20 มิ.ย. 2020 เวลา 06:52 • บันเทิง
Under Your Bed (2019)
 
Director: Mari Asato
 
นาโอโตะ มิทสึอิ (Kengo Kôra) นักศึกษาหนุ่มที่เป็นคนเก็บตัวเงียบ เขาได้รับความช่วยเหลือในห้องเรียนจาก ชิฮิโระ ซาซากิ (Kanako Nishikawa) สาวสวยเพื่อนร่วมห้อง คนที่โดดเดี่ยวอย่าง มิทสึอิ พอได้รับความช่วยเหลือจากคนที่คาดไม่ถึงอย่าง ซาซากิ ทำให้เขาเกิดความประทับใจในตัวเธอจึงรวบรวมความกล้า เอ่ยปากชวนไปนั่งดื่มกาแฟเป็นการขอบคุณ แต่กลายเป็นว่า ซาซากิ ต้องเป็นฝ่ายหาเรื่องมาชวนคุยตลอดเวลา จนในที่สุดเธอก็หาหัวข้อสนทนาที่ทำให้ มิทสึอิ เปิดปากพูดได้เสียที
 
มิทสึอิ ที่เป็นคนชอบเลี้ยงปลาสวยงาม เสนอตัวยกปลาที่ดีที่สุดของเขาให้กับเธอ ซาซากิ จึงรับไว้ด้วยความยินดี ความสัมพันธ์ที่ดูพัฒนาขึ้นไปในทางที่ดีของทั้งสองคน กลับจบลงในวันหนึ่งที่ ซาซากิ เป็นคนชวนฝ่ายชายไปหาที่ห้องด้วยซ้ำ แต่เมื่อไปถึงฝ่ายหญิงกลับไม่ออกมาพบซ้ำยังบอกว่าพวกเขาไม่ควรมาเจอกันอีก มิทสึอิ เลยได้แต่ทำตามคำพูดของอีกฝ่ายแม้เขาจะยังคงคิดถึงเธอ หลังจากทั้งสองคนเรียนจบได้ไม่นาน มิทสึอิ ก็ได้รับอีเมล์ส่งถึงเพื่อน ๆ รวมถึงเขาว่า ซาซากิ ตัดสินใจแต่งการกับนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งไปแล้ว
 
มิทสึอิ ที่กำลังมีกิจการร้านปลาสวยงามของตัวเอง ตัดสินย้ายขายร้านทิ้งแล้วเดินทางไปยังเมืองที่ ซาซากิ อยู่ ทว่าเขาตัดสินไม่เข้าไปทักทายเธอ เมื่อผู้หญิงที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าในตอนนี้ ช่างต่างจากคนที่เขาเคยรู้จักมากเหลือเกิน เธอกลายเป็นคนเศร้าหมองเหมือนเก็บกดความเจ็บปวดส่วนลึกอยู่ภายใน มิทสึอิ จึงตัดสินใจนำเงินทั้งหมดที่มี มาเปิดร้านขายปลาสวยงามตรงข้ามบ้านของ ซาซากิ แล้วแอบเฝ้ามองดูเธอในทุกวัน ๆ จนในที่สุดเข้าก็ได้รู้ว่า ผู้หญิงที่เคยสดใสในตัว ซาซากิ หายไปไหน แล้วสิ่งที่ มิทสึอิ ตัดสินใจจะทำต่อไปล่ะ มันจะเป็นการช่วยเธอหรือซ้ำบาดแผลให้ร้าวลึกลงไปอีก
 
***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ***
***
ตอนที่ได้อ่านพล็อตกับดูตัวอย่างในทีแรก ความคิดในตอนนั้นของผมมองว่าหนังอาจจะทำมา ในแนวเดียวกับหนังสเปนเรื่อง Sleep Tight (2011) อำมหิตจิตบงการ หรือว่าหนังเกาหลีเรื่อง Door Lock (2018) หรือเปล่า แต่หลังจากดูจบแล้วคงบอกได้ว่า หนังมีส่วนคล้ายกันแค่เรื่องของการซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงเท่านั้นเอง ส่วนที่เหลือนอกนั้นไม่มีอะไรใกล้เคียงกันเลย ยิ่งกับตอนจบของหนังมันกลายเป็นความเศร้า ที่คนดูอย่างเรา ๆ อาจจะกลั้นน้ำตาให้กับสตอลเกอร์โรคจิตอย่าง มิทสึอิ เอาไว้ไม่ได้
 
คนดูอย่างเราจะเห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ มิทสึอิ ตัดสินใจย้ายมาอยู่ใกล้บ้านของ ซาซากิ เลยว่า ผู้ชายคนนี้เป็นสตอลเกอร์แน่นอน เขาคลั่งไคล้เธออย่างมาก ในห้องของ มิทสึอิ มีทั้งหุ่นพลาสติกแทนตัวของ ซาซากิ มีรูปของเธอแปะเต็มผนังห้องไปหมด เขาส่องกล้องมองดูเธอทุกวัน เขาเข้าไปติดเครื่องดักฟังในบ้านเธอ ที่หนักไปกว่านั้นคือลงทุนนุ่งผ้าอ้อมสำเร็จรูป เพื่อเข้าไปซ่อนใต้เตียงแอบฟังผัวเมียเขาจู๋จี๋กัน
 
ชั่วขณะหนึ่งคนดูอย่างเรา ๆ ก็เหมือนกับ มิทสึอิ นั่นแหละ (ไม่ได้หมายความว่าเป็นสตอลเกอร์เหมือนกันนะ ฮ่าฮ่า) หมายถึงว่า มิทสึอิ ลืมถึงเหตุผลที่ตัวเองอยากรู้คำตอบว่าทำไม ซาซากิ ที่เคยสดใสจึงหายไป แต่หลังจากที่รู้เหตุผลนั้นแล้ว มิทสึอิ กลับไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เมื่อตัวเขาเองที่เป็นพวกสตอลเกอร์ก็ผิดมากอยู่แล้ว อีกด้านหนึ่งเขาก็อยากช่วย ซาซากิ แต่ความกล้ามันมีไม่มากพอ
 
ตอนที่เราดูมาถึงจุดนี้คนที่น่าสงสารที่สุดจึงเป็น ซาซากิ ที่สามีเป็นพวกใช้ความรุนแรง เขาทำเหมือนเธอไม่ใช่คนแล้วเธอก็ไม่สามารถหนีไปจากเขาได้เมื่อมีลูกด้วยกัน ซ้ำตัวเองยังกลายเป็นเป้าหมายของสตอลเกอร์อย่าง มิทสึอิ เนื้อหาหนังในส่วนนี้ให้พูตรง ๆ ค่อนข้างมีความรุนแรง ชวนหน่วง แล้วก็ฉากต่าง ๆ ก็ค่อนข้างไม่น่ามองประมาณหนึ่งเลยล่ะครับ
 
แต่อีกด้านหนึ่งหนังก็ค่อย ๆ เผยเรื่องราวของ มิทสึอิ ออกมาว่าทำไมเขาถึงได้ฝังใจกับ ซาซากิ นัก เมื่อถึงฉากสุดท้ายบทสรุปเรื่องราว ในหัวมันจึงสับสนไปหมดว่า ตกลงแล้วเราควรจะสงสาร มิทสึอิ ไหมหรือว่าไม่ควร เมื่อสิ่งที่ทำผ่านมาในการเป็นสตอลเกอร์มันก็แย่จริง ๆ แต่เหตุผลที่เขาตัดสินใจตามเธอมันก็ชวนให้น่าสงสาร เพราะเชื่อว่าทุกคนคงไม่มีใครอยากถูกลืม เพียงแค่การที่ ซาซากิ จดจำชื่อของเขาได้เพียงหนึ่งครั้ง มันก็คือความสุขมากมายสำหรับคนอย่าง มิทสึอิ แล้ว
 
เป็นหนังที่มีฉากจบที่ผมชอบอีกเรื่องหนึ่ง มันเรียบง่ายเหมือนกับหนังเรื่อง Guilty of Romance (2011) ของ ซิอน โซโนะ ฉากที่ตัวละครวิ่งตามรถขยะไปจนไปหยุดอยู่หน้าสถานที่แห่งหนึ่ง มันอธิบายสิ่งที่หนังพยายามสื่อสารได้ครบถ้วน ส่วนใน Under Your Bed เรื่องนี้ ที่แค่ตัวละคร ซาซากิ เอ่ยชื่อของ มิทสึอิ ออกมาแค่คำเดียว มันก็อธิบายเรื่องราวได้หมดจดเช่นกัน
 
สรุปแล้ว Under Your Bed (2019) เป็นหนังที่บอกกันตรง ๆ ว่าไม่เหมาะกับทุกคน หนังมีแต่ตัวละครที่หากไม่ป่วยหรือใช้ความรุนแรง ก็กลายเป็นเหยื่อโดนทำร้ายเสียเอง แต่ถามว่าหนังมันมีความน่าสนใจไหม ส่วนตัวผมมองว่ามันน่าสนใจตรงที่หนังจับประเด็น ของการอยากเป็นคนสำคัญของ สตอลเกอร์ ที่แค่ถูกจดจำได้เพียงครั้งเดียว นั่นก็คือความฟินสุด ๆ ของเขาแล้ว
1
โฆษณา