความรักและจิตวิญญาณ
ค่ะ...ดิฉันเป็นครู
ความภูมิใจที่ไม่ได้มาจากตำแหน่งชื่อเสียง
เงินทองหรือเกียรติยศใดๆ
แต่มาจากการได้ปั้นและสร้างคน
ได้อบรมสั่งสอนเด็กด้วยความรักและความหวังดีที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ
ไม่สนใจว่าสิ่งที่ทำไป พูดไป พร่ำบ่นไป จะถูก
เด็กหรือใครๆ แอบก่นด่าหรือเกลียดชัง
ด้วยบอกตัวเองอยู่เสมอว่า นี่คือสิ่งที่ครูต้องทำ
บอกตัวเองอย่างนี้จริงๆ นี่คือสิ่งที่คนเป็น"ครู"ต้องทำ
ไม่ได้หวังให้เด็กรัก จึงไม่มีการเอาใจ
เด็กทำดี ก็ยกย่องชมเชย
แต่หากทำไม่ถูก ไม่ใช่ ไม่ควร ก็ตักเตือน อบรม
บางครั้งอาจใช้คำพูดที่รุนแรง แต่นั่นคือความรักและความปรารถนาดีล้วนๆที่ครูคนหนึ่งจะให้ได้กับนักเรียน
หาใช่ความเกลียดชังใดๆไม่
ดังนั้น แม้จะเหนื่อยอกเหนื่อยใจ แต่ก็ไม่เคย
เหนื่อยกาย พร้อมสู้ทุกลมหายใจ
ไม่เคยหวังรางวัลตอบแทนจากหน่วยงานใดๆ
นอกจากรางวัลจากนักเรียน
เด็กคนหนึ่งให้รางวัลดิฉันโดยที่เขาเองก็ไม่รู้
ตัว
วันไหนดิฉันลา หรือมาช้ากว่าปกติ เด็กคนนี้ก็จะชะเง้อตั้งตาคอย
เดินถามเพื่อนทั่วโรงเรียนว่าครูวนิดามารึยัง
ดิฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ก็เห็นว่าแกจะยิ้มกว้างทุก
ครั้งเมื่อดิฉันโผล่มา ...ก็เข้าใจว่า เป็นธรรมดา
ของนักเรียนเมื่อเห็นครู
จนกระทั่งวันหนึ่ง แอบได้ยินนักเรียกดิฉัน
ว่า แม่ไอ้มีนมาแล้ว
ดิฉันถึงกับงง ฉันเหมือนแม่ยัยมีนตรงไหน คนละหุ่น คนละไซส์ออกขนาดนั้น
ครั้นได้ยินคำเฉลย ดิฉันถึงกับต้องกระพริบตา
ไล่น้ำอุ่นๆที่กำลังจะล้นออกมาจากตา
"มีนเขาเรียกครูลับหลังว่าแม่ เขาบอกว่าเขารัก
ครูเหมือนแม่"
เกินพอแล้วค่ะ สำหรับค่าตอบแทน...มันมากยิ่ง
กว่ารางวัลใดๆ
โฆษณา