Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หงส์แดงตะแคงฟ้า By Dr.Know
•
ติดตาม
18 มิ.ย. 2020 เวลา 07:27 • กีฬา
" Doubter To Believer " นี่คือประโยคแรกๆที่ คล๊อปป์ ได้พูดเอาไว้ในวันที่เข้ามารับตำแหน่ง ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล แทน แบรนดอน ร็อดเจอร์
การสัมภาษณ์ครั้งแรกของคลอปป์ มีคำพูดที่น่าสนใจมากมาย ทั้งการเรียกตัวเองว่า “เดอะ นอร์มอล วัน” เมื่อถูกเปรียบเทียบกับ" เดอะ สเปเชี่ยลวัน" โชเซ่ มูรินโญ่ หรือการประกาศพาทีมคว้าแชมป์ภายใน 4 ปี ถ้าไม่ได้จะขอหนีไปคุมทีมในสวิตเซอร์แลนด์
หลายคนฟังในวันนั้น อาจไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงมาก แค่ขอให้มันดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็พอ เพราะช่วงนั้น แฟนบอล ของเราบอบช้ำมาก ไม่มีใครกล้าตั้งความหวังกับทีมที่ 5 เดือนก่อน แพ้ทีมอย่าง สโต๊ค หมดรูป 6-1 ในนัดอำลากัปตันทีมที่เป็นตำนานอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด
คล๊อปป์ ค่อยๆนำความเชื่อมั่นกลับมาสู่ทีม ค่อยๆเติมนักเตะที่เหมาะกับแผนการเล่น และค่อยๆขายนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการสร้างทีมออกไป ค่อยๆเปลี่ยนจากทีมที่สงสัยในความสามารถของตัวเองเป็นทีมที่มีความเชื่อมั่น
คล๊อปป์ เคยออกมาสัมภาษณ์ ว่ารู้สึกไม่สบายใจ ที่แฟนบอลเดินออกจากสนามก่อนหมดเวลา ทั้งๆ ที่ทีมยังคงพยายามเต็มที่เพื่อจะพลิกสถานการณ์กลับมา นั่นคืออีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของเขา
เขาคาดหวังให้แอนฟิลด์เป็นสถานที่ที่น่าเกรงขาม และหวังให้เหล่า ”เดอะ ค็อป” ทุกคนเป็นส่วนสำคัญตรงนี้ และคำขอของเขานั้น ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนบอลแฟนบอล เดอะ ค็อป ไม่เคยออกจากสนามก่อนหมดเวลาอีกเลย พร้อมกับปลุกอารมณ์ร่วมกับคลอปป์ทุกครั้ง ที่ทีมต้องการจนแอนฟิลด์กลับมาเป็น "นรก" ของทีมเยือนอีกครั้ง
สองปีครึ่งในตำแหน่งที่เขายังลองผิดลองถูก คล๊อปป์พาทีม เข้าชิง สามถ้วย ใน ลีคคัพ , ยูโรป้าคัพ และ แชมป์เปี้ยนส์ลีกแต่ พลาดท่าปราชัยทั้งสามรายการ จนในฤดูกาลต่อมา ระบบและ จิ๊กซอว์ ต่างๆที่คล๊อปป์นำมาปรับทีมจึงผลิดอกออกผล ด้วยตำแหน่ง แชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 และ สามารถทำแต้มในพรีเมียร์ลีกได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึง 97 คะแนน และ แพ้เพียงแค่นัดเดียว
แชมป์แรกมาในระยะเวลาเพียง 3 ปีครึ่ง และเป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป ใครจะไปคิดจากสภาพทีมที่เขาเข้ามาในวันนั้น เขาจะทำได้ตามที่บอก เขาเปลี่ยนลูกทีมจากที่สงสัยในความสามารถของตัวเอง สงสัยในทีม กลายเป็นทีมที่มีความเชื่อมั่นพร้อมที่จะท้าทายความสำเร็จทุกๆอย่าง
นอกเหนือจากรูปแบบการเล่น และ สามประสานเกมรุกที่น่าตื่นตาตื่นใจ คลอปป์ยังแสดงให้เห็นถึงการเป็นศูนย์กลาง ที่ทำให้นักเตะ “เชื่อมั่น” ในตัวเอง และทีม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการจัดการ และพัฒนา แอนดี้ โรเบิร์ตสัน , เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, ฟาบิญโญ่ ,อเล็กซ์ อ๊อกเลด-แชมเบอร์เลน และ โจ โกเมซ ให้กลายเป็นกำลังสำคัญของทีม
ในส่วนของ บอร์ดบริหาร FSG นั้น พวกเขาเห็นแพสชั่นที่หาได้ยากจากผู้จัดการคนอื่น และสัมผัสได้ทันทีว่าคล๊อปป์คือคนที่เหมาะสมสำหรับทีมในระยะยาว
ปลายฤดูกาลที่แล้ว คล๊อปป์ ตัดสินใจฝากชีวิตกับสโมสรที่เขาหลงใหลและ ต่อสัญญายาวไปจนถึงปี 2024 ถ้าถึงวันนั้น เขาจะอายุ 57 ปี เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการก้าวขึ้นไปคุมทีมระดับชาติ
คล๊อปป์ เคยบอกอยู่บ่อยๆว่าเขาจะไม่คุมทีมจนอายุมากขนาด เฟอร์กี้ หรือ เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน ดังนั้น ลิเวอร์พูล น่าจะเป็น สโมสรสุดท้ายที่เขาจะคุมทีมผมเชื่อเช่นนั้น
4 ปีสุดท้ายในสัญญาของเขานี้จะเป็น โปรเจค "THE LAST DANCE " ของ คล๊อปป์ ที่เขาพร้อมจะทุ่มเทและทำทุกอย่าง เพื่อที่จะกอบโกยแชมป์และความสำเร็จให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะเปลี่ยนไปหาความท้ายทายในระดับชาติ
นี่คือช่วงเวลาที่เด็กหงส์จะเก็บเกี่ยวความสุขและดื่มด่ำไปกับมัน กับยอดกุนซือคนนี้ คนที่นำความสุข ทำให้โลกสงบสุข และ นำรอยยิ้มกลับมาสู่แอนฟิลด์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ สุขสันวันเกิดย้อนหลังอายุครบ 53 ปี ครับบอส รักมากกก
#Klopp #Liverpool #Premier League #หงส์แดงตะแคงฟ้า
1 บันทึก
11
4
1
11
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย