20 มิ.ย. 2020 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
"เหวินเทียนเสียง" ขุนนางราชวงศ์ซ่ง
ผู้ไม่ยอมก้มหัวให้มองโกล
เหวินเทียนเสียง
เหวินเทียนเสียงเป็นเสนาบดีในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้
ซึ่งเป็นยุคปลายของราชวงศ์ซ่งแล้ว เขาเกิดเมื่อปี
ค.ศ.1236 ที่เมืองจี๋อาน ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองหูหนานและเจียงซี
ผู้นำมองโกลที่รุกรานราชวงศ์ซ่ง
ในปี ค.ศ.1276 ในสมัยจักรพรรดิซ่งกงจง
กองทัพมองโกลของกุบไลข่านตีได้เมืองต่างๆ ฝของจีน แล้วยกเข้าใกล้ราชธานีหลินอาน (หางโจว) ห่างจากกำแพงเมืองเพียง 30 ลี้
จักรพรรดิซ่งกงจงและไทเฮาเห็นว่าหมดทางสู้
จึงขอยอมแพ้ กองทัพมองโกลจึงบุกยึดเมืองหลวงไว้ได้ เหวินเทียนเสียงถูกจับตัวไว้ในกองทัพมองโกล แต่ก็หาทางหลบหนีออกมาได้
และจัดตั้งกองกำลังต่อต้านกองทัพมองโกล
เหวินเทียนเสียง ขณะหลบหนีจากกองทัพมองโกล
ในขณะที่ขุนนางอื่นที่ไม่ยอมแพ้ได้ย้ายราชธานี
ลงใต้ไปยังเมืองฝูโจว แล้วพากันยกองค์ชายเจ้าซื่อขึ้นเป็นจักรพรรดิซ่งต้วนจง มีเหวินเทียนเสียงเป็นอัครเสนาบดีใหญ่ ตั้งกองทัพต่อสู้กับมองโกล
ที่รุกรานลงมาทางใต้
จักรพรรดิซ่งต้วนจง
ในปี ค.ศ.1277 จักรพรรดิซ่งต้วนจงสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน ขุนนางพากันยกองค์ชายเจ้าปิ่งขึ้นเป็นจักรพรรดิซ่งตี้ปิง
เหวินเทียนเสียง รวบรวมกองทัพต้านมองโกล
1 ปีถัดมากองทัพมองโกลก็ยึดเมืองฝูโจวได้สำเร็จ
แต่เหล่าขุนนางก็ยังไม่ยอมแพ้ โดยย้ายราชธานี
ลงใต้ไปยังเมืองกว่างโจว ปลายปี ค.ศ.1278
ทัพมองโกลได้ยกทัพใหญ่บุกเข้ามาที่เขาอู่พัวหลิ่ง
(ทางเหนือของมณฑลกวางตุ้งปัจจุบัน) จับเอาเหวินเทียนเสียงไปเป็นเชลย แล้วเข้ายึดราชธานี
ที่กว่างโจวได้ในปี ค.ศ.1279
จักรพรรดิซ่งตี้ปิง จักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ซ่ง
จักรพรรดิซ่งตี้ปิงและบรรดาขุนนางหนีไปยังภูเขา
หยาซานริมทะเลซินฮุ่ย แต่กองทัพมองโกลก็ตามมาโจมตีอีก ลู่ซิ่วฟูขุนนางผู้ใหญ่ จึงแบกองค์ฮ่องเต้ลงเรือหนีฝ่าวงล้อมออกไปแต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายจึงจับฮ่องเต้หนีลงทะเลหายสาบสูญไป
ลู่ซิ่วฟู อัครมหาเสนาบดีคนสุดท้ายของราชวงศ์ซ่ง
เมื่อกองทัพมองโกลทำลายราชวงศ์ซ่งใต้ได้แล้ว
เหวินเทียนเสียงก็ถูกส่งขึ้นเหนือไปยังต้าตู (ปักกิ่ง)
ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1279 กุบไลข่านขังเหวินเทียนเสียงไว้ในบ้านเป็นเวลาถึง 4 ปี เพื่อเกลี้ยกล่อมและบังคับให้มารับใช้ราชสำนักมองโกล แต่เขาไม่เคยยอมสวามิภักติ์ต่อราชวงศ์หยวนเลย
สภาพบ้านในปัจจุบันซึ่งเป็นบ้านที่เหวินเทียนเสียงถูกขังถึง 4 ปีก่อนถูกประหารโดยจักรพรรดิกุบไลข่าน แห่งราชวงศ์หยวน
ในที่สุดปี ค.ศ.1283 เหวินเทียนเสียงก็ถูกประหารชีวิต ขณะที่เขามีอายุได้ 47 ปี โดยก่อนตายยังได้หันหน้าไปยังทิศใต้แล้วก้มลงคำนับต่อแผ่นดินเกิด
ส่วนหนึ่งของบทประพันธ์ "กั้วหลิงติงหยาง"
ช่วงที่เหวินเทียนเสียงถูกจองจำอยู่ที่ปักกิ่งนั้นเขา
ได้เขียนบทกวีต่างๆซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักขึ้นมาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบทประพันธ์ที่ชื่อว่า "กั้วหลิงติงหยาง" ซึ่งท่อนสุดท้ายนั้นโด่งดังมากเขียนว่า
"ชีวิตคนตั้งแต่โบราณมามีใครไม่ตายบ้าง เหลือไว้แค่เพียงหัวใจอันภักดีที่เจิดจรัสอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์"
เวลาผ่านไปจนถึงคราวที่ราชวงศ์หยวนของพวกมองโกลล่มสลายลงในปี ค.ศ.1368 แผ่นดินตกเป็นของราชวงศ์หมิง
พอถึงปี ค.ศ.1376 ได้มีการสั่งให้สร้างศาลเจ้าเหวินเทียนเสียง ไว้ในที่ที่เหวินเทียนเสียงเคยถูกจองจำอยู่
ศาลเจ้าเหวินเทียนเสียง กรุงปักกิ่ง ในปัจจุบัน
ศาลเจ้านั้นยังคงตั้งอยู่ตรงนั้นมาถึงปัจจุบัน พอถึงปี ค.ศ.1979 ได้ขึ้นทะเบียนโดยหน่วยงานปกป้องสมบัติทางวัฒนธรรมของปักกิ่งและในปี ค.ศ. 1983 ก็ได้มีการปรับปรุงและเริ่มเปิดเป็นสถานที่เที่ยวให้คนทั่วไปได้เข้าชมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1984
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา